ในการนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีความยินดีกับข้อเสนอแนะของ EABC และเห็นว่าการเจรจา FTA ต้องสร้างประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ดี การเจรจาต้องดูความพร้อมของคู่เจรจาด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการค้าและการลงทุนอย่างเสรี ทั้งในระดับพหุภาคี และทวิภาคี และขจัดอุปสรรคทางการค้าต่างๆ ตลอดจนส่งเสริมให้ระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนโดยภาคเอกชน จึงขอให้ฝ่าย EABC มั่นใจในนโยบายการค้าและการลงทุนของไทย และเชิญชวนให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนของยุโรปเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ตลอดจนใช้ประโยชน์จากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
สมาคมการค้ายูโรเปียนเพื่อธุรกิจและการพาณิชย์ (European Association for Business and Commerce : EABC) เป็นสมาคมธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2554 เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหอการค้ายุโรปและองค์กรภาคธุรกิจทั้งที่อยู่ในไทยและยุโรป 16 แห่ง ร่วมกับนักธุรกิจยุโรปในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผนึกกำลังและทรัพยากรของภาคเอกชนยุโรป ให้เป็นหนึ่งเดียวในการสร้างความเข้มแข็ง ตลอดจนช่วยเหลือและส่งเสริมบรรยากาศทางการค้า การบริการ และการลงทุนให้กับบริษัทจากยุโรปในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและคาดหวังที่จะใช้ไทยเป็นประตูการค้าสู่ภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย
ปัจจุบัน EABC มีสมาชิกเป็นบริษัทของยุโรปที่มีธุรกิจในประเทศไทย จำนวนกว่า 2,000 บริษัท โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2558 EABC ได้ออกเอกสารท่าทีและจุดยืนของภาคธุรกิจยุโรปในประเทศไทยประจำปี 2558 (European Business Position Paper) ซึ่งเน้นย้ำว่า EABC สนับสนุนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่มั่นคงระหว่างไทยกับยุโรป โดยเฉพาะการเจรจา FTA ไทย-EU
ในปี 2557 สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทย เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 5 และเป็นแหล่งนำเข้าอันดับที่ 4 ของไทย โดยมีมูลค่าการค้ารวม 42,802.03 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปี 2556 ร้อยละ 3.62 โดยไทยได้ดุลการค้า 3,883.87 ล้านเหรียญสหรัฐ การส่งออกจากไทยไปสหภาพยุโรปมีมูลค่า 23,342.95 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ร้อยละ 4.22 การนำเข้ามีมูลค่า 19,459.08 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปี 2556 ร้อยละ 11.60
ที่มา: http://www.thaigov.go.th