สถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวล่าสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 6 เมษายน 2558)
1. สถานการณ์นักท่องเที่ยวเมษายน 2558 ในระหว่างวันที่ 1 – 4 เมษายน 2558 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเยือนประเทศไทยจำนวน 337,490 คน ขยายตัวร้อยละ 37.8 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก ทั้งนี้คาดว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 500,000 คน ขณะเดียวกันก็จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวช่วงเดือนเมษายนและเทศกาลสงกรานต์อีกประมาณ 2 ล้านคน
2. สถานการณ์ท่องเที่ยวเมืองหลักกุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งประกอบด้วย กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ และสมุย จากการสำรวจอัตราการเข้าพักแรมในสถานพักแรมต่างๆ พบว่า โดยภาพรวมสถานพักแรมในเมืองท่องเที่ยวหลักมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย ร้อยละ 78 และขยายตัวร้อยละ 6.2 โดย จ.ภูเก็ตมีอัตราการเข้าพักสูงสุดเท่ากับร้อยละ 87.07 และกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีอัตราการเข้าพักเติบโตสูงสุด (ขยายตัวร้อยละ 12.2) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการขยายตัวของนักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนในเมืองสำคัญ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา และเชียงใหม่ ขณะที่กระบี่ และสมุยเติบโตจากนักท่องเที่ยวยุโรปเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม กรุงเทพฯ ยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของไทยโดยมีผู้เข้าพักกว่า 2.5 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าภูเก็ตที่เป็นอันดับที่ 2 กว่าเท่าตัว
3. สถานการณ์ท่องเที่ยว 12 เมืองต้องห้าม...พลาด กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งประกอบด้วย ตราด นครศรีธรรมราช เพชรบูรณ์ ตรัง ชุมพร จันทบุรี เลย น่าน บุรีรัมย์ ลำปาง ราชบุรี และสมุทรสงคราม จากการสำรวจอัตราการเข้าพักในสถานพักแรมต่าง ๆ พบว่า โดยภาพรวมสถานพักแรมในเมืองท่องเที่ยวรองมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 58 โดยตราดเป็นเมืองที่มีอัตราการเข้าพักสูงสุดเท่ากับร้อยละ 70.98 นอกจากนี้โดยภาพรวมสถานพักแรมในเมืองท่องเที่ยวรองขยายตัวร้อยละ 5.6 โดยสมุทรสงครามเป็นเมืองที่อัตราการเข้าพักขยายตัวสูงสุด (ขยายตัวร้อยละ 18.7) ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินงานตามโครงการ 12 เมืองต้องห้าม...พลาด โดยเฉพาะจังหวัดสมุทรสงครามที่ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อแขนงต่างๆ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง
ในโอกาสของเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดกิจกรรม “เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์” เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด โดยเน้นวิถีความเป็นไทย เป็นเทศกาลแห่งความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ สนุกสนานอยู่ภายในกรอบกติกา ที่กำหนด ในด้านความปลอดภัยได้บูรณาการแผนร่วมกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนโดยใช้ชื่อว่า “สติ วินัย ปลอดภัยสงกรานต์ สืบสานประเพณี” เพื่อให้ประชาชนเดินทางสัญจรอย่างปลอดภัยและมีความสุข
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็ยังขอเน้นย้ำถึงระเบียบข้อห้าม 8 ข้อ คือ
1. แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ล่อแหลม โดยรณรงค์ให้ใส่ผ้าไทย ผ้าพื้นเมือง หรือเสื้อลายดอก
2. การห้ามจำหน่ายและห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณที่มีการจัดกิจกรรมงานสงกรานต์
3. การห้ามเล่นน้ำที่มีสิ่งเจือปน แป้ง น้ำแข็ง และโฟม
4. การห้ามใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง หรืออุปกรณ์เล่นน้ำที่อาจเกิดอันตรายโดยรณรงค์ให้ใช้ขันน้ำตามประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิม
5. การห้ามขับรถกระบะบรรทุกน้ำในการเล่นน้ำสงกรานต์ไปในที่ชุมชน หรือบริเวณจัดงาน
6. การแสดงภาพลักษณ์ที่เหมาะสมในการเล่นน้ำสงกรานต์ โดยรณรงค์ไม่ให้มีการแสดงหรือการเต้น
7. หากมีการจัดกิจกรรมอื่นๆ เพื่อส่งเสริมประเพณีสงกรานต์ ขอให้จัดกิจกรรมที่สอดคล้องและ
8. ขอให้มีการกำหนดเวลาการเล่นน้ำที่ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาการจรจรและการเกิดอาชญากรรม
Grab Taxi มอบของขวัญวันสงกรานต์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวถึงอีกหนึ่งโครงการที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับพันธมิตร Grab Taxi จัดแคมเปญพิเศษเพื่อมอบเป็นของขวัญช่วงเทศกาลสงกรานต์แก่ประชาชนผู้ใช้บริการโดยมอบส่วนลดค่าบริการเดินทางทั้งการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ และกลับภูมิลำเนา โดยกล่าวว่ายินดีที่ทาง Grab Taxi ประเทศไทย เข้ามาร่วมจัดกิจกรรมเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ในการใช้บริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวไปเล่นน้ำยังสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ หรือพี่น้องประชาชนที่ต้องการเดินทางไปและกลับสู่ภูมิลำเนาก็สามารถใช้บริการ GrabTaxi เพื่อส่งให้ท่านเดินทางไปยังจุดเชื่อมต่อรถโดยสารประจำทาง สนามบิน หรือเดินทางไปทั่วกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกสบาย ลดปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร ถึงแม้อยู่ในจุดที่ไม่ใช่เส้นทางหลักก็สามารถเรียกใช้บริการ GrabTaxi ได้อีกด้วย
การลงนามความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทย-รัสเซีย
ในวันนี้ประเทศไทยได้ให้การต้อนรับ นายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งมีกำหนดเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 7-8 เมษายน 2558 ในฐานะแขกของรัฐบาล ตามคำเชิญของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และขยายความร่วมมือในสาขาต่างๆ บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน และภายหลังการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝุยก็เป็นพิธีลงนามความตกลงระดับทวิภาคีในสาระสำคัญด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับรัสเซีย ในประเด็นเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว, การส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับชาติ ได้แก่ การเข้าร่วมกิจกรรมที่ดำเนินการโดยหน่วยงานท่องเที่ยวของแต่ละฝุย, การศึกษาและการฝึกอบรม การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ, กฎหมายด้านการท่องเที่ยว, การลงทุนด้านการท่องเที่ยว, ความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th