พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านหลายพันกิโลเมตร และยังเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมในภูมิภาค รวมทั้งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยทำให้แรงงานจำนวนมาก จากประเทศเพื่อนบ้านเคลื่อนย้ายเข้ามา หรือเคลื่อนย้ายผ่านประเทศไทย ทั้งที่เข้าเมืองโดยถูกกฎหมายและ ผิดกฎหมาย เพื่อมาทำงานที่มีรายได้ดีกว่าในประเทศของตน อีกทั้งผู้ประกอบการของไทย และประเทศที่สามก็มีความต้องการแรงงานต่างด้าวมาทำงานบางประเภทที่คนในชาติไม่นิยมทำ เช่น งานกรรมกร งานในอุตสาหกรรมประมง และประมงต่อเนื่อง จึงเกิดขบวนการนำพาหรือหลอกลวงทั้งจากประเทศต้นทางและประเทศปลายทาง เช่นเดียวกับแรงงานไทยและคนไทยจำนวนไม่น้อยก็ต้องการเคลื่อนย้ายไปทำงานในต่างประเทศ ทั้งที่เดินทางโดยสมัครใจ และที่ถูกหลอกลวงว่าจะได้รายได้ที่มากกว่า ตลอดจนค่านิยมทางวัตถุจากปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ จึงทำให้คนไทยและ คนต่างด้าวจำนวนหนึ่งตกเข้าสู่ขบวนการค้ามนุษย์ ทั้งในประเทศตนเองและประเทศอื่น
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยได้พยายามดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง โดยได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.๒๕๕๑ เพื่อมาบังคับใช้ กับการค้ามนุษย์เป็นการเฉพาะ และยึดหลักการดำเนินงานตามมาตรฐานสากลที่เรียกว่า 5P โดยปีที่แล้วเป็นปีแรกที่มีการกำหนดให้มีหน่วยงานหลักเป็นผู้รับผิดชอบในการประสานงาน ขับเคลื่อนงาน รวมถึงรับผิดชอบการจัดทำรายงานประจำปี ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จึงได้เปิดตัวงาน “เวทีสื่อสาร...เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์” ครั้งที่ ๑ เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว สำหรับครั้งนี้ เป็นการจัดงานครั้งที่ ๒ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงานสำคัญประจำปี ๒๕๕๗ ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบ และเปิดช่องทางในการพูดคุย
“สำหรับปีนี้ ได้มีกิจกรรมพิเศษ คือ พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงแนวทางปฏิบัติร่วมกันระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานอัยการสูงสุด เรื่องระบบฐานข้อมูลด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย เพื่อให้มีระบบฐานข้อมูล และพัฒนาให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งนี้ ตนขอเน้นย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้พยายามเดินหน้าแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์มาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อท้าทายบางประการที่จะต้องเร่งรัดและแก้ไขให้มีประสิทธิภาพ และเห็นผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งกระทรวง การพัฒนาสังคมฯ พร้อมที่จะรับฟังข้อเท็จจริง ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน และดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อให้การค้ามนุษย์หมดสิ้นไปจากประเทศไทย” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th