พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๒๕ กำหนดให้วันที่ ๑๓ เมษายนของทุกปีเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวที และให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุผู้ซึ่งได้สร้างสมสิ่งที่ดีงามให้แก่สังคม มายาวนาน คณะอนุกรรมการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ จึงได้กำหนดจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ปี ๒๕๕๘ ขึ้น ภายใต้แนวคิด "ภูมิปัญญาผู้สูงวัย พัฒนาสังคมไทยสู่ประชาคมอาเซียน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์สร้างกระแสให้สังคมตระหนัก ถึงความสำคัญ และการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมสูงอายุในบริบทประชาคมอาเซียน โดยส่งเสริมให้ผู้สูงอายุนำศักยภาพ ความรู้ ประสบการณ์ ความสามารถ และภูมิปัญญา ในการ ทำคุณประโยชน์ให้กับชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า จากสถานการณ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนประชากรสูงอายุในปัจจุบัน สิ่งสำคัญที่สังคมต้องตระหนักคือผู้สูงอายุเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าเปี่ยมล้นไปด้วยประสบการณ์ชีวิตและองค์ความรู้ต่างๆ ซึ่งจะเป็นรากฐานที่สำคัญในการที่จะสร้างความเข้มแข็งให้แก่ครอบครัว ชุมชน สังคม รัฐบาล ได้ให้ความสำคัญและ ให้การสนับสนุนให้ผู้สูงอายุร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนสังคม โดยได้เร่งรัดผลักดัน และระดมความร่วมมือทรัพยากรและ สหวิทยาการต่างๆ เพื่อสร้างหลักประกันด้านเศรษฐกิจ สังคมสุขภาพ การจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและปลอดภัย การคุ้มครองดูแลผู้สูงอายุ ตลอดจนการจัดสวัสดิการสังคมต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตให้กับผู้สูงอายุ รองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างครอบคลุมทุกมิติ รวมถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่มีความจำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องให้ความร่วมมือในการเตรียมความพร้อม ของประชากรทุกช่วงวัยให้สามารถก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุได้อย่างมีคุณภาพ มีสุขภาวะที่ดี และให้ผู้สูงอายุสามารถดำเนินชีวิตอยู่ร่วมในสังคมในปัจจุบัน และอนาคตได้อย่างมั่นคงมีความสุข ตามแนวคิดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ปี ๒๕๕๘ "ภูมิปัญญาผู้สูงวัย พัฒนาสังคมไทยสู่ประชาคมอาเซียน”
"สำหรับกิจกรรมงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ปี ๒๕๕๘ ในวันนี้ ประกอบด้วย การการมอบรางวัลให้แก่ผู้สูงอายุแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๕๘ ได้แก่ เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ รางวัลบุคคลและองค์กรที่มีผลงานด้านผู้สูงอายุดีเด่น ดีเด่น อาทิ วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย กรุงเทพฯ รางวัลผู้สร้างสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้สูงอายุ อาทิ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า รางวัลชมรมผู้สูงอายุที่ขับเคลื่อนการดำเนินงานศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ (ศพอส.) ดีเด่น อาทิ อาทิ ศพอส.หนองตองพัฒนา จ.เชียงใหม่ รางวัลผู้ชนะเลิศกรีฑาและกีฬาเปตองผู้สูงอายุไทย อาทิ นางลออ วรรณสุคำ นายพันธ์ พุทธเสน รางวัลผู้ชนะการประกวดภาพวาดผู้สูงอายุ อาทิ นางสาวอัญชลิกา แก้วจันทร์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาชลบุรี และรางวัลผู้ชนะการประกวดการกล่าวสุนทรพจน์ ได้แก่ ด.ญ.คุนัญญา เอโกมล โรงเรียนวัดตะกล่ำ กรุงเทพฯ รวมทั้งการ ขับร้องเพลงประสานเสียง การสนทนาในเรื่องทบทวนเข็มทิศชีวิต การกล่าวสุนทรพจน์ การถ่ายทอดภูมิปัญญาผู้สูงอายุ การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ ด้านกฎหมาย การประกอบอาชีพแก่ผู้สูงอายุ การแสดงนิทรรศการภาพวาดผู้สูงอายุที่ชนะ การประกวด และกิจกรรมบริการจากหน่วยงานต่างๆ อีกมากมาย ”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th