พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า ทุกภาคส่วนที่ดำเนินงานเกี่ยวกับผู้สูงอายุ ได้ตระหนักถึงการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทยในอีกไม่เกิน ๑๐ ปีข้างหน้า โดยมีการดำเนินงานเพื่อรองรับสังคมสูงอายุตาม พันธกิจของแต่ละหน่วยงาน และมีการบูรณาการงานด้านผู้สูงอายุเพียงบางหน่วยงานเท่านั้น ดังนั้น การทำงานพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุแบบบูรณาการในครั้งนี้ จึงเป็นการเชื่อมโยงงานของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ ๖ กระทรวงหลัก ให้สามารถดำเนินงานการดูแล คุ้มครองพิทักษ์สิทธิ และพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุได้อย่างเป็นระบบ และครอบคลุมทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสภาวะแวดล้อม โดยมีคณะอนุกรรมการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุเป็นกลไกในการขับเคลื่อนและพัฒนางานด้านผู้สูงอายุอย่างเป็นองค์รวม
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมดำเนินงานเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุเริ่มตั้งแต่ ๑) ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างความเข้มแข็งของชมรมผู้สูงอายุ ๒) สนับสนุนการจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุในพื้นที่ต่างๆ ๓) สนับสนุนการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ โดยใช้ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ (ศพอส.) เป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมต่างๆในพื้นที่ ๔) ส่งเสริม สนับสนุนการปรับสภาพแวดล้อม และจัดสิ่งอำนวยความสะดวกในที่พักอาศัยของผู้สูงอายุ
และสถานที่สาธารณะในชุมชน ๕) สนับสนุนการจัดกิจกรรมนันทนาการ และกิจกรรมทางวัฒนธรรมท้องถิ่นโดยการมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุ ๖) สนับสนุนการมีส่วนร่วมของในชุมชนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ และการดูแลผู้สูงอายุ ๗) ส่งเสริมการให้ความรู้เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมสู่วัยสูงอายุ และ ๘) ประสานความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ทั้งในส่วนกลาง และระดับพื้นที่ เพื่อสนับสนุนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ
“ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในครั้งนี้ จะทำให้เกิดพื้นที่ต้นแบบของการดำเนินงานบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและขยายผลการดำเนินงานไปสู่พื้นที่อื่นทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยเป็นสังคมสูงอายุที่มีคุณภาพต่อไป” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th