พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อว่า ทีมชุดเฉพาะกิจฯ ได้กำหนดภารกิจหลักในชั้นต้นไว้ ๔ ประการ คือ ๑.ให้การช่วยเหลือคนไทยที่กระจายอยู่บนเกาะ ๒.ช่วยเหลือแรงงานบนเรือที่อาจเป็นผู้เสียหายหรือคนที่ต้องการกลับบ้าน ๓.ตรวจสอบผู้เสียชีวิตในสุสาน และ ๔.ดำเนินการส่งกลับ ในวันนี้ทีมชุดเฉพาะกิจฯ จะลงพื้นที่เกาะเบนจิน่าเพื่อค้นหาลูกเรือประมงตกค้างและต้องการความช่วยเหลือ คาดว่าภายในวันศุกร์ที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๘ นี้จะทราบตัวเลขสรุปลูกเรือประมงที่ได้รับความช่วยเหลือทั้งหมด ทั้งนี้ได้รับการประสานว่ากระทรวงการต่างประเทศจะเร่งขั้นตอนกรณีการส่งกลับลูกเรือประมงให้เดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วคาดว่าไม่เกินสองสัปดาห์ และกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมจัดทีมสหวิชาชีพร่วมรับตัวลูกเรือประมงดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีลูกเรือประมงไทย ๒๑ คนที่เดินทางกลับมาแล้วนั้น เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๘ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ประสานทีมสหวิชาชีพประกอบด้วย พนักงานสอบสวนจากกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ นักสังคมสงเคราะห์จากกองต่อต้านการค้ามนุษย์ และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ(ชาย) จังหวัดปทุมธานี ร่วมกันสัมภาษณ์คัดแยกผู้เสียหาย ที่สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ (ชาย) จังหวัดปทุมธานี โดยผลการคัดแยกพบว่า มีลูกเรือประมงที่เข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จำนวน ๕ คน ซึ่งผู้เสียหายมีที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร นครราชสีมา ชลบุรี ชัยภูมิ และอุบลราชธานี ทั้งนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้มอบเงินกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นค่าครองชีพและการเดินทางกลับภูมิลำเนาสำหรับผู้เสียหายคนไทยส่งกลับจากต่างประเทศ คนละ ๓,๐๐๐ บาท และได้ประสานเจ้าหน้าที่จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเพื่อดูแลช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์ให้กับลูกเรือประมงทั้งหมดก่อนเดินทางกลับภูมิลำเนา นอกจากนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯจะได้ติดตามดูแลครอบครัวตามภูมิลำเนาเดิมของลูกเรือประมงไทยทั้งหมด เพื่อช่วยเหลือครอบครัวอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ลูกเรือประมงส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาแล้ว ยังมีลูกประมง จำนวน ๔ คน ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ๒ คน และไม่ได้เป็นผู้เสียหาย ๒ คน ที่ยังอยู่ในสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ (ชาย) จังหวัดปทุมธานี
"ประชาชนท่านใดที่ประสงค์จะสอบถามหรือขอความช่วยเหลือตามหาญาติ สามารถโทรมาสอบถามได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCCโทร ๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th