วันนี้ (17 เม.ย.58) เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 6 เดือน โดยมีคณะรัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง ปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการ โฆษกกระทรวง เจ้าหน้าที่กระทรวง สื่อมวลชนในประเทศ สื่อมวลชนต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 6 เดือน ดังนี้
วันนี้เป็นวันดี เป็นวันพระ เมื่อเช้าผมก็ไหว้พระมาแล้วว่าทำอย่างไรใจจะเย็น อารมณ์ดี ๆ ตลอดเพราะว่าเป็นสงกรานต์ด้วย ปีใหม่พอดีด้วย วันนี้เลยกำหนดว่าในวันนี้เป็นการแถลงผลงานของพวกเรา พวกเราก็คือทั้งรัฐบาล ข้าราชการ พ่อค้าประชาชนต่าง ๆ ทั้งหมดที่เป็นคนไทยทั้งสิ้น รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลผม รัฐบาลของคนไทยทั้งประเทศ ทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศ ไม่ได้ทำเพื่อใครทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นวันนี้อย่างที่กราบเรียนไปแล้วว่า หลังจากที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 ขณะนี้เป็นเวลา 6 เดือนแล้ว 6 เดือนของรัฐบาล และ 5 เดือนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็เป็นความต่อเนื่องกัน การเข้ามาบริหารแผ่นดินครั้งนี้นั้นมีเงื่อนไขและเงื่อนเวลาที่แตกต่างจากรัฐบาลที่ผ่านมานะครับ อันนี้ต้องเข้าใจด้วยกันว่าเราเข้ามาทำอะไร มาเพื่อจะให้เกิดการปฏิรูป และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่มีความลึกซึ้ง ทับซ้อนกันมาเป็นเวลายาวนาน ต้องแก้ไขอย่างทั้งระบบ ในด้านเงื่อนไขของรัฐบาลนี้ก็คือต้องมาสานงานต่อจากภารกิจของคณะ คสช. เรียกย่อ ๆ ได้กำหนดแนวทางการแก้ปัญหาประเทศไว้เป็น 3 ระยะ ระยะแรกคือการระงับยับยั้งความขัดแย้ง แก้ไขผลกระทบจากการที่รัฐบาลในอดีตอยู่ในสภาพที่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ นี่ต้องเข้าใจกัน เพราะอย่างไรก็ทำงานไม่ได้ ไม่มีอำนาจเต็ม เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ และนำความสงบสุขมากลับคืนสู่ประเทศ อันนี้ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนนะครับที่ทำให้บ้านเมืองเรียบร้อยมาถึงวันนี้ได้ ทั้งในห้วง คสช. และห้วงรัฐบาล 6 เดือน
ระยะที่ 2 นั้นเราก็จะมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ซึ่งเราใช้เวลาทำประมาณสัก 3 เดือน เพราะถ้าไม่ได้เข้ามาบริหารราชการทำไม่ได้แน่นอน เพราะฉะนั้นงบประมาณปี 2558 ก็ไม่สำเร็จ เราก็ทำในแนวใหม่ถึงแม้เวลาจะน้อยจำกัด เราก็มีการจัดกลุ่มของการบูรณาการงานของทุกกระทรวงในกลุ่มงานเดียวกันให้สามารถที่จะเดินหน้าต่อไปได้ ด้วยความร่วมมือซึ่งกันและกันไม่ทับซ้อนกัน ไม่ใช้จ่ายงบประมาณที่สุรุ่ยสุร่าย จัดระเบียบใหม่ทั้งหมด ตอนนี้ก็เดินหน้าไปตามพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2558 จากนั้นมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเมื่อ 30 สิงหาคม 2557 แล้ว คสช. ก็ได้ลดบทบาทลงมาเป็นผู้สนับสนุนให้ เป็นที่ปรึกษาให้ แล้วก็ติดตามขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์ให้ โดยการใช้อำนาจที่มีอยู่ในช่วงอดีตและปัจจุบัน อันนี้เป็นความจำเป็นนะครับ ถ้าเราไม่มีอำนาจตัวนี้ เราทำไม่ได้เลย ท่านก็เห็นอยู่ว่าความขัดแย้งต่าง ๆ มีมากมาย วันนี้ถึงแม้ท่านบอกว่ารัฐบาลใช้อำนาจในทางที่ดุเดือดไปหน่อย เด็ดขาดเกินไปหน่อย ผมถามว่าผมใช้เพื่อทำให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้มันจะเป็นอย่างไร วันนี้คนในประเทศก็ยอมรับได้ ยอมรับได้ก็คืออยากให้ประเทศชาติปลอดภัย ผมไม่ต้องการหวังอย่างอื่น ใครจะเข้าใจไม่เข้าใจอย่างไรก็ตาม ผมถือว่าคนไทยทั้งชาติเข้าใจผม ก็มีกำลังใจที่จะทำงานต่อไปได้ ทั้งรัฐบาลและข้าราชการ
หลังจากที่ คสช. ลดบทบาทไปแล้วก็แก้ปัญหาในเรื่องของความสงบเรียบร้อย แล้วก็ติดตามอย่างที่ผมเรียนแล้ว มีท่านรองนายกรัฐมนตรี จะมีการทำงานสองขาด้วยกัน คือขาของรัฐบาลและขา คสช. ไม่ใช่เป็นการถ่วงดุล ไม่ใช่เป็นการทำให้ล่าช้า เพียงแต่ช่วยเสริมกัน คสช. จะไปติดตามว่างานยุทธศาสตร์ที่สั่งไปแล้วนี้เดินหน้าไปถึงไหนอย่างไร ติดขัดตรงไหนก็จะกลับมาที่รัฐบาล รัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขต่อไป ต้องเข้าใจตรงนี้ การทำงานอย่าไปคิดแบบเดิม แบบเดิมสั่ง ๆ ไปแล้วก็สำเร็จไม่สำเร็จไม่รู้ แล้วก็เป็นอย่างที่ว่า อย่างที่ผ่านมา
ในปัจจุบันนั้นเรากำลังขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย การปฏิรูปนี้ถ้าแปลตามคำก็คือการทำใหม่ในทุก ๆ เรื่อง ซึ่งเราก็พยายามทำตรงนี้อยู่ ในห้วง คสช. เราก็ทำบางเรื่องที่ทำได้ เรื่องการจัดระเบียบสังคมอะไรต่าง ๆ เหล่านี้ก็ทำไปแล้ว ในส่วนของระยะที่ 2 ตอนเป็นรัฐบาลก็อีกเรื่องหนึ่ง เราต้องเตรียมการที่จะปฏิรูปในระยะที่ 3 ระยะที่ 2 มีอะไรที่แก้ไขกฎหมายได้แล้ว ใน พ.ร.บ. ในกฎหมายอะไรแล้วแต่ กฎกระทรวงก็ทำมา อะไรทำได้นั่นทำใหม่ ข้าราชการเขาช่วยกันทำมาตลอด สำหรับในช่วงที่ 3 คือเตรียมการส่งต่อไป โดยมีการจัดตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ คณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญซึ่งก็จะมีปัญหาอยู่พอสมควร เพื่อจะออกแบบวางรากฐานการเมือง เศรษฐกิจ สังคมที่มั่นคงให้กับประเทศ แล้วระยะที่ 3 ถ้ารัฐธรรมนูญสามารถผ่านได้โดยที่ไม่มีความขัดแย้ง ก็สามารถจะเลือกตั้งได้แล้วกัน 3 ระยะอย่ามาหาว่าผมต้องการจะดึงให้อยู่ต่อ ให้อะไรต่าง ๆ ให้ใช้อำนาจ ไม่ใช่ อยู่ที่ประชาชนทั้งประเทศ ท่านจะเอาอย่างไร ท่านจะให้กลับไปที่เก่าหรือไม่ ถ้าไม่ให้กลับไปที่เก่ารัฐธรรมนูญก็ต้องมีบทเฉพาะกาล หรือมีอะไรต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง ไม่อย่างนั้นก็เหมือนเดิม เหมือนเดิมแล้วท่านรับประกันได้ไหมว่าอะไรจะเรียบร้อย สิ่งที่เราเจอปัญหาเยอะแยะอื่น ๆ จะแก้ด้วยอย่างไร ก็ฝากด้วยช่วยกันคิดบ้าง ในส่วนของเงื่อนไขเวลาต่าง ๆ ที่วางไว้ทั้งหมดผมก็ไม่เคยไปเปลี่ยนแปลงตรงนั้น แต่มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แล้วผมยืนยันว่าผมไม่ได้ต้องการที่จะอยู่ในอำนาจเพื่อจะแสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่เคยได้ประโยชน์สักอย่าง มีแต่ได้รับคำชมบ้าง ตำหนิบ้าง ตำหนิก็เยอะ ชมก็เยอะ เพราะฉะนั้นผมก็ไม่ถือเป็นอารมณ์ตรงนี้ แต่ความหงุดหงิดก็มีบ้าง
ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นเราได้มุ่งมั่นและทุ่มเททั้งการแก้ปัญหาเร่งด่วนให้กับประชาชนผู้เดือดร้อน แต่การแก้ปัญหาของเราเป็นการแก้ทั้งระบบ แล้วก็มาทำเฉพาะเรื่อง เฉพาะเวลา ห้วงเวลา มันไม่ใช่แก้ปัญหาระยะยาว เราก็ต้องเดินปัญหาระยะยาวไปด้วย เร่งด่วนก็ทำ จะเห็นได้ว่าเราก็ดูแลเกษตรกร แต่เรื่องการปรับพื้นที่ในการเพาะปลูก ทำในเรื่องของ Demand Supply ทำในเรื่องของการช่วยเหลือเกษตรกรในค่าใช้จ่าย ก็ดำเนินการอยู่ ก็เดินไปได้ไม่มากนักตรงนั้นเพราะว่าความเข้าใจยังไม่มีอยู่ ทุกคนคุ้นเคยกับการที่มีปัญหาอะไรก็รัฐดูแล หาเงินใส่เข้าไป ๆ ก็เป็นภาระ วันนี้เราก็ไม่เข้มแข็ง เพราะฉะนั้นก็ต้องดูทั้งสองอย่าง ไม่ใช่ว่าทอดทิ้งเขาหรอก รัฐบาลที่แถลงไว้นโยบายมี 11 ด้านด้วยกัน เดี๋ยวคงไม่ต้องทวน เอกสารมี อ่านด้วยนะ กรุณาอ่านหน่อย ถ้าไม่อ่านก็ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้แล้วก็ไปเขียนวิจารณ์ในทางที่ไม่ค่อยถูกต้อง จำเป็นต้องเรียนพวกเรา ผมไม่ได้ว่าท่าน เพียงแต่ว่าผมอ่านสื่อทุกวัน บางทีก็ไม่ค่อยสบายใจ บางคนก็ย้อนกลับไปโน่น เรื่องนี้ทำไมไม่ทำ เขาทำไปตั้งนานแล้ว ทำไปตั้งแต่ 5 เดือนแรกแล้วยังมาเขียนวันนี้เลย นี่ผมก็ไม่รู้เป็นอะไร คือไม่ชอบฟัง
