พม. เร่งเยียวยาจิตใจ ด.ญ. วัย ๑๓ ปี ที่ถูกลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา ที่ จ.ชุมพร พร้อมช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสที่ประสบปัญหาทางสังคม ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ราชบุรี

ข่าวทั่วไป Friday April 3, 2015 14:20 —สำนักโฆษก

เมื่อวันที่ ๒ เม.ย. ๕๘ เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.)ครั้งที่ ๑๓๓/๕๗-๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม

นายเลิศปัญญา กล่าวว่า จากกรณีกรณีพ่ออายุ ๔๖ ปี พาลูกสาวอายุ ๑๓ ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับชายวัยรุ่น ๓ คน ที่ก่อเหตุหลอกลวงลูกสาวไปข่มขืนกระทำชำเราในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดชุมพร ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร (พมจ.ชุมพร)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กหญิงและครอบครัวโดยด่วน และหญิงชราวัย ๖๗ ปี ป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน ขยับตัวไม่ค่อยได้ อาศัยอยู่กับหลานสาว ๒ คน อายุ ๕ ปีและ ๑๒ ปี เคราะห์ร้ายเกิดอุบัติเหตุบ้านไฟไหม้ ทำให้โดนไฟคลอก อาการสาหัส ครอบครัวฐานะยากจน ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา อีกกรณีชายพิการ อายุ ๔๙ ปี ป่วยเป็นอัมพาตครึ่งตัว เนื่องจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องนอนบนเตียงนานกว่า ๒๘ ปี ครอบครัวฐานะยากจน แต่มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงใช้สีไม้บรรจงวาดพระสาทิสลักษณ์ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุครบ ๕ รอบ ในวันที่ ๒ เม.ย.๕๘ ที่จังหวัดราชบุรี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.)ทั้ง ๒ จังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น จัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาล และตรวจสอบว่าทั้ง ๒ กรณี ได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการหรือไม่ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป

นายเลิศปัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดกาญจนบุรีเข้าจับกุมชายพม่า อายุ ๔๐ ปี นายหน้าลักลอบขนชาวพม่าด้วยกัน เป็นชายและหญิง รวมจำนวน ๒๑ คน หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดต้องจ่ายค่าหัวให้นายหน้าคนละ ๑,๕๐๐ บาท เพื่อให้พาเดินทางส่งไปทำงานที่มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี (พมจ.กาญจนบุรี) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และนำทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ เพื่อผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป และกรณีหญิงสาวชาวเอธิโอเปีย อายุ ๒๔ ปี เข้าร้องเรียนต่อสภาทนายความ ว่าถูกสองสามีภรรยาที่เป็นนายจ้าง ซึ่งเป็นชาวเอธิโอเปียด้วยกัน ทุบตี ทำร้ายร่างกาย กักขัง ยึดหนังสือเดินทางไว้ และไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้ โดยระบุว่านายจ้างฝ่ายชายมีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์กรระหว่างประเทศในประเทศไทย ที่จังหวัดนนทบุรี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี (พมจ.นนทบุรี)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล กรณีที่กระทรวงฯ ต้องเข้าช่วยเหลือเยียวยาตามภารกิจของกระทรวงฯ ต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