นิสัยคนไทยมีอยู่สองอย่าง คนส่วนหนึ่งนะ อาจจะเป็นนิสัยที่ดีหรือไม่ดีผมไม่แน่ใจนะ เดี๋ยวช่วยกันวิเคราะห์หน่อย อันแรกคือว่าพออะไรขึ้นมาที่ใหม่ ๆ ยังไม่ทันฟัง พอเริ่มต้นภาษี ยกตัวอย่าง พอเรื่องภาษีเอาละต้องเล่นงานสมหมาย ภาษี ยังไม่รู้เลยจะเสียอะไรที่ไหนเมื่อไร อย่างไร เขาจะประกาศเมื่อไร เขาจะใช้เมื่อไร ใครจะต้องเสียบ้าง เสียเท่าไร อะไร ตัวเองยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเสียเท่าไร แต่ติไว้ก่อนเพราะมันเสีย เรื่องนิสัยตรงนี้ต้องแก้ไข คิดอะไรลึกซึ้งก่อน พิจารณาหาข้อสรุปให้ได้ก่อนแล้วค่อยตำหนิกันมา ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่มีกำลังใจในการที่จะคิดอะไรใหม่ ๆ นะผมว่า เราทำเพื่อวันหน้าไม่ได้ทำเพื่อวันนี้ ไม่ใช่รัฐบาลตูดขาด ไม่ใช่ ก็มันเป็นอย่างนี้ ก็เป็นอย่างนี้ เงินมีเท่านี้ก็เท่านี้ ใช้จ่ายอะไรบ้างก็ใช้ไป แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ไปสร้างภาระระยะยาวให้กับคนอื่น เหมือนที่ผมรับมานี้ นี่นิสัยแรกนะ ดีหรือเปล่าไม่รู้ ดีไหม มันก็แตกแยกกันอยู่แบบนี้ อันที่สอง นิสัยอีกอันคือว่าชอบสร้างวาทกรรมกัน พาดหัวข่าวบ้างอะไรบ้าง บางทีผมเห็นหัวข่าวก็โมโหนะ หัวข่าวอ่านแล้วดูไม่ดี ปกหน้าอะไรทำนองนี้ กลับมาเปิดข้างในสาระก็ดีนี่ แต่ต้องเอาอะไรมาพาดหัวให้คนตกใจเล่น ไม่ว่าจะเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะความมั่นคง ไม่ว่าจะอำนาจ ไม่ว่าจะประชาธิปไตย ไม่รู้จะเอาเรื่องนี้มาทำไมให้เกิดความขัดแย้งมาก ผมเรียนแล้วว่าพวกเราตั้งใจจะทำให้ประเทศชาติ สงบ ปลอดภัยอย่างยั่งยืน เดินหน้าประเทศให้มีความเข้มแข็งในทุกภาคส่วน พูดจนไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่ต้องมีวิธีการดำเนินการเก็บทีละขั้นทีละตอน ถ้าสร้างวาทกรรมกันว่า ถ้าเป็นการทำเพื่อประชาชน ทุกคนพอใจ เช่น ราคาข้าว ซึ่งจะ 15,000 บาทหรืออะไรผมไม่รู้ มันใช่หรือเปล่าผมก็ไม่รู้ ก็บางคนบอกว่าทำเพื่อคนจน เพื่อเกษตรกร ผมก็มาพิจารณาว่าทำไมเขาพูดอย่างนั้น เกษตรกรที่เป็นชาวนาเป็นเกือบ 10 ล้านคน ทั้งหมด 10 กว่าล้านคนมีชาวนา 7 ล้านคน ตัวเลขกลม ๆ ถ้าได้คนพวกนี้กลับมาก็เป็นคะแนนเสียงของเรา ซึ่งผมไม่ต้องการคะแนนเสียงตรงนี้ ผมต้องการทำอย่างไรให้คน 7 ล้านคนหรือคน หรือคน 12 ล้านคนเขามีอาชีพ มีรายได้ที่เหมาะสม ต้องไปดูทั้งระบบ ตั้งแต่ระบบการผลิต ระบบการจำหน่าย ก็ไปดูประชาชนเรียนรู้เรื่องการค้า การลงทุนแค่ไหนอย่างไร งบประมาณการเงินเป็นอย่างไร บางคนไม่รู้ ชาวนาแทบไม่รู้เลย รู้แต่เพียงว่าขาดทุน ๆ ไม่เคยได้เงิน ถึงจะ 15,000 บาทก็ได้เงินน้อย ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้มา อีกส่วนไปไหนไม่รู้ ก็ไปว่ามา อยู่ในกระบวนการยุติธรรม
ในส่วนนิสัยอันที่สอง ที่ผมบอกว่าวาทกรรม เพราะไปแตะเรื่องนี้ขึ้นมาปั๊บ ก็จะมีคนพูดบอกว่าทำไมทำเพื่อคนจนไม่ได้หรือ ทำเพื่อเกษตรกรไม่ได้หรือ ไม่เห็นจะเป็นอะไร จะเสียเงินเท่าไรก็ไม่ว่า แล้วมันใช่ไหม สังคมไปวิเคราะห์ดูสิมันใช่ไหม ประเทศไทยมีแต่เกษตรกรอย่างเดียวหรือ ต้องใช้งบประมาณไปทำตรงอื่นด้วยไม่ใช่หรือ ใช่ไหม ก็ต้องดูทุกอย่างให้เข้มแข็ง ถัวเฉลี่ยแบ่งปันกันบ้าง ถ้าทุ่มไปตรงนี้หมดก็หมด ข้าวเสร็จ ยางเสร็จ ไปมันสำปะหลัง กลับไปอะไรอีก สับปะรด ไปอ้อย ไปหมด ก็เอาเงินให้หมด แล้วเอาเงินที่ไหนให้ แทนที่เราจะเอาเงินไปให้แก้ปัญหาเร่งด่วนที่วันนี้เขาเดือดร้อน ไม่มีเงินใช้จ่าย จะทำอย่างไร แต่ไม่ใช่ไป Subsidize เขาทั้งหมด ไม่ได้ ให้เขาเข้มแข็ง ให้เขาไปมีเงินใช้จ่ายหมุนเวียนในการลงทุนของเขาใหม่ ในการปลูกพืชใหม่อะไรทำนองนี้ ก็ยังไม่เกิดขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าต้องสร้างความเข้มแข็ง ต้องให้เขาเรียนรู้ก่อน ผมบอกแล้วว่าเราใช้แนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาโดยตลอดในรัฐบาลนี้ เอามาทำให้จริงจังเถิด เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีธรรมาภิบาล ท่านทรงห่วงใยประชาชนทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะภาคเกษตรกร แต่ท่านสอนให้เบ็ดตกปลา ไม่ใช่ให้ปลาไปกิน ปลาไปกินสองวันก็หมด เก็บไว้ก็เน่าใช่ไหม แล้วก็ไม่มีปลาเพียงพอที่จะให้ทั้งหมด คิดง่าย ๆ
รัฐบาลให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนทั้ง 11 นโยบายที่ว่า เดี๋ยวท่านรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบแต่ละฝ่ายคงจะมาเรียนให้ทราบนะครับ รัฐบาลก็ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล บางคนบอกทำไมไปช้าจริง ก็ลองคิดดูแล้วกันว่าการเรียนหนังสือ ผมยกตัวอย่างนะ เรียนหนังสือกว่าจะรู้เรื่อง ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ใช่ไหม ป.3 ยังอ่านหนังสือไม่ออกเลย ถ้าเร่งเกินไปก็เละทั้งหมด เพราะไม่เข้าใจกัน เพราะฉะนั้นค่อย ๆ เดินไป ๆ จะมั่นคงกว่า เดินด้วยความมีแผนงานที่ดี มียุทธศาสตร์ที่ตรงกับความต้องการเพื่อวันนี้เพื่ออนาคต เพื่อแก้ไขอดีต แล้วก็เดินไปอย่างนี้ ต้องช้าแต่มั่นคง ถ้าเจออุปสรรคเจอข้อผิดก็หยุดรอไว้หน่อย นี่เขาเรียกมีภูมิคุ้มกัน รัฐบาลก็จะต้องหยุด แล้วมาทบทวนว่าจะทำอย่างไร พลังงาน ภาษีต่าง ๆ แต่ต้องทำทั้งหมด วันนี้ถ้ามีปัญหายังไม่เข้าใจกันก็หยุดไว้ก่อน แต่ก็ต้องทำ ผมกราบเรียนว่าต้องทำ ทำอย่างไรก็ว่ากันอีกที อย่าเพิ่งไปเดือดร้อน อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ แล้วอย่าไปสร้างวาทกรรมก็แล้วกัน ว่าทำนี่เพื่อคนโน้นทำเพื่อคนนี้ ท่านรัฐมนตรีคนนั้นมีเรื่องนี้เรื่องนั้น ผมบอกแล้วรัฐมนตรีทุกคนมาด้วยความจำใจ อยากจะช่วยชาติ ถ้าผมไม่ขอมาท่านก็ไม่มาหรอกจะบอกให้
ผมต้องแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ถึงแม้ว่าจะมาแบบนี้ เราก็ให้ความเป็นธรรม ให้มีโอกาสโต้แย้งอะไรต่าง ๆ ได้ทุกวัน ชี้แจงได้ทุกวัน ผมฟังทุกเรื่อง ไปดูตัวอย่างต่างประเทศสิเขามีไหม รัฐบาลแบบนี้เขาไม่มีให้พูดแบบนี้ ไม่มี เพราะฉะนั้นต่างประเทศก็ต้องเข้าใจเราด้วย เรื่องต่างประเทศอย่าไปกังวล ผมส่งผู้หลักผู้ใหญ่ไปคุยแล้วกับทูตทุกประเทศ เขาไม่เข้าใจหลาย ๆ เรื่อง แล้ววันนี้เขาเข้าใจแล้ว แล้วเขาก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าถ้าเกิดอย่างนี้กับเขาแล้วเขาจะทำอย่างไร อันนี้ไม่ได้ทะเลาะกับใครทั้งสิ้น เราคบกับคนทั้งโลกอยู่แล้ว เว้นแต่ผู้ร้าย ไม่คบด้วย พวกทุจริตไม่คบ ถ้าคนดีคบหมด จะไทยจะต่างประเทศ วันนี้ก็ลงทุนกันทั่วไปในประเทศไทย เพราะฉะนั้นเราจะต้องขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ให้สัมฤทธิ์ผล เช่น เราตั้งคณะกรรมการตั้งเยอะแยะ คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช. ผมบอกแล้วขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลวางเอาไว้ ในส่วนรัฐบาลก็จะมีคณะขับเคลื่อนของรัฐบาล คือ กขร. จำได้ จำด้วยนะ กขย. กขร. ตัวย่อเยอะ กขย. นี่นักข่าวเขาบอกเขาจะไปตามมีท่านรองนายกรัฐมนตรีพลเอก ประวิตรฯ ท่านไปดูแลให้อยู่ ก็ไปตามเอาตรงนั้น มีทหารอยู่ทุกพื้นที่ มีทหาร ตำรวจ ข้าราชการทุกพื้นที่ก็ไปช่วยกัน ไม่ใช่ว่าเอาปืนไปจ่อเขา ไปบังคับเขา ไม่เคยเลย ผบ.ทบ. และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ไม่ได้เคยสั่งให้ทหารเอาปืนไปไล่จ่อใครเขาจะต้องทำตามนี้ตามนั้น ไม่มี ไม่เคยทำ ไม่ให้ทำด้วย
ในเรื่องของการขับเคลื่อนเร่งรัดการบริหารนโยบายรัฐบาล รัฐบาลก็จะมีขาของรัฐบาล มีระเบียบสำนักนายกฯ ก็ไปตามทุกเรื่องว่าถึงไหน ๆ แล้วกลับขึ้นมารายงานรัฐบาล มีการรายงานผมทุกสัปดาห์ สองอันนี้จะขึ้นมาเป็นฐานข้อมูลตรงกันให้ผมสั่งการในคณะรัฐมนตรีลงไปแก้ไขปัญหาข้อติดขัด ข้อติดขัดบางอันก็ต้องใช้มาตรา 44 เพราะกฎหมายไปไม่ได้ กฎหมายทำอะไรไม่ได้เลย เพราะกฎหมายยังแก้ไขไม่เสร็จ ยังเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยังไม่ได้ผ่านวาระที่ 3 ที่จะบังคับใช้กฎหมาย แล้วหลังจากผ่านวาระที่ 3 แล้วต้องมีเวลาทิ้งช่วงอีก 30 วัน,60 วัน,90 วัน มีผลบังคับใช้ ต้องเข้าใจนะ กฎหมายทุกอันเสนอเข้าไปยังไม่ได้ออกมาทั้งสิ้นเลย ถ้าตราบใดที่ยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมา ไม่ได้ลงในราชกิจานุเบกษา ใช้ไม่ได้หมด เพราะฉะนั้นอย่าไปวิตกกังวล เดี๋ยวก็แก้กันไป ผมบอกแล้วว่าช่องทางมีอยู่แล้ว ไปเข้า สนช. เข้า สปช. ก็ว่าไป กว่าจะออกอีกไม่รู้เมื่อไร ถ้ายังขัดแย้งกันอยู่ ยังไม่ตรงกันอยู่ก็ไปหาทางให้ตรงกัน ผมไม่รู้ แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ วันหน้าก็ไม่ปกติอีก เดี๋ยวผมสรุปตอนท้ายอีกที เพราะฉะนั้นวาทกรรมแบบนี้เลิกเสียที เรื่องวาทกรรมอย่าพูดอีก ทำเพื่อคนจน เสียเงินเท่าไรก็ต้องยอม หรือว่าคนจนจะมีรถคันแรกไม่ได้หรืออย่างไร พูดทำไมนี่ พูดทำไม ๆ ผมถามพูดทำไม แล้วใครมีรถคันแรกมานั่งอยู่นี่มีไหม ใครซื้อบ้าง ทำไมไม่ซื้อ จะได้เพิ่มการส่งออก การอุตสาหกรรมรถให้เยอะ ๆ อย่างที่ต้องกา นั่นคือความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ถ้า Demand เทียม ไม่ใช่ Demand ความต้องการที่แท้จริง ไม่ใช่กำลังที่เขาจะผ่อนได้ อันนี้รัฐบาลเขาให้ไปก่อน 100,000 บาท ใช่ไหม ทุกคนผมเรียกมาถามทำไมไม่ผ่อนต่อ ผมอยากได้เงินแสนตอนนั้น นั่นละคือสิ่งที่เป็นภาระให้รัฐบาลปัจจุบันต้องหางบประมาณมาใส่เข้าไปอีกแทนที่จะไปทำอย่างอื่นได้อีกตั้งเยอะแยะ และก็ทำให้ระบบกลไกของตลาด การตลาดของอุตสาหกรรมรถยนต์เหล่านี้มีปัญหา แล้วกลายเป็นมาโทษผมพูดว่าแล้วมีปัญหา ทำไมไม่ดูเหตุการณ์ ดูเหตุผลของผมบ้าง
วาทกรรมอะไรอีกละ ต่อไปมีเรื่องอะไรอีก อยากอยู่ในอำนาจ อยากอยู่ในอำนาจ อำนาจเพื่ออะไร อำนาจในการบริหารงาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมโปร่งใส และลดความเหลื่อมล้ำ ให้ความเป็นธรรม นี่คืออำนาจของผม บังคับบัญชา ให้ความยุติธรรม ขับเคลื่อนประเทศ นั่นแหละอำนาจผมอำนาจของรัฐบาลนี้ ไม่ใช่อำนาจอย่างอื่นเลย เว้นแต่พวกที่ประกาศไปแล้วว่าผิดตรงโน้น ตรงนี้ ต้องมีเรื่องนี้ เรื่องโน้น ศาล กระบวนการยุติธรรม ก็ต่อต้านอีกว่าไม่เป็นธรรม ทำผิดหรือเปล่า เขาประกาศไว้ 1,2,3,4,5 คดีที่ต้องไปขึ้นศาลอะไรก็ว่ามา นี่ค้านทุกเรื่อง แล้วตัวเองผิดหรือเปล่า ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ผิด ๆ ไม่ผิดสักอย่าง เข้าสู่กระบวนการก็บอกว่าไม่เป็นธรรม รังแก ผมไม่รู้ เลิกเสียทีคนพวกนี้
ในส่วนของคณะที่ 3 คณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล (กขน.) 3 ก. แล้วนะ อันนี้จะผ่านทั้งรัฐบาลและเอกชน คณะที่ 4 คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) คตร. เขาไม่ใช่ไปตรวจทุกอัน มีโครงการประมาณ 18 โครงการ อันไหนที่เดินหน้าต่อไปได้ก็เดินไป ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีเหตุควรต้องสงสัยต่าง ๆ ก็ต้องเร่งดำเนินการต่อไป หรือแก้ไขบางอย่างเพื่อให้ทำได้แค่นั้นเอง อันไหนที่ทุจริต หยุด ทำใหม่ และเข้าสู่กระบวนการ ไม่ใช่ว่า คตร. ทำได้จริงหรือเปล่า ถ้าไปเจอพวกแสดงว่าเอื้อประโยชน์นี้ พวกนั้น แล้วก็ถ้าเป็นพวกเดียวกันก็ปล่อยไป ไมใช่ ผมไปสั่งอย่างนั้นไม่ได้หรอก คตร.ก็เป็นทั้งทหาร เป็นทั้ง สตช. เป็น สตง. ด้วย ป.ป.ท. ก็อยู่ด้วย มีคณะทำงานหมดอยู่ใน คตร. ไม่ใช่ทหารอย่างเดียว เอากลไกของรัฐเข้าอยู่ตรงนั้นทั้งหมดเรื่องกระบวนการยุติธรรม เพราะฉะนั้นก็ต้องไว้วางใจตรงนี้ คตร. และตอนนี้กำลังไปเอา CoST เข้ามา CoST คือหน่วยงานเกี่ยวกับเรื่องการตรวจสอบความทุจริต ความโปร่งใส ความเหมาะสมในการดำเนินแผนงานโครงการต่าง ๆ ที่มีงบประมาณสูง วันนี้ก็เอาเข้ามาแล้วจากประเทศอังกฤษ ซึ่งได้รับการชื่นชมจากทั่วโลก ได้รับความไว้วางใจจากทั่วโลก เราก็เอาเข้ามาแล้ว มาดูสนามบินบ้าง อะไรบ้างเหล่านี้ เขาจะมาดูวิเคราะห์ตั้งแต่แรกเลยว่าแผนงานเหมาะสมไหม ทำตรงนี้เหมาะไหม คุ้มค่าไหม เงินได้ไหม ทุจริต เขาทำทีละขั้น ๆ ถ้าผ่าน ๆ ก็ทำต่อไป นี่เราขนาดนี้เลยนะ ถึงแม้เราจะมีอำนาจเต็มเรายังไม่ทำเองเลย ยังไม่สั่งว่าไปทำนี่ ทำโน่น ไม่ทำ สร้างความยอมรับให้ได้ ซึ่งไม่เคยมีประเทศไหนในโลกทำแบบนี้ผมจะบอกให้ รัฐบาลที่มาแบบนี้ไม่มี ไม่ใช่ว่า บอกว่าดีหรือไม่ดี ผมจะบอกว่าผมทำอะไรอยู่
รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เช่น คณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ (รศก.) คณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (กพข.) วันนี้เศรษฐกิจตกต่ำ ข่าวบอกรัฐบาลทำให้ตกต่ำ มีการควบคุมอำนาจ ผมถามตกต่ำมาตั้งแต่เมื่อไร เรากำลังพัฒนาจะดีขึ้นในเวลาอันสั้นได้ไหม ไม่ได้หรอก ทั้งจุลภาค มหภาค ทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ SMEs เยอะแยะไปหมด มันผูกพันเชื่อมโยงไปหมด เป็นห่วงโซ่เศรษฐกิจ เดี๋ยวท่านรองนายกรัฐมนตรีคงอธิบายอีกครั้งหนึ่ง และมีคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) วันนี้เราก็เชิญนักเศรษฐกิจและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกสมาคม หอการค้า อุตสาหกรรม เข้ามานั่งประชุมด้วยกันหมด มีปัญหาอะไรท่านบอกมา ติดขัดกฎหมายใช่ไหม เอาเข้าคณะรัฐมนตรี แก้ตรงไหนได้ อันไหนแก้ไม่ได้เอามาตรา 44 ใส่เข้าไป นั่นคือสิ่งที่เราทำอยู่ขณะนี้ เพราะฉะนั้นภาครัฐภาคเอกชนผมขอข้อมูลไปแล้วว่าการไปสร้างการรับรู้ข้างนอกในทางที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ได้ เพราะเขาก็ตัดตอนไปเสนอ เพราะฉะนั้นต้องอธิบายให้เขาว่าเราคุยกันว่าอย่างไร แล้วเราจะแก้ปัญหาได้ไหม วันนี้ผมก็เชื่อมหมดทุกคน ผมไม่ได้ไปสั่งเขาต้องทำโน่นทำนี่ ภาคเอกชนถ้ามีปัญหาบอกผมมา แล้วผมกำลังแก้ ท่านก็ต้องเข้าใจว่าจะแก้เสร็จเมื่อไรก็ต้องใช้เวลา ต่อไปก็มีคณะตามสถานศึกษา สถาบันโน่นนี่ ตัวเลขเศรษฐกิจทุกอาทิตย์วิเคราะห์กันจังเลย ผู้รู้เยอะไปหมด ผมถามว่ารัฐบาลก่อน ๆ เขาฟังบ้างไหม รัฐบาลนี้ฟัง แต่ไม่ได้เอามาเป็นอารมณ์มากนัก แต่เอามาเป็นพื้นฐาน เป็นข้อมูล ต้องขอบคุณ หลายท่านก็อยู่ในทางที่สร้างสรรค์ บางท่านไม่สร้างสรรค์ นักวิชาการบางคนก็ยังดันทุรังพูดอยู่นั่น เรื่องการค้า การลงทุน เรื่องรถไฟไปลงทุนกับจีนแล้ว คนก็ดีใจอยากได้รถไฟ แต่รู้หรือไม่ว่าจีนเขาต้องได้สัมปทาน 100 ปี นี่มีสัมปทาน 100 ปีตรงไหน ในข้อตกลงมีหรือเปล่ากระทรวงคมนาคม มีไหม ไม่มีหรอก ใครจะไปให้แบบนั้นสัมปทาน 100 ปี คือพูดเลอะเทอะ อยู่ในสถาบันการศึกษาไม่กี่สถาบัน ก็รู้อยู่ คือสถาบันที่จะสอนเรื่องเสรีภาพ เรื่องสิทธิแต่ไม่เคยสอนเรื่องหน้าที่ หน้าที่ความเป็นคนไทยอยู่ตรงไหน
การเป็นคนไทยก็ต้องสนับสนุนการพัฒนาชาติ ขจัดคนไม่สุจริต และสร้างอนาคตของประเทศ สอนคนให้เป็นอย่างนั้นสิ สอนคนให้เคารพกฎหมายสอนได้ไหม ถ้าไม่เคารพกฎหมาย ออกกฎหมายแรงไป แรงไปก็ว่าอีก บางครั้งแรงไปยังเอาไม่อยู่เลย ต้องมีการต่อต้าน ต่อสู้กันออกมา เดินขบวน ยกนิ้วอะไรกันบ้าง ผมก็ขี้เกียจไปทำร้ายเขา ทำร้ายด้วยกฎหมายไม่ต้องการเลย แต่เขาก็ยังดื้อดึงอยู่เรื่อย ไม่เคยฟัง ผมว่าต้องทบทวนใหม่สถานศึกษาบางแห่ง ครูทั้งหมด ต้องเข้าใจด้วยนะ บางโรงเรียนก็ยังสอนไม่ค่อยดีอยู่ สอนเรื่องประชาธิปไตย จะมาสอนอะไรตอนนี้ ก่อนหน้านั้นทำไมไม่สอน ก่อนหน้านั้นที่ผ่านมา เลือกตั้งกันมาทำไมไม่สอนว่าประชาธิปไตยที่ถูกต้องเป็นอย่างไร
วันนี้ต่างประเทศเขาก็ยอมรับกับผมว่าการเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่การเลือกตั้งอย่างเดียว ประเทศที่ท่านเป็นกังวลผมส่งผู้หลักผู้ใหญ่ไปพูดคุยมาแล้ว เขาบอกเขาไม่ได้หมายความอย่างนั้น เขาหมายความว่า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ดำเนินการให้ได้โดยเร็ว เขาไม่ได้ต้องการจะมาบีบคั้นกดดันอะไรเราทั้งสิ้น เขาเข้าใจกันหมดแล้ว อย่าเอามาพันกัน เช่น ประเทศสหพันธรัฐรัสเซียมาก็บอกว่าผมจะไปเดินรัสเซีย ท่านรองนายกรัฐมนตรีไปจีน ทุกอย่างมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน ที่ทำมาแล้วตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน แล้ววันนี้ความสัมพันธ์ทางด้านการทหาร จำไว้อยู่อย่างว่า รัฐบาลได้เปรียบอยู่แล้วในการทำงาน ถ้าทำจริง ๆ นะ มี 2 ช่องทาง คือ หนึ่งช่องทางทางการทูต กระทรวงการต่างประเทศ สอง ช่องทางทหาร มีอยู่แล้ว ถึงจะทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างไรก็ตามทหารคุยกันรู้เรื่อง นั่นคือสิ่งที่จำเป็นที่ต้องมีทหาร ผมก็ตามไปสู่ว่า แล้วมีทหารแล้วอย่างไร ต้องมีความเข้มแข็งไหม ไม่ใช่ต้องการจะซื้ออาวุธอย่างเดียว ไม่ใช่ ซื้อมาก็เป็นภาระอีก ต้องผ่อน ต้องชำระ งบประมาณจะไปทำอย่างอื่นก็น้อยลง แต่จำเป็นไหม จำเป็น ท่านจะทำอะไรก็ตาม ถ้ามีเศรษฐกิจเข้มแข็ง ท่านจะเป็นศูนย์กลาง ท่านก็ต้องมี Power ตัวนี้ไว้ เขาเรียกอำนาจการรบที่ไม่มีตัวตน ขวัญ กำลังใจ อาวุธ เครื่องไม้เครื่องมือใหม่ ๆ ไม่ได้หมายความว่าจะสะสมไปแข่งกับใคร ทำเพื่อไม่ให้ต้องรบกัน ให้เขารู้ว่าเกรงใจกันบ้างเท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้หรอก ไม่อย่างนั้นทั่วโลกคงไม่ต้องมีทหารแล้ว ตอนนี้ขนาดมียังรบกันแทบเป็นแทบตายเลย บางคนคิดใหม่บอกว่าไม่มีทหารก็ไม่รบกัน คิดแปลก ๆ วันนี้ต้องมาคุยกันใหม่ มาสังคายนากันเสียที
ในเรื่องของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ก็ดี ก็มีทั้งภาครัฐ มีของเอกชน เดี๋ยวเราก็จะส่งเสริมการลงทุนทั้งสองส่วน ส่วนหนึ่งรัฐทำ อีกส่วนให้เอกชนมาทำ เอกชนต้องมาบริหารทำสาธารณูปโภคเอง ทำไฟฟ้าเอง เดี๋ยวก็จะโทษหาว่าตั้งไปเถอะ ๆ ประชาชนต้องมาแบกรับค่าไฟค่าเชื้อเพลิงอะไรอีกใช่ไหม ผมบอกว่าเดี๋ยวมาทำเอง ลงทุนไป ให้พื้นที่ไป ในส่วนที่รัฐจะต้องส่งเสริมในสิ่งที่เขาต้องการก็โอเค อันไหนที่จะเป็นเรื่องของการลงทุนค้าปลีกไปแข่งในพื้นที่ ผมก็ไม่ได้ให้ สิทธิประโยชน์อะไรต่าง ๆ ทางฝ่ายเศรษฐกิจเขาก็ไม่ให้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นที่ไปตั้ง ที่มาว่าเอาเรื่องค้าปลีก สนับสนุนกลุ่มทุนนี้ไปตั้งชายแดน เขาขอไปตั้งนานแล้ว กฎหมายอื่นนะ เขาไม่ได้สิทธิพิเศษอะไรจากเรานี่ เพราะเราเขียนไว้แล้วว่าพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษก็คืออะไรที่ลงไปแล้วตรงกับความต้องการของเราตัวนี้จึงจะได้สิทธิประโยชน์ อะไรที่เป็นกฎหมายปกติก็เรื่องของเขา ลงทุนก็ลงทุนไป เราต้องดูแลทุก ๆ ส่วน ทั้งข้างบน ตรงกลาง และข้างล่าง ข้างบนก็เศรษฐกิจประเทศเป็นแสนล้าน ทำอย่างไร ก็เพียงแต่ว่าทำอย่างไรให้ข้างล่างไม่เดือดร้อน ทำอย่างไรค้าปลีกกับโชห่วยจะอยู่กันได้ และยังค้าปลีกอยู่แถวจตุจักร แถวตลาดราคาถูกอะไรแบบนี้ ต้องเชื่อมโยงกันอย่างนี้เราจะดูเขาอย่างไร ข้างบนก็ให้เขาเดินไป ตามกฎหมายไหมล่ะ ถ้าถูกต้องตามกฎหมายเราเป็นเสรีทางการค้าใช่ไหม การลงทุนก็ว่าไป แข่งขันกันมา
ต่อไปคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) อันนี้ก็ทำทั้งหมด ขนส่งสินค้าทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ ก็ต้องพัฒนาหมด คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) คณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (กพอ.) ก็เร่งรัดทั้งตะวันตก ตะวันออก เพราะเรามองว่าวันนี้เศรษฐกิจเชื่อมโยงกันทั้งหมดตั้งแต่ประชาคมโลกลงมาประชาคมอาเซียน แล้วมา CLMV รอบบ้าน และบวกอินโดนีเซียกับฟิลิปปินส์ เพราะฉะนั้นไม่ว่าการค้าประชาคมโลกมีปัญหา ตลาดเดิมตลาดหลักมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจของเขาด้วย เขาก็ซื้อของเราน้อยลง หรือซื้อมากขึ้นแต่มูลค่าลดลง ไม่ใช่ขายใครไม่ได้ ขายได้เหมือนเดิม ไม่เห็นมีประเทศไหนห้ามเราเลย เพราะการค้าการลงทุนเหล่านี้
ภาคเอกชนเขาทำด้วยอยู่แล้วใช่ไหม รัฐบาลก็คือรัฐบาล ทุกรัฐบาลในโลก ก็ต้องส่งเสริมอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการทั้งหมดทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย อันนี้เป็นหลักการ ไม่ใช่ว่าเอาแต่พวก ไม่ใช่ และมีคณะกรรมการส่งเสริมรัฐวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม อันนี้จำเป็นต้องทำกำลังปรับโครงสร้างอยู่ด้วย ที่จะดูเรื่องรัฐวิสาหกิจ SMEs ทำอย่างไร Small จะเป็น Medium Medium จะไปเป็นข้างบน ก็ Export ได้อะไรได้ทำนองนี้ก็ต้องเร่งขึ้นไป ต้องมีกองทุนให้เขา ต้องจดทะเบียน วันนี้ก็ไปโวยวายกันอยู่ บางคนก็บอกว่าเศรษฐกิจมันตก ต้องมาช่วยนายกสมาคมรัฐวิสาหกิจไทย ถ้าไม่ดีคงไม่อ้วนขนาดนั้น แสดงว่าท่านก็ไม่ได้เดือดร้อนเท่าไร คนข้างล่างเดือดร้อน แต่ท่านพูดเสียหายหมด ท่านบอกว่ารัฐบาลนี้ควรจะต้องดูแล เขาทำอยู่นี้ ท่านควรจะช่วยผมอย่างไรรู้ไหม ท่านช่วยไปเรียกรัฐวิสาหกิจมาสิ มาขึ้นทะเบียนกันให้หมด มาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลให้ได้ไหม ท่านยังทำให้ผมไม่ได้เลย แล้วท่านจะไปโวยวาย ผมจะไปให้ใครล่ะ ในเมื่อยังไม่จดทะเบียน ไปจดมา อีก 2 ล้านกว่าแห่งนะ ตอนนี้จดทะเบียนมา 600,000 กว่ารายเท่านั้นเอง อีก 2 ล้านหายไปไหนไม่รู้ มีอยู่ 2.6 ล้านราย แล้วส่วนนี้คือ SMEs อยู่ใน 90 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออก ต้องพัฒนาขีดความสามารถของเขาด้วย การเปลี่ยนเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือ ปรับปรุงเทคโนโลยีให้ทันสมัย ปรับวิธีการประกอบการให้เป็นนวัตกรรมทำนองนี้ ก็ทำทุกวัน สวทช. ก็เร่ง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก็เร่ง ถ้าท่านไม่ทำตรงนี้ SMEs ก็ไม่แข็งแรง วันนี้คนบอกว่าเขาย้ายฐานการผลิตไป เขาก็ไปสิที่อื่นราคาคนงานถูกกว่าเรา แรงงานถูกกว่าเรา ถึงแม้ว่าเราจะมีศูนย์กลาง ถึงแม้เราจะเป็นศูนย์กลาง ถึงแม้เราจะน่าอยู่ ถ้าถามผู้ลงทุนในประเทศไทย ผมเจอผู้นำต่างประเทศเขาก็บอกว่า ถามผู้ประกอบการทั้งหมดของเขา บริษัทของเขาที่ลงทุนอยู่ในประเทศไทย ถามเขาว่าอยากจะอยู่ทำงานที่ไหนต่อไป จะขยายกี่แห่ง เขาบอกประเทศไทยทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องค่าแรงสูงอยู่ก็ตาม แต่ค่าแรงสูงจะมีผลกระทบต่อเรื่องราคาสินค้า ถ้าของไม่ดีจริงขายไม่ได้ เพราะมันแพงอยู่แล้ว บวกราคาค่าแรงงานเข้าไป รอบบ้านเขาไม่เกิน 200 บาท เราก็ 300 บาท เพราะฉะนั้นก็ต้องดูแลให้ถูกต้อง ต้องมีการปรับพัฒนาฝีมือแรงงาน ราคาต้องแตกต่างกันไหม ใช้แรงงานใช้สมอง ใช้อะไรก็แล้วแต่ ภาษาได้ อะไรได้ ว่าไป ก็เป็นทำนองนั้น ไปหาทางแบบนั้นมา เลือกให้ดีนะครับเลิกบ่นเสียที ต้องไปขึ้นทะเบียนเยอะขึ้น วันนั้นก็ไปจัดให้ความสำคัญที่สวนสน ก็มากันเยอะเอามาเจอกัน เรื่องข้าวก็มาเจอกันที่ข้างทำเนียบฯ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าต่อ ๆ ไปก็ทั้งหมู หมา กา ไก่ ขายหมด ข้างทำเนียบฯ มาช่วยกันซื้อหน่อยแล้วกัน อย่าบ่นกันมากนัก คนลำบากกว่าเราเยอะแยะไป ส่วนใหญ่ที่บ่น ๆ นักการเมืองทั้งนั้น ไม่รู้ว่าเป็นอะไร กลัวคนดีขึ้นหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ถึงได้ชักจูงง่ายขึ้น เหมือนเดิมหรือเปล่าไม่รู้ ถ้าขนาดนี้แล้วจะแข็งแรงแล้วชักจูงได้ยากหรือเปล่าไม่รู้ ผมไม่ได้พาดพิงใครนะ
คณะกรรมการพัฒนาการศึกษา การศึกษา โครงสร้างใหญ่ 5 แท่ง ต้องต่อเนื่องเชื่อมโยงกันให้ได้ ทั้งตั้งแต่พื้นฐานขึ้นไป พื้นฐานเราก็แก้ใช้ทางไกลอย่างเดียว วันนี้คะแนนสอบดีขึ้น ไปถึงทุกจังหวัดทุกโรงเรียน ดีขึ้นในขนาดเล็ก ลดปัญหาเรื่องการขาดแคลนครู ลดปัญหาเรื่องให้ทันตามเทคโนโลยีเพราะบางโรงเรียนอยู่ชายขอบ อยู่บนเขา ครูก็น้อย ได้อย่างไร เรียกครูมาอบรมหน่อย แล้วใครจะสอน บางโรงเรียนมีครูคนเดียวใช่ไหม ต้องพัฒนาแบบนั้น เอาทางไกลดาวเทียมลงไป วันนี้ก็เอาไปเสริมด้วย กระทรวงศึกษาธิการกำลังทำอยู่ คือเอาคน ครูที่สอนเก่ง ๆ ไปสอนเพิ่มเข้าไปอีก เติมเข้าไป ครูอะไรนะ ครูที่สอนเก่ง ๆ ครูกวดวิชา เอามาใส่อีกทางหนึ่ง ของหัวหิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงเริ่มมาแล้ว อาจจะเป็นทางการบ้างอะไรบ้างก็ว่าไป เราเอาไปเสริม ทำซีดีเพิ่มอะไรเพิ่ม เอาคนพวกนี้มาสอน ครูอุ๊ พวกนี้ทำไมสอนเก่งไม่รู้ สอนอะไรก็เก่ง พวกนี้เขามีแรงบันดาลใจนะ มีเยอะ เขาเรียกอยากแสดงออก ก็ใช้ประโยชน์เขาให้ได้ ขอความร่วมมือนะครับ ครูอุ๊ ครูอะไรแล้วแต่ มาอาสาเลยที่กระทรวงศึกษาธิการพร้อมรับ กระทรวงฯ รับมา จัดรีบทำเร็ว ๆ มีศูนย์เทคโนโลยีของเราอยู่แล้ว เอาพวกนี้มาแล้วทำ Save ทำซีดีใส่เติมเข้าไป ก็มีทั้งทางไกลผ่านดาวเทียม มีทั้งครูอุ๊ ครูอะไร สอนภาษาอังกฤษ สอนภาษาไทย ผมเห็นสอนดี สอนเลขดี วันนั้นผมเห็นในทีวีประเทศจีน คิดเลขได้อย่างไรผมไม่รู้นะ เขาบอกมาตัวเลข เอานี่คูณนี่บวกนี่ คูณนี่หารนี่ ตัวเลขไม่ใช่ตัวเดียว สองตัว สามตัว สี่ตัว แล้วพอคนตั้งโจทย์มา เด็กนะ เด็กไม่กี่ขวบ อ่านรอบแรก ต่อไปจะบวกอีก ปั๊บตอบได้เลย ทำไมไม่เอามาบ้าง กระทรวงศึกษาธิการลองไปดูนะ ผมดูในทีวี ทำได้จริง ๆ ตัวเลขเป็นหมื่นเป็นแสน คิดในใจได้หมด ประเทศไทยคิดในใจได้ไหม คิดนอกใจยังไม่ค่อยได้เลย เพราะไม่อยากคิด คิดแล้วเมื่อย ปวดหัว ถามครูกูเกิ้ลดีกว่า สั้นดี แล้วนี่ถ้ารู้เป็นชิ้น ๆ แบบนี้ ไม่เอา นี่เขาสำหรับคิดในใจ ก็คิดในใจ สมัยเราก็มีคิดในใจ อ่านเอาเรื่อง อ่านจับใจความ ย่อความ เรียงความ วันนี้เขียนหนังสือไม่ค่อยเป็น เขียนหนังสือยาว ๆ ไพเราะต่อเนื่องไม่เป็น เขียนได้ หนังสือราชการต้องไพเราะเพราะพริ้งหน่อย ให้คนอ่านเขามีความรู้สึกยินดีที่อ่านแล้วมีสาระ อ่านแล้วเข้าใจ เขียนตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้ายไม่รู้เรื่อง เขียนอะไรนี่ สาระไม่ได้ ต้องให้สั้น กะทัดรัด ได้ใจความ เขาสอนกันมาอย่างนี้ เพราะฉะนั้นต้องไปย่อความ อ่านหนังสือมี 10 หน้าย่อมาสิสาระสำคัญว่า นี่สำคัญ จะได้คิดเป็น มีกระบวนการคิด มีวิสัยทัศน์ว่าจะคิดอย่างไรไปตรงนี้ จะได้เข้าใจที่ผมคิดอยู่นี่ ไม่ใช่ผมเก่งนะ ผมได้จากการเรียนรู้จากประสบการณ์ ทุกคนมีประสบการณ์สูงทั้งสิ้น ดูท่านรองนายกรัฐมนตรีแต่ละคน ท่านมีประสบการณ์มาเยอะมาก มากกว่าผมด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันนะครับ
สำหรับผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน จากที่บอกไปแล้วเงื่อนเวลา ปัญหารุมเร้า ปัจจัยภายนอกภายใน สิ่งสำคัญผมอยากให้พวกเราคิดร่วมกันว่าคนในชาติ ปัญหานี้ประเทศไทยมีไหม มีจริงไหมที่ผมพูดนี้ ถ้าจริงแล้วจะทำอย่างไร จะปฏิรูปกันอย่างไร จะแก้ไขอย่างไร เลือกตั้งแล้วจะทำได้ไหม ถ้าทำได้ก็ทำไป ผมไม่ได้ว่าอะไร ถ้าท่านคิดอย่างนั้นผมก็เลิกดีกว่า เข้ามาเพื่อจะแก้ปัญหาแค่นั้นเอง ไม่ได้ต้องการจะมาทำร้ายทำลายอะไรใครสักอย่าง ผมทำร้ายประเทศไทยไม่ได้ นั่นคือสำคัญ ท่านต้องไปถามคนที่พูดเหล่านี้ ที่ทำบ้างไม่ทำบ้าง แล้วมีปัญหามาโดยตลอดนี้ เขาจะทำร้ายประเทศไทยไปถึงไหนกัน ทำร้ายคนไทยไปถึงไหน สร้างให้คนไทยฉลาดน้อยลงไปถึงเมื่อไร ให้เกษตรกรต้องพึ่งพารัฐอย่างเดียวไม่ได้หรอก ไปดูเมืองนอกสิ เกษตรกรผมไม่เห็นใครจนเลยเมืองนอก เขาจัดระบบเกษตรกรได้หมด เราก็ทำได้แค่สหกรณ์ยังร่อแร่เลย สหกรณ์กำลังวัดผลอยู่มีกี่ แห่งที่ใช้ได้ ถ้าสหกรณ์แห่งนี้ใช้ได้เดี๋ยวเอาเงินลงไป ไปซื้อของปัจจัยการผลิต รถเครื่องจักรลง สีข้าวขนาดกลางขนาดย่อมอะไรก็แล้วแต่ โรงอบข้าว เครื่องอบข้าว ให้เขาไป นี่ต้องเป็นสหกรณ์นะ เพราะฉะนั้นบอกพี่น้องประชาชนเกษตรกร ไปขึ้นทะเบียนสหกรณ์ให้ได้ทั้งหมด แล้วก็แจ้งรายได้ของท่านด้วย ผมไม่ได้เอามาเสียภาษีหรอก ท่านไม่มีเงินเสียภาษีให้ผมอยู่แล้ว แต่กรุณาไปขึ้นทะเบียนจะได้ช่วยเงินได้ตามความสำคัญ ตามความเร่งด่วน ทั้งข้าว ทั้งอ้อย ทั้งอะไรต่าง ๆ หมด คนไทยบังคับไม่ได้ ผมพูดหลายทีแล้ว ก็ขอหน่อยเถิดขอความร่วมมือแล้วกัน
ในเรื่องของการร่วมมือทางเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ ต้องบอกว่ามีตั้งแต่คู่ค้าสำคัญทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกา แล้วก็มารอบบ้าน CLMV (Combodia-Laos-Myanmar-Vietnam) อาเซียนด้วยกัน แล้วก็มาหมู่เกาะ แล้วก็มาอะไรอีก ตะวันออกกลาง เราวางตลาดอย่างนี้เลย ตอนนี้วางอย่างนี้ แล้วเราวางไปถึงแต่ละประเทศ เราจะไปคุยกับเขาเรื่องอะไร บางประเทศเขาคนแค่ 400,000 คนแต่เขารวย ก็ไปเจาะสิ ให้เขาเป็นศูนย์กระจายสินค้าเราได้ไหม เอาข้าวไปส่งสิ แล้วค่อยไปกระจายต่อในภาคตะวันออกกลางได้ไหม ในตะวันออกกลางก็มีหลายพวกอีก ก็ไปดูสิว่าแต่ละข้างมีอะไรบ้าง แล้วก็ไปตรงนี้ กระจายฝั่งของเขา ต้องเดินแบบนี้ ที่ผ่านมาก็ปล่อยซังกะตายไป เอกชนก็ทำไป เพราะฉะนั้นเอกชนเขาถึงบอก เขาบอกไม่ต้องง้อรัฐบาล ผมฟังมานานแล้วคำนี้รัฐบาลไม่เคยช่วยอะไรเขาหรอก เขาดิ้นรนมาตลอด นี่ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดีก็ได้ ที่ทำให้เศรษฐกิจยังไม่พังไปมากกว่านี้
วันนี้เราต้องทำให้เข้มแข็งให้ได้ วันนี้กำลังหาตลาดอยู่ หลายคนบอกต้องไปหาตลาดโน่น ผู้รู้ พวกพูดมาไม่เคยทำหรอก แล้วรู้ว่ามันยากง่ายแค่ไหน ก็มาดูแล้วกัน วันนี้รองนายกฯ ก็ไม่อยู่ไปเนเธอร์แลนด์ เดินสายต่างประเทศอยู่ ไม่ได้ไปเดินสายเพื่อทะเลาะกับใครเพื่อไปเข้าข้างใคร ไม่ใช่ ไปเป็นพ่อค้า ผมสั่งแล้วกระทรวงการต่างประเทศไปเป็นพ่อค้าด้วย ทุกสถานทูตจะต้องมีรายละเอียดว่าจะลงทุนในประเทศไทยอย่างไร อะไรที่ประเทศไทยต้องการ สินค้าไทยมีอะไรบ้างที่ดี ไปแก้ปัญหาเรื่องปลอมปนในต่างประเทศ สื่อเขากรุณาดูหน่อย บางอย่างข้าวปลอม ปลอมที่ใคร ผมสอบไปสอบมา ข้าวที่ว่าปลอมที่ต่างประเทศ มันปลอมตอนลงไปแล้ว เพราะตอนจะออกไปไม่ใช่เรา มันมีเซอร์ไวเยอร์ตรวจสอบอยู่ทั้งไทยก่อนขึ้นเรือ พอลงเรือไปแล้วก็เป็นเรื่องในเรือแล้ว พอขึ้นบกไปใส่ถุงใหม่ แต่ชื่อถุงเหมือนเดิม แล้วปลอมไหม มันต้องร่วมมือกันนั่นล่ะ อันนี้ต้องไปแก้กันทั้งหมด
ในเรื่องของการส่งออก ไม่ว่าจะชะลอตัวกันอย่างไรก็ตาม หลายอย่างมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เดี๋ยวผมจะเรียนให้ฟัง บางคนบอกวันนี้ตีปีก ตีปีกเรื่องเศรษฐกิจดีขึ้น ในขณะเดียวกันคนก็บอกว่าลดลง สวนทาง เขียนอย่างนี้ได้อะไรขึ้นมา ผมไม่เข้าใจจริง ๆ นี่เขียนนะ คนก็ไม่ใช้จ่าย อยู่ที่เราถ้าเราไม่ทำให้ตื่นตระหนก ไม่อะไรต่าง ๆ ทุกอย่างก็ค่อย ๆ คลี่คลายตามลำดับ เราก็ต้องหาตลาด มันหาได้วันนี้พรุ่งนี้ไหมละ แล้วที่ผ่านมาเขาทำหรือเปล่า เขาทำ เขาก็ต้องบอกเขาทำ ก็ไปดูเอาละกันว่าทำหรือเปล่า วันนี้เราไปดูถึงขนาดสินค้าเฉพาะอย่าง เช่น เพชร จะซื้อจากที่ไหน ที่ไหนเรามีฝีมือในการทำอะไร เครื่องประดับใช่ไหม จิวเวลรี่ใช่ไหม ช่างเต็มไปหมด เลิกให้เขาแกะงาช้าง มาแกะเป็นเพชรเป็นพลอยอะไรสิ ไปหามาอีกโน่น หลายประเทศเขากำลังจะขายเราอยู่ เรื่องอุตสาหกรรมสิ่งทอใช่ไหม เรามีฝีมือก็พยายามจะหาว่าจะเอาวัตถุดิบมาจากไหน จะลดภาษีให้เขาตรงไหนได้ เพื่อเขาจะได้มีการประกอบการต่อไปไม่ล้ม ไม่พังพาบไปอะไรก็แล้วแต่ ดูเจาะรายละเอียดขนาดนั้น อะไรอีกที่เรามีขีดความสามารถ หลายอย่างนะ เครื่องสำอางเราก็มี พวกธุรกิจหนังก็มี ถ้าหนังเราไม่ดี หนังต่างประเทศมาลดภาษีได้ไหม แล้วเย็บเอง มียี่ห้อ แข่งกับเขาได้ไหม แข่งกับหลุยส์ วิตต็อง ได้ไหม แข่งกับแอร์เมสได้ไหม อะไรทำนองนี้ ก็ทำทั้งหมดคิดทั้งหมดอยู่ ขอความร่วมมือเถิดครับ อะไรที่จะช่วยรัฐบาลได้รัฐบาลก็จะช่วยท่าน วัสดุต้นทุน เช่น ยางมีเยอะแยะ บอกมาสิท่านจะผลิตอะไร ไปซื้อทำพรมปูพื้น ปูห้องอะไรก็ได้ ออกกำลังกายไม่ต้องไปซื้อต่างประเทศ มาอาสากับผมนี้ อาสารัฐบาลนี้ แล้วเราจะดูให้ว่าจะช่วยท่านตรงไหน ถ้าท่านซื้อยางราคานี้ได้ ราคาขายอาจจะแพง ไปดูเรื่องภาษีให้ได้ไหม คิดที่ต่อยอดอย่างนี้ได้ไหม ไปช่วยมา วันนี้ผมกำลังจะพูดวันนี้คงจะมีหลายบริษัทมา ขึ้นทะเบียนหน่อยเถิดบริษัทช่วยชาติ ช่วยชาติไม่ใช่ช่วยทำลายชาติเหมือนที่หลายคนทำอยู่ ผมไม่เกรงใจเพราะเขาไม่เกรงใจผม ต้องปรับตัวนะครับ
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นช่วงที่ผ่านมาเราให้ไปแล้วหลายอย่าง ช่วยระยะสั้น ดูแลเกษตรกรดูอะไร เป็นแสน ขณะเดียวกันข้าราชการก็ต้องดูแลเงินเดือนเขาให้เขาขึ้นบ้างอะไรบ้าง ขึ้นคนละไม่กี่สตางค์หรอก 300/500/600/1,200 บาทไม่ได้ขึ้นมากี่ปีแล้ว ถ้าไม่ให้เขาแล้วจะเป็นอย่างไร ต้องให้เขาบ้างสิ เกษตรกรก็ต้องดู รัฐวิสาหกิจก็ดู คนแก่คนชราก็ดู สาธารณสุขก็ดู ตอนนี้ไปถึงเด็กแล้วใช่ไหมท่านรองนายกฯ ไปเด็กอ่อนแล้ว แล้วก็ดูเรื่องสตรี เรื่องภรรยา ภรรยาคนเดียวนะที่จะช่วย ลูกก็ลูกเกิดจากภรรยาคนเดียว เพราะฉะนั้นต้องไปดูต่อ แล้วจะหาเงินจากตรงไหนมา ต้องไปหาเงินทั้งหมด ต้องไปดูว่ารายได้ประเทศมาจากตรงไหน ไม่ใช่ขายของได้อย่างเดียวเมื่อไร ขายของเข้ามาแล้วก็ได้แค่นี้สัดส่วนอยู่ตรงนี้ แต่ที่เหลือมาจากไหน มาจากการลงทุนรัฐวิสาหกิจ พลังงาน แก๊สอะไรต่าง ๆ น้ำมันจะมาอย่างไร รายได้เข้ามาอีก ที่เหลือก็เป็นการค้าขายรายปลีกรายย่อยบ้างอะไรบ้าง ก็ไปเก็บเป็นภาษี พวกธุรกิจขนาดใหญ่ก็เก็บภาษีเขา เขาขายได้เยอะก็เก็บภาษีเยอะ ไม่ใช่เขาขายได้เยอะแล้วเราไม่เก็บภาษีเมื่อไร การเก็บภาษีเหมือนกัน 1 เปอร์เซ็นต์ของเงิน 1 ล้านบาทกับ 1 เปอร์เซ็นต์ของเงิน 10,000 บาทต่างกันไหม นี่อย่างไรนิสัยแรก พอภาษีมาก็เดือดร้อนขึ้นมาทันที บางคนเสียแค่ 300 บาทแต่ใช้ไอโฟน 6 ไปดูสิคนพูดใช้ของดีทั้งนั้น เอาว่ามีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านรับสั่งไว้แล้ว มีเหตุมีผล ใช้เงิน พอประมาณ มีเท่าไรเท่านั้น อย่าไปขี้ตามช้าง เห็นเขาใส่ตัวนี้ใช้หลุยส์ก็หลุยส์บ้าง หลุยส์ปลอมก็โดนจับอีก ทำนองนี้ ไม่ต้องไปหลุยส์หรอก SW ยี่ห้อสมหวังกระเป๋าไทย กำลังส่งเสริมให้ทำให้สวยขึ้น เปลี่ยนเป็น S อะไรสักอย่างหนึ่ง ย่อมาจาก Sweet ก็ได้ คนทำชื่อสมหวัง ถามว่าชื่อย่อมาจากอะไรขายไม่ออกเลย อาจจะออกก็ได้ มีความหวัง
มาตรการระยะสั้นที่ผมบอกไปแล้วที่ผ่านมามีปัญหา รถยนต์คันแรก ฐานการขยายตัวอยู่ระดับสูง โรงงานก็ขยายหมด ธุรกิจมีมาก เงินลงทุนขอ BOI มา ตั้งใหม่ก็มี ขยายอัดก็มี แต่พอขายลดลง รถคันแรกหายไปเป็นล้านคัน ที่ทำมาก็ตก แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ส่งเสริม ก็ต้องทำหาตลาดให้เขา อำนวยความสะดวกเขา จะดูแลกันอย่างไร ทุกประเทศเราต้องมีน้ำใจให้เขา ไม่ใช่ผมไม่เอาโน่นไม่เอานี่ เอาทุกอย่างถ้ามันได้ดี ช่วยเขาทุกอย่างเพราะเขาอยู่ในประเทศไทย เขารักเมืองไทยก็ต้องช่วยเขา เวลาต่างชาติไม่ได้เลือกบริษัทไหนทั้งสิ้น อเมริกาผมก็ให้เขา ยุโรปมาผมก็ให้เขา เกาหลีมา จีนมา รัสเซียมา อินเดียมา ก็พูดกับเขาหมด ประเทศแถวตะวันออกกลางเขามาเยอะแยะ นี่หมู่เกาะจะมาอีกแล้ว บางประเทศบอกว่าทำไมไม่เชิญเขามาบ้าง เขาน้อยใจนะ เห็นเขาประเทศเล็ก ๆ หรืออย่างไร เดี๋ยวจะเชิญมาให้หมด จะบอกว่าผมไม่ได้อยู่ข้างใครเลย เพราะเราเป็นประเทศที่อยู่กลาง ตรงกลาง เมื่อวานนี้เขาคุยกันเรื่องนี้ เรื่องอะไรต่าง ๆ อยู่ตรงกลาง
มาตรการจำนำข้าว ใครไปซื้อข้าว จำได้หรือเปล่า ลายจุด ซื้อหรือเปล่า ถุงละ 200 บาท เขาบอกว่าเขาจะไปซื้อข้าวราคา 15,000 บาททุกอันมา แล้วใส่ถุง 200 บาทขาย ผมถามว่าซื้อได้สักเท่าไร แล้วเขาบอกเขากำลังทำเพื่อจะบอกว่ารัฐบาลที่แล้วทำเพื่อประชาชนจริง ๆ ท่านว่าเป็นทางออกไหม ท่านซื้อได้สักเท่าไร สักกี่กระสอบผมไม่รู้เหมือนกัน เอาเงินมาจากไหน แล้วมีทะเบียนการค้าอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วก็มาพูดจาเสียหาย นี่ขึ้นทะเบียนอยู่นะ ถ้าเรียกมาอีกทีก็มีเรื่องอีก อะไรไม่ได้เลย คนไทยไม่ชอบเลย แต่ชอบฝืนกฎหมาย ผมไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าอะไรเสีย ความขัดแย้งเกิดไม่ได้นะครับ เพราะส่งผลต่อเสถียรภาพทางการแข่งขันระยะยาว สถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศอีก ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นภาคครัวเรือน ภาคเศรษฐกิจ ภาคการท่องเที่ยว การเบิกจ่ายของรัฐ การอนุมัติโครงการลงทุน และทำให้เศรษฐกิจปี 2556 ขยายตัวไปถึง 2.9 และลดลง 0.5 ในไตรมาสแรกของ 2557 ก่อนผมมา ไตรมาสปีหนึ่งมีกี่ไตรมาส ไปหามา ไตรมาสมีกี่เดือน ตอนนี้อยู่ไตรมาสไหนไปหามา ผมไม่พูดแล้ว ชอบตีขลุมไปเรื่อย พูดแล้วนะ เดี๋ยวเอกสารแจกอีกนะ อย่าไปเขียนผิดแล้วกัน ถ้าท่านไม่เชื่อผมเท่ากับท่านไม่เชื่อกระทรวงทุกกระทรวง ก็ไม่ต้องมี ไม่ต้องจ้าง เลิก เอาไหมล่ะ ใครจะทำงานให้ท่าน ข้าราชการท่านต้องเลี้ยงให้ดี ให้เขาทำงานให้เรา คนดีก็มีเยอะแยะไป มี 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ เว้นแต่ใครไปทำให้เขาเสียหายเท่านั้น ไปบังคับเขาบ้าง ไปอะไรเขาบ้าง ผมบังคับอย่างเดียว บังคับให้ทำงาน ไม่บังคับผลประโยชน์ ไม่บังคับอะไรทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจปี 2556 ขยายตัวเพียงร้อยละ 2.9 และลดลงในไตรมาสแรกของปี 2557 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องบ่งชี้เศรษฐกิจที่สำคัญไปดูตรงนั้น การบริโภคภาคครัวเรือน การลงทุน ภาคเอกชน การท่องเที่ยว และการผลิตภาคอุตสาหกรรม จะหดตัวลงอย่างที่ว่า มาตรการระยะสั้นที่ผิด ๆ มาทำให้หดตัวลงส่วนหนึ่ง ความเข้มแข็งก็น้อยลง เพราะฉะนั้นรัฐบาลเข้ามาแล้วก็เร่งรัดทุกอย่าง สร้างความเชื่อมั่นในภาพรวม เพราะฉะนั้นเดือนแรกคืบหน้าไปพอสมควร เดือนแรก ๆ ของปี 2557 เดือนพฤษภาคม 2557 เดือนมิถุนายน 2557 ก็ดีขึ้นมาหน่อย เพราะขัดแย้งมานาน 6 เดือน เงินไม่ออก ออกไม่ได้เลยตอนนั้น ปี 2557 ใช้ไม่ได้ มีเงินค้างอยู่ประมาณแสนกว่าล้านบาท แสนกว่าล้านบาทค้างอย่างไรผมก็ยังสอบอยู่ ทำไมค้างขนาดนั้น เขาก็บอกว่ามีการประท้วงก็เลยใช้ไม่ได้ แต่ต้องมีแผนงานโครงการไม่ใช่หรือ ถูกไหมล่ะ แสดงว่าเงินตรงนี้เก็บไว้ทำอะไร เตรียมเพื่อจะเลือกตั้งหรือเปล่า คิดอย่างนี้สิ ผมก็เอามาบริหารจัดการน้ำ ทำอะไรหมด งบประมาณปี 2557 ที่ค้างอยู่ ดียังเก็บไว้ให้ก็โอเค ไม่อย่างนั้นหมดอีก ถึงทำน้ำได้มากในปี 2557 ปี 2558 ก็เริ่มทำมาตลอด เพราะฉะนั้นก็ดีขึ้นมาตามลำดับนะ
สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจวันนี้เดี๋ยวถามท่านหม่อมราชวงศ์ปรีดียาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี สงสัยถามท่าน อย่าไปว่าท่านมากนัก ไม่เอา ขี้เกียจฟัง ท่านก็หงุดหงิด ผมก็หงุดหงิดเพราะผมเป็นห่วงท่าน ผมเป็นห่วงบ้านเมือง บางทีท่านก็บอกว่าอย่าฟังมากเลยครับ ฟังแล้วหงุดหงิดเปล่า ๆ ก็ด่าทุกวัน ผมก็หงุดหงิดแทนท่าน ผมอดทนน้อยกว่าท่าน รองนายกรัฐมนตรีทุกคนคุมหลายกระทรวง วัน ๆ หนึ่งประชุมไม่รู้กี่ประชุม ประชุมแล้วก็ต้องไปตามอีก ไปขับเคลื่อนอีก สั่งไว้แล้วก็ต้องไปขับเคลื่อนอีก ต้องไปเดินตามต่างจังหวัด ไปอะไรอีก เรียกข้าราชการมาแต่ละพวกแต่ละฝ่าย โน่นลงไปถึงข้างล่างโน่น มีไหมใครเขาทำให้ท่านแบบนี้ มีไหม
มาตรการเร่งรัดช่วยเกษตรกร เรื่องจำนำข้าวก็จ่ายไปแล้ว หลังจากนั้นมีอีกตั้งหลายเจ้าที่จำนำหลอก ๆ กับโรงสีบางทีก็มั่ว แล้วไม่จ่ายเงินเขาหรอก แล้วก็มาอนุมัติ ครม.จ่ายไปอีก 3-4 จังหวัด อะไรกัน ในเรื่องของการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การผ่อนผันชำระหนี้ให้ผู้ประกอบการ SMEs การแข่งขันดำเนินการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการลงทุนภาครัฐเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ ให้โปร่งใส การแก้ไขปัญหาอุปสรรคการท่องเที่ยว เช่น เงินประกันชีวิต รัฐบาลตั้งไว้ 200 ล้านบาท เพราะฉะนั้นใครเจ็บ ใครตาย มาประเทศไทยแล้วตาย เบิกเงินตรงนี้ รัฐบาลประกันให้ รู้หรือยัง บริษัทข้างนอกเขาไม่รับหรือ ผม รัฐบาลรับ ไม่ว่าจะมาแล้วอะไรก็ดูแลให้หมด ดูขนาดนั้น แล้วยังบอกอีกเขาไม่มาเพราะมีกฎหมายอย่างนี้ แล้วปีนี้ขึ้นมาเท่าไร ถามสิ กี่เปอร์เซ็นต์ สงกรานต์มาเท่าไร สงกรานต์ผมก็ดีใจนะ คุ้มค่ากับที่เขาเหนื่อยกันมา ข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร อาสาสมัครเขาเหนื่อยมาทุกวัน ๆ รัฐบาลก็ไปไหนไม่ได้ก็ต้องนั่งคอยฟังวันนี้จะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ได้แต่สวดมนต์สวดพรกันทุกวัน อย่ามี ๆ มีจับได้แต่งกายโป๊หน่อย ถอดกางเกงหน่อย ต่างชาติ ปรับร้อยบาท ต่อไปไม่มีปรับร้อยบาท ปรับเด็ก ๆ อย่างนี้ไม่เอา กำลังเสนอเข้าครม. ปรับเท่าไรพวกนี้
เขาบอกว่ามีคนมาโจมตี อาจจะเกี่ยวข้องกับนักการเมืองอะไรหรือเปล่าผมไม่แน่ใจ บอกว่าอะไร ปีนี้การท่องเที่ยวกร่อย เพราะ 8 มาตรการของรัฐบาลบิ๊กตู่ทำให้สงกรานต์กร่อย 8 มาตรการผมมีอะไรบ้างนะ ไม่ดื่มสุรา ไม่ขับรถ ไม่ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง ไม่แต่งกายโป๊เปลือย แสดงกิริยาที่ไม่ใช่วัฒนธรรมไทย 7-8 อย่างอันนี้ขัดแย้งกับสังคมตรงไหน ผมไม่เข้าใจ แต่ถ้าจะให้คนมาท่องเที่ยวเยอะโดยให้ทำทุกอย่างได้หรือ จะแก้ผ้าเต้นระบำอะไรบนเวทีได้หรือ หรือจะกินเหล้าเมายาอย่างไรก็ได้ สูบยา สูบอะไรได้หรือ ไม่ได้นะ แล้วพูดทำไม แล้วผมทำอย่างนี้ยังขึ้นเท่าไร 39 เปอร์เซ็นต์ ไปบอกคนพูดสิ พูดในหนังสือพิมพ์ท่านนั่นละ ไปบอกสิเขาขึ้น 39 เปอร์เซ็นต์ บอกต่ำกว่าเดิมเพราะมาตรการ 8 มาตรการของรัฐบาล ดูสิเขาพูด ดัดแปลงบิดเบือนกันทุกเรื่องเลยนะ และการท่องเที่ยวขึ้นเท่าไรไตรมาสแรก ขึ้น 23 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าลดมาตลอด คนที่มาเที่ยวประเทศไทย ไม่ดูตัวเลขเขาล่ะเขาคำนวณจากตรงไหน จากโน่น เข้าเมืองมาโน่น ตม. ศุลกากร ท่าอากาศยาน ไม่ฟัง แต่ไปฟังปากไม่ดีพูดอยู่นั่นละ อย่าไปฟัง ถ้าฟังรัฐบาลแล้วไม่เชื่อรัฐบาลก็ไม่รู้จะไปอยู่ไหนแล้วนะ รัฐบาลก็ไม่รู้จะอยู่ไหน ผมไล่ท่านไม่ได้หรอก ท่านเจ้าของ ผมดูแลให้นิดหน่อยเท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้นสถานการณ์ทางเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับความมีเสถียรภาพของรัฐบาลด้วย ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองด้วย เพราะฉะนั้นหลายเรื่องที่เราทำไปแล้ว การกระตุ้นภาครัฐ เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ งบประมาณพูดกันหลายครั้งแล้วว่างบประมาณคือไม่ใช่ประชาชนใช้จ่าย งบประมาณรัฐมีกลไกหลายอย่าง แล้วก็ลดเวลา ลดขั้นตอนจาก 3 เดือน เหลือ 30 วัน จะต้องมีคำตอบ จะต้องเอางบประมาณออกมาให้ได้ ถ้าบังคับเร่งมาก ๆ เดี๋ยวทุจริต ต้องมีผิดกฎหมายตรงไหนสักอัน เพราะถ้าเร่งมากก็เป็นอย่างนั้น เพราะกฎหมายเขียนไว้อย่างนั้น พ.ร.บ.การใช้จ่ายงบประมาณ ใช้จ่ายเงินแผ่นดินเป็นอย่างนั้นอยู่ ใช่ไหม เห็นใจบ้างสิ ไม่ใช่เร่งแล้วขับไม่ออกสักทีภาคการค้า อุตสาหกรรม วันนี้ยังพูดอยู่เลย การขับเคลื่อนเครื่องจักรของรัฐบาลมีปัญหาติดขัด การเบิกจ่ายงบประมาณ เบิกจ่ายเท่าไรเดี๋ยวฟัง 55 เปอร์เซ็นต์ ดีกว่าปีที่ผ่านมาทุกปีด้วยซ้ำไป แต่เงินเป็นก้อนที่กระจาย สมัยก่อนเร็วเพราะอะไรรู้ไหม เพราะมาก้อนใหญ่ กระทรวงไหนรับไปก็รับไป ไปทำตรงโน้นก็ลงพื้นที่บางพื้นที่ ผู้รับเหมาก็มาที่เดียว เข้าใจหรือยัง วันนี้พอแตกลูกแตกหลานมาเป็นพันโครงการ เป็นหมื่นโครงการ ทำไม่เป็น เขียนแผนไม่ได้ ผมเลยบอกว่าไปจ้างนิสิตนักศึกษามา องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ไปจ้างมา กระทรวงมหาดไทยก็ไปช่วยเขา ข้าราชการเยอะแยะว่างไป ไปช่วยเขาทำงบประมาณให้ออกมาเร็ว ๆ ต้องลงไปขนาดนั้น ไม่ใช่ชักกระเป๋าซ้ายจ่ายกระเป๋าขวา ไม่ใช่ เอาไปใช้ได้เลย ไม่ได้ นี่เร็วแล้วนะ เร่งให้ท่าน ติดไม่รู้เท่าไร แล้วดีกว่าปีที่ผ่านมาด้วยซ้ำไป เดี๋ยวฟังอีกที
อุปสรรคการท่องเที่ยว ส่งเสริมการลงทุน แก้ปัญหาใหม่หมด บีโอไอลงทุน ต้องลงทุนในสิ่งที่รัฐต้องการ ที่ประเทศเราขาด เราเก่งเรื่องอะไร เราลงทุนตรงนั้นเป็นหลัก ถ้าเขาเสนอมาเราก็ให้เขารับผิดชอบสังคมด้วย รับผิดชอบประชาชนด้วย เยียวยาคนได้รับผลกระทบด้วย ต้องชัดเจน หรือไม่ดูแลการศึกษา และก็ไปลงทุนในภาคนี้ ภาคโน้นก็ต้องไปดูแลสถาบันการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยที่อยู่ในต่างจังหวัด บริษัทเหล่านี้ก็ต้องไปร่วมมือ วิจัยร่วมกัน เอานักเรียน นักศึกษามาฝึกงาน ทำขนาดนั้นนะ ที่ผ่านมาไม่ใช่แบบนี้ ก็สนับสนุนไป ใครจะลงก็ลงไป แล้วก็ไม่ตรงกับความต้องการ วันนี้ก็ควบคุมอะไรไม่ได้ เพราะบางอย่างก็เยอะเกินไป บางอย่างก็น้อยเกินไป แต่ก็โอเคอย่างน้อยก็ลงทุนประเทศเรา ก็เชิญมาเยอะ ๆ อันไหนที่ตรงกับความต้องการก็มีสิทธิประโยชน์มากหน่อย ใช่ไหม คุณได้ตรงนี้นี่ ถ้าไม่คิดถึงตัวเองเสียอย่างทำได้หมด
เพราะฉะนั้นในเรื่องของเศรษฐกิจไทย เดี๋ยวรายละเอียดซักเอาเองนะครับ วันนี้เราทำให้ทุกอย่างคลี่คลายลง บริหารราชการภาครัฐกลับมาเป็นปกติ เห็นได้ว่าวันนี้เขาเชิดหน้าหมดทุกคน ข้าราชการ ไม่อย่างนั้นโดนทุกวัน ข้าราชการเป็นผู้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี คนไม่ดีก็ไม่ดี คนเลวก็คือคนเลว อย่ามาเหมาทั้งหมด ทหารพวกนี้ คนนั้น คสช. เลว ถ้า คสช. เลว ผมคนเดียวรับผิดชอบ รัฐบาลเลวผมรับผิดชอบ ใช่ไหมล่ะ หรือใครควรรับผิดชอบอีก
เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจไตรมาสที่สอง ไตรมาสที่สามของปี 2557 เริ่มกลับมาดีขึ้น ขยายตัวร้อยละ 0.4 และร้อยละ 0.6 และเร่งตัวขยายตัวได้ร้อยละ 2.3 ในไตรมาสที่สี่ปี 2557 ปีที่แล้ว 2.7 ใช่ไหม เราตั้งไว้เท่าไรตอน คสช. เข้ามา บอกน่าจะ 2 หรือ 3 ไม่ต่ำกว่า 2 และไปได้แค่ 3 เพราะว่าอะไร เราเข้ามาติดลบอยู่ 0.6 เข้าใจหรือเปล่าตัวเลขดูกันบ้างนะ ติดลบอยู่นะ ผมเข้ามาควบคุมอำนาจเดือนพฤษภาคม 2557 แล้วทำขึ้นมาถึง 2.3 เป็นตัวชี้วัดได้ไหมว่ารัฐบาลเข้ามา คนเขาไม่เชื่อมั่นเราหรือเปล่า ถ้าเขาไม่เชื่อมั่นคงไม่ดีขึ้นมาหรอก พอเสร็จแล้ว พอมาไตรมาสที่สองปี 2557 ภาคครัวเรือนกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบสามไตรมาส ครัวเรือนนะ ไตรมาสที่สามลงทุนภาคเอกชนขยายตัวเป็นครั้งแรกในสี่ไตรมาส
สรุปว่านี่เป็นเรื่อง ๆ นะ ไตรมาสสุดท้ายท่องเที่ยวขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบสามไตรมาสที่ผ่านมาที่ผมพูดไปแล้ว และการผลิตอุตสาหกรรม เริ่มกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบสี่ไตรมาส ไม่ดูตรงนี้ มาบอกวันนี้กระทรวงอุตสาหกรรมหายไปไหน ไม่มีเสียง ท่านจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อยู่ตรงไหน กระทรวงอุตสาหกรรมไม่เห็นทำอะไรเลย เขาทำอะไร เขาไม่มีเวลาพูดเหมือนผมนี่ ผมพูดมากอยู่แล้ว ผมพูดแทนเขาด้วย เดี๋ยววันนี้มีอะไรก็ถามท่าน ทุกอย่างก็เดินหน้าไปหมดอุตสาหกรรม ขยายตัวครั้งแรกในรอบสี่ไตรมาส
เพราะฉะนั้นวันนี้ การลงทุนต่าง ๆ ก็มีการปรับตัวดีขึ้น ลองไปดูว่าสร้างดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงขึ้นอย่างไร ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจธุรกิจ หอการค้าไทย ในช่วงก่อนหน้าคือเดือนมกราคมถึง พฤษภาคม 2557 ก่อนผมควบคุมอำนาจ ตอนนั้นมีแค่ 69.7 ตอนนี้ขึ้นมา 79.7 ตั้งแต่เข้ามา ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจสำรวจโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ท่านเชื่อไหมธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่เชื่ออีก อะไรที่เป็นของรัฐไม่เชื่อสักอัน แล้วไปฟังใครก็ไม่รู้พูด นั่นก็นั่งห้องน้ำแล้วคิดไปเรื่อย อ่านหนังสือพิมพ์คิดไป เพราะฉะนั้นความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รอบ 6 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2557 ถึงกุมภาพันธ์ 2558 เฉลี่ยอยู่ที่ 48.9 สูงขึ้นจาก 46.8 ในช่วงหน้านี้ ก่อนเดือนพฤษภาคม ดีขึ้นค่อยเป็นค่อยไป เดี๋ยวก็หาว่าผมไปปัด ไม่รับผิดชอบ ไม่ดีขึ้นอย่างนั้น ก็ตัวเลขเป็นอย่างนี้ เดี๋ยวจะบอกอีกทีตรงไหนหายไป เพื่อซ่อมแซมประสิทธิภาพเครื่องจักรควบคู่กับการลงทุนเขาทำกันอยู่ ตอนนี้ให้เวลาในการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเครื่องไม้เครื่องมือตามกฎ กติกาบีโอไอใหม่ด้วย ส่งเสริมทั้งไทย ทั้งต่างประเทศ ทั้งขยายในพื้นที่ไปประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ไปใช้สิทธิพิเศษทางการค้า GSP ฝั่งโน้นเราไม่มี ไปสร้างโรงงานฝั่งโน้นมากระจายสินค้าที่นี่ มาแปรรูปที่นี่ แล้วส่งขายออกไปศูนย์กระจายสินค้าต่างประเทศต้องเชื่อมโยง Connectivity ทั้งประเทศ ทั้งสินค้า เราจะทำอะไร เราถนัดเรื่องอะไร ถนนหนทาง รถไฟอะไรต่าง ๆ เขามีหมด
ผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกขนาดใหญ่มีการลงทุนขยายสาขาไปต่างจังหวัด อันนี้ตามเดิมนะ เขาลงทุนของเขาเดิมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจะค้านอะไรอย่าค้านกันมากนักเลย คนละเรื่องกับในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เขาไปตั้งอยู่ก็จริงเพราะอันนั้นเขาไปตั้งก่อน แล้วเราไปวงขึ้นมาทีหลัง ตรงนี้ใครไปตั้งใหม่ก็ได้สิทธิไม่ใช่ของเก่าก็ได้ไปด้วย ไม่ได้ อันนั้นก็ไปใช้สิทธิบีโอไอของเดิมอยู่แล้ว วางรากฐานพัฒนาประเทศ สร้างพื้นฐานมั่นคงระยะยาว ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ปี 2558 – 2565 ถ้าทำตามนี้เสร็จปี 2565 ถ้ามีทุกอย่างที่ผมพูดมาแล้ว วันนี้ก็ปี ถึงปี 2562 , 2563 เพราะเริ่มปีนี้ จะไปจบปี 2562-2563 จะเป็นชิ้นเป็นอันขึ้น รถไฟ รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าอะไรก็แล้วแต่ ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการจัดการน้ำปี 2558 – 2569 ปี 2569 ก็ยั่งยืนแล้ว เราจะมีทั้งน้ำกิน น้ำใช้ การระบายน้ำ การส่งน้ำ การขยายเขตชลประทาน การเพาะปลูก ปรับให้ตรงกับโซนนิ่ง ปรับชุมชนให้เป็นชุมชนเมือง ชุมชนเกษตรกรต้องเป็นชุมชน วันนี้บ้านเราลงทุนเยอะ เพราะอยู่กระจัดกระจาย คนไทยชอบมีที่เยอะ ๆ แล้วก็ที่ใครที่มัน วันหน้าถ้าเราจัดที่ให้ลงทุน วันนี้ก็จัดที่ให้ประชาชน ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย ไปดูสิว่าถ้าพื้นที่ใหม่ที่เราจัดให้เขาแล้วเอาบ้านไปอยู่ตรงที่เดียวกันได้ไหม คนละไร่ คนละเท่าไรก็แล้วแต่ตามเท่าที่มี แล้วที่เหลือก็ไปทำการเกษตรคนละแปลง ๆ ทางโน้น ไกลหน่อย เดินไปหน่อย ไม่อย่างนั้นพอกระจายไปแล้วต้องเดินท่อน้ำนี่ไปโน่น เดี๋ยวไฟฟ้า เดี๋ยวขอเรื่องเจาะน้ำบาดาล ผมไปไม่ไหวหรอก ต้องจัดระเบียบตรงนี้ เรื่องพลังงานทดแทนเหมือนกัน พลังงานทางเลือก ทำแล้วอยากจะขายรัฐ จะขายได้อย่างไรทั้งหมดเล่า มีสัดส่วนอยู่ว่าอะไรต้องผลิตจากนี่ ๆ แล้วของเก่าเอาไปทิ้งไหน ลงทุนไปตั้งเยอะ ใครลงทุนมาผมลงทุนหรือ โรงไฟฟ้าทั้งหมดก็ต้องเปลี่ยนจากไฟฟ้าใช้แก๊ส ใช้น้ำมันมาเป็นพลังงานทางเลือกบ้าง ส่วนหนึ่งก็ให้ประชาชนผลิต เอกชนมาลงทุนผลิตไป แต่ต้องมีสายส่งไฟฟ้า ไม่ใช่ทุกบ้านขายแล้วผมจะขายกับใคร ก็ต้องเข้าสายส่ง ปริมาณไฟฟ้าเขามี Regulator คุมอยู่ว่าควรจะตรงนี้เท่าไร ซื้อจากประชาชนได้เท่าไร รัฐผลิตเท่าไร ทำให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงาน ซื้อจากต่างประเทศเท่าไร วันนี้เรามาแก้ระบบพวกนี้หมดเลย ตั้ง Regulator ใหม่ขึ้นมาตั้ง Adder ปรับเรื่องราคาใหม่ทั้งหมด เดี๋ยวถามท่านเอาเอง
การดำเนินการเป้าหมายต่าง ๆ เหล่านี้เราทำหมด พัฒนาด่านศุลกากร เส้นทาง เดี๋ยวจะเกิดขึ้นในปีนี้เริ่มให้เร็ว ให้ทัน AEC ที่ผ่านมากระจัดกระจาย วันนี้ต้องเชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ ภูมิภาค และไปเขตเศรษฐกิจพิเศษ แล้วก็ไปชายแดน และต่อไปก็ไปเชื่อมโยงกับจีน กับอะไรทางโน้นที่เขาทำมา ถ้าเขาไม่ทำมาไม่รู้จะไปเชื่อมใครก็ไม่ต้องทำ ใช่ไหม หลายประเทศเขาจะทำมาในประเทศรอบบ้านเรา แล้วก็ไปดูสิต่อตรงไหน ถ้าเรากำหนดไว้ก่อน เราทำไว้ก่อน เขาต้องมาต่อเรา ไม่ใช่เราต้องไปต่อเขา เราต้องเป็นผู้นำบ้างสิ ใช้ประโยชน์จากการเป็นศูนย์กลางอาเซียนด้วย การพัฒนาด่านศุลกากรต้องทำใหม่ทั้งหมด คับคั่งที่ไหน ที่แม่สอด ต้องทำสะพานใหม่ ต้องช่วยเขาอีกนะ สะพานแม่สอด มีสะพานเดียว เก่า เสียซ่อมไปแล้วนะคราวที่แล้ว เราต้องซ่อมให้เขา แล้วจะต้องทำสะพานใหม่อีกเพื่อไม่ให้แออัดที่แม่สอด เดี๋ยวการค้าการลงทุนจะมากขึ้น ที่สระแก้วก็แน่น รถน้ำมัน รถทัวร์ รถคน รถอะไรติดไปหมดยาวเหยียด ต้องแก้ ต้องเปิดอีกทางป่าไร่ หรือหนองเอี่ยน กำลังทำอยู่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงที่เกี่ยวข้องกำลังทำอยู่ทั้งหมด กระทรวงการคลัง ไม่ใช่สักแต่ว่าจะขายใคร ขายอย่างไร ไปอย่างไร ขนของไปอย่างไร ถ้าขนของยากก็ไปบวกค่าขนส่งอีกเยอะแยะราคาของก็สูงขึ้น
เพราะฉะนั้นใครตรงไหน ปลูกอะไรก็ปลูกอย่างนั้นไป และในพื้นที่ใช้เหลือก็มาขายที่อื่น ต้องมีระบบตรงนี้เรียกว่า Trading การค้าให้เกษตรกรรู้ด้วยว่าราคาควรเท่าไร นอกนั้นก็เรื่องการปฏิรูปเดี๋ยวไปว่ากัน ผมถึงถามว่าท่านไปหาคำตอบให้ผมหน่อยได้ไหมว่า ประเทศไทยควรจะปฏิรูปไหม ถ้าท่านไม่เชื่อผม ท่านไปถามใครก็ได้ว่าเรามีปัญหาอย่างที่ผมพูดไหม แล้วถ้ามีแล้วจะทำอย่างไร ใครจะแก้ แก้อย่างไร ด้วยวิธีการไหน กลไกอะไรจะทำให้เกิดขึ้นมาได้ หลายประเทศเขาทำแบบนี้ ต้องรีฟอร์มต้องทำใหม่ทั้งหมด ใช้เวลา 30-40 ปี นี่เท่าไรรัฐบาล 6 เดือน เสร็จหรือยัง ๆ ๆ ไม่ได้ไปดูเลยปัญหาอยู่ตรงไหน พอช้าด่าผมอีก ด่ารัฐบาล ด่าข้าราชการ ช้า คอยจ้องว่าจะพลาดเมื่อไร นี่นิสัยที่สอง สร้างวาทกรรมแล้วคอยจับ ไม่ใช่ท่านนะผมพูดถึงอีกบางพวก คอยจับมันพูดอะไรผิด เอาตรงนี้ที่ผิดมาว่า บางทีพูดเร็วบางทีเลยไปบ้างอะไรบ้าง เบรกไม่ค่อยอยู่ เอาต้องผิดนี่ละ แล้วก็ตีอยู่นั่นโจมตี ๆ ผมถามว่าทำเพื่ออะไร พูดเหมือนประเทศชาติไม่มีปัญหาอะไรมาเลย ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยทั้งสิ้นวันนี้ ต่างประเทศเขาเข้าใจเราแล้ว ผมชี้แจงเขาแล้ว เรื่องมาตรา 112 อะไรต่าง ๆ อยากให้เลิก ผมบอกถ้ามีคนไปเล่นงานท่าน ท่านยอมไหม ก็ไม่ยอม แล้วถามอย่างนี้ท่านส่งออกมาต่อสู้อะไรไม่ได้ ชี้แจงอะไรไม่ได้แล้วจะทำอย่างไร ตอบไม่ได้ จะเลือกตั้ง ผมถามแล้วมันอะไรกันนี่ คนของเราก็ดันไปให้ท้ายเขาอีก ทำทำไม ถ้าท่านเห็นพฤติกรรมเขาท่านจะรู้ว่าที่โดนจับไปทั้งหมดนั้นใช่ทั้งนั้น หลักฐานก็มีอยู่ พอมีก็บอกว่าไม่ใช่ เดี๋ยวนี้มีใหม่แก้ตัวใหม่นะ มีคนมาแอบใช้เฟซบุ้ก ตัวเองไม่ได้ทำแล้วคนอื่นมาทำ อะไรกัน คือไม่รับสักอย่างทำความผิดก็ไม่รับ
เขตเศรษฐกิจทวาย ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ วันนี้เขาให้มาตั้งสำนักงานใหญ่เหมือนในสิงคโปร์ ท่านรองนายกรัฐมนตรีหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธรฯ คิดตรงนี้ออกมา ให้มาลงทุน การเงินก็ได้ มาลงทุนในบ้านเรา กู้ยืมเงินอะไรก็ว่าไป สิงคโปร์ไม่มีอะไรเลย เขาร่ำรวยมหาศาลตอนนี้เพราะเขาทำเรื่องตรงนี้ Trading การค้าการลงทุนแค่นั้นเอง ไม่ต้องมีทรัพยากรเลยด้วยซ้ำไป แต่อำนวยความสะดวก ต้องลงทุน ไม่มีอะไรไม่ลงทุน เขามีเงินจากไหนอีก ที่มารีน่าลงทุน 2 ปี กี่หมื่นล้านบาทไม่รู้ เดิมเขาว่าจะคืนภายใน 6 ปีวันนี้ 2 ปีหมดหนี้แล้ว ไปดูสิมารีน่า ท่านก็ไปช่วยเขาเยอะนะ จะบอกให้ไปเที่ยวน่ะ เขาทำสะพานใหม่อีกเส้นหนึ่ง เงินไทยด้วยเยอะ เพราะไปซื้อของบ้านเขาหมดใช่ไหม ทำไมไม่ซื้อของเมืองไทย จะได้เกิดสะพานใหม่ขึ้นมาสักสองสะพาน ช่วยกันซื้อ ติทั้งระบบอยู่ไม่ได้ ต้องช่วยกันปรับปรุง เอาไปใช้ดู ซื้อกระเป๋านี่ไปใช้แล้วกระเป๋ามันลอก บอกอย่างนี้ไม่ดีค่ะมันลอก ไปทดลองใช้หน่อย อันนี้ซิปไม่ดีซิปแตก เขาจะได้ปรับปรุง ไม่ใช่ซื้อไปแล้วไม่ดีก็เลิกซื้อ แล้วถ้ามันสวยแบบดีอะไรดี คราวหน้าออกแบบ เขาเรียกดีไซน์ ดีไซเนอร์เราไม่ได้ค่อยได้ใช้ คิดเอาเองดีไซน์ตัวเอง ตัวเองคิดเอง ทำเอง แล้วจะขายใครได้ ไปดูสิเขานิยมซื้ออะไรมาจากเมืองนอก ไปดูทำให้ดีแบบเขาได้ไหม ไม่ใช่ไปลอกเลียนเขาทั้งหมด
การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาไม่ชัดเจน วันนี้เราต้องเดินหน้าทวาย เพราะเราอยู่ใกล้เขาที่สุด ใช่ไหม เราต้องเตรียมเชื่อมต่อเขาให้ได้ ทวาย อย่างไรก็ต้องเกิด ไม่เกิดวันนี้ก็ต้องเกิดวันหน้า ไม่เกิดปีนี้ก็เกิดปีหน้า ถ้าเราไม่ชิงความได้เปรียบตรงนี้จะรอเมื่อไร บางอย่างก็ต้องทั้ง Give ทั้ง Take แล้วดูแลเขา ลากคนอื่นมาช่วย พูดกับญี่ปุ่นพูดกับอินเดียให้มาช่วยกันเพื่อจะไปทวาย เขาก็โอเคสนใจ แล้วเราก็ทำเส้นทาง ทำรถไฟทำอะไรต่าง ๆ ไปเชื่อมโยง เศรษฐกิจทวาย
เศรษฐกิจดิจิตอล ดิจิตอลเดี๋ยวถามท่านรองนายกรัฐมนตรีหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธรฯ นะ ท่านใช้ประโยชน์จากดิจิตอลไม่ใช่มาใช้ไร้สาระ โพสต์ไปโพสต์มา เธอกินข้าวหรือยังจ๊ะ ต้องถามว่ากินข้าวหรือยังด้วยหรือ ทำไมแล้วจะไปเลี้ยงเขาหรืออย่างไร ก็เปล่า นอนหลับหรือเปล่า เมื่อคืนคิดถึงเราไหม อะไรแบบนี้ เอาละวัยรุ่นผมไม่ยุ่ง เดี๋ยวหาว่าผมไปจำกัดสิทธิ์ความคิดเขาอีก แต่กรุณาเขียน อย่าให้ไปเกิดความขัดแย้ง Hate Speech ไปเขียนทำไม จริงไม่จริงไม่รู้ พอจับขึ้นมา พอดำเนินคดีบอกไม่ได้พูด ไม่ได้ตั้งใจ ทุกคนไม่ตั้งใจสักอย่าง มีไหมล่ะที่ไม่ได้ตั้งใจ ใช้ระเบิดใช้เอ็ม 16 ยิงอะไรสักอย่างแล้วไม่ได้ตั้งใจ มีคนตายช่วยไม่ได้ ไม่ตั้งใจ ขอโทษ ได้ไหม ไปขอโทษลูกเมียทหาร ขอโทษ ไปพูดสิ เขาตายไปนั่นไปขอโทษ
เราต้องปรับโครงสร้างการแข่งขันให้ดีขึ้น ให้เศรษฐกิจกระจายตัว สร้างฐานรายได้ที่สูงขึ้น ทำอย่างไรที่คนเหล่านี้ คนที่ไม่เคยเสียภาษีจะได้มีรายได้ขึ้น เสียภาษีได้ ภาษีวันนี้เท่าไร รายได้ที่ต่ำสุด คนทั่วไป 60,000 บาทถ้ามีรายได้ต่ำกว่า 60,000 บาทก็ไม่ต้องเสีย มีตั้งหลายตัวนะ ภาษีเรือนโรง ภาษีเรือนโรงเข้าใจภาษีเรือนโรงเดี๋ยวถามท่าน อะไรคือเรือนโรง ก็ภาษีเดิม ภาษีเดิมก็คือภาษีอะไร ของเดิมเสียอยู่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 อัตราเดิม ทองไม่ถึง 100 บาท ก๋วยเตี๋ยวชามละบาท อัตรานั้นยังเขียนอยู่เลย แล้ววันนี้เก็บไม่ได้เลยอันนั้น ก็กลไกในการเก็บภาษีก็ไม่สมบูรณ์ ที่จะออกไว้ล่วงหน้าเพื่อจะได้เตรียมการกลไกเหล่านี้เพื่อจะไปเก็บภาษีอีก 2 ปีข้างหน้าให้ได้ อปท. ท่านเข้มแข็งหาเงินให้ อปท. เอง ไม่ใช่เอางบกลางอัดเข้าไปอีก ไม่ใช่เรื่องของการกระจายอำนาจเพื่อใช้จ่ายงบประมาณเอง น้อยยังทำไม่ดีเลย บอกเงินน้อยเกินไปทำไม่ได้อีก ไม่รู้จะทำอย่างไร วันนี้ผมได้สั่งแล้ว ผมอนุมัติการกระจายหน้าที่ความรับผิดชอบ รายได้เอาไว้ทีหลัง ถ้าท่านทำดีก็เดี๋ยวค่อยว่ากัน อปท. อะไรที่ดีก็ให้ไป ทำปรับให้ไปลงรายละเอียดข้างล่าง บางอย่างรัฐจะทำไหม บางอย่างให้รัฐทำไหม ไม่ใช่กระจายไปหมดแล้วจะทำอย่างไร จะสั่งอะไรกันได้ สภา วันนี้มีสภาเท่าไร ที่รัฐธรรมนูญใหม่ร่างมา 11 สภา 11 กลไกที่จะตรวจสอบความทุจริต ตรวจสอบการอนุมัติงบประมาณ ตรวจสอบแผนงานโครงการ ก็ไม่ต้องมีรัฐบาลแล้วแบบนี้ ติดไปหมด ผมไม่ได้ขัดแย้งนะ ท่านเสนอมาก็เสนอมา เดี๋ยวมาหารือกัน ถ้ามันดีมันได้ก็โอเค ไปว่ากัน
ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม วันนี้ก็มีหลายอัน อย่าบอกว่าคนนี้ไม่เอา บางคนเขาได้มาด้วยความรู่เท่าไม่ถึงการณ์ บางคนก็รู้บางคนไม่รู้ เพราะมีโฉนด มี นส.3 มีอะไรออกมาเรียบร้อยหมด เขาก็ซื้อสิ มันธรรมดา แต่ถ้าวันนี้พิสูจน์ได้ว่าผิด พวกนี้เขาอาจจะไม่ผิดทางกฎหมายเพราะมีหลักฐาน แต่ถ้าไปเอาแล้วมาก่อนหน้านั้น ไปเอาดินเขามาครอบตรงโน้นตรงนี้แล้วมันผิด ผิดตามกฎหมาย พวกนั้นต้องไปสอบก่อนหน้านั้นว่ามาอย่างไร ว่าทีละขั้นตอนนะ ไม่ใช่จับมาแล้วใช้มาตรา 44 มาตรา 44 ทำอย่างไร มาตรา 44 ให้ไปตรวจ ให้ทุกหน่วยราชการไปตรวจโดยไม่ละเว้น นั่นละผมใช้กับเขาแล้ว คุมให้เขาไปทำให้เขามีอำนาจไปทำ ไม่อย่างนั้นเขาไปเจอของแข็งก็เด้งออกมาอีก ตรวจไม่ได้อีก ตรวจแล้วก็สร้างความเป็นธรรม คนซื้อก็ซื้อด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเปล่า บิดเบี้ยวตรงไหนไปว่ามา อย่าเอาเรื่องเก่าเรื่องใหม่ เรื่องอนาคตมาปนกันให้หมดไม่ได้หรอก ถ้าคิดแบบนั้นก็ไม่ต้องไปไหนแล้ว
เมื่อสักครู่นี้บอกทรัพยากรธรรมชาติจะปลูกป่าชายเลน เราจะทำป่า ทำหมู่บ้านให้มีความรับผิดชอบกับป่าด้วย เหมือนแนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หมู่บ้านแล้วไปอะไร ป่าเศรษฐกิจ คือป่าที่เสียหายไปแล้ว ให้เขาปลูกป่าเศรษฐกิจเขา ปลูกไม้ที่เขาทำบ้านได้ ปลูกไม้ที่เขาไปทำประโยชน์ ทำฟืนทำอะไรได้ของเขา หรือปลูกไม้ที่ขายได้ เขาจะเก็บกินได้ตรงนั้น ป่าเศรษฐกิจ เพราะอย่างไรก็ไม่มีป่าอยู่แล้วแต่ให้เขาปลูกที่มีรายได้ ต่อจากนี้เป็นอะไร ป่าชุมชน เป็นป่าที่มีป่าอยู่ อาจจะไม่หนาแน่น เขาไปปลูกเพิ่มเติม ไปเก็บเห็ดเก็บอะไรได้ของเขา เฝ้าดูไม่ให้คนมาบุกรุก ต่อไปจากนี้เป็นป่าอะไรอีก ป่าสมบูรณ์ จะเชื่อมโยงอย่างนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำลังทำตรงนี้อยู่ เพราะฉะนั้นก็ช่วยกันดูด้วยนะ จะเป็นอย่างนี้มาต่อเนื่อง
ต้องขอชื่นชม ไม่ได้ชมกันเองนะ ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ต้นไม้กำลังโตขึ้น ๆ ตามลำดับที่ปลูก ๆ ไว้ เพราะปลูกแล้วมีการซ่อม มีให้เงินกับคนในพื้นที่เข้าไปดูแล กระทรวงทรัพย์ฯ ผมให้นโยบายไปแล้วว่าการปลูกป่าต้องมีคนดูแล ไปปลูกตรงที่ควรจะปลูก ไม่ใช่ตรงไหนก็จะปลูกไปเรื่อยแล้วใครจะไปรดน้ำ ใครจะไปซ่อมตอนมันตาย ตรงนั้นช่างมันเถิดเดี๋ยวมันก็ขึ้นเอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านรับสั่งไว้ว่าปล่อยไว้เดี๋ยวป่าขึ้นเอง ถ้าไม่ยุ่งกับมันมากนักมันก็ขึ้น นั่นต้องปล่อยไปแบบนั้น อย่าไปกวนมันก็แล้วกัน เขามีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว แต่ตรงไหนที่มีน้ำ ตรงไหนที่มีชาวบ้านอยู่ ให้เขาดูแลเถิดครับ มันตายก็เปลี่ยน ต้นไม้ไปปลูกก็ควรจะโตสัก 1 เมตรนี้ไม่ตายแล้ว แต่ต้องรดน้ำ ไม่ใช่คืบขนาดนี้ปลูกไม่ได้ 1.50 เมตรนะ เพราะฉะนั้นคิดให้ละเอียด อย่าอะไรก็ตำหนิไปหมดเลย เขาทำทุกอย่าง
ขยะ สงกรานต์เท่าไรกี่ตันไม่รู้ค้างอยู่ แล้วไปทำอะไรก็ต้องเก็บ ต้องขอบคุณ กทม. ขอบคุณทุกจังหวัด มหาดไทย องค์กรท้องถิ่นที่เก็บขยะอยู่ เทศกาลทีก็เต็มไปหมดขยะ ไม่รู้จะไปทิ้งอย่างไร ชาวบ้านก็ช่วยเหลือเกิน ทิ้งคลองไปเลย วันก่อนงัดออกมาที่นอนไม่รู้หลังอยู่ในท่อระบายน้ำ แล้วใครล่ะ ทำไมไม่ช่วยกัน ตอนนี้ขออย่างเดียวว่าไปทำถังดักไขมันง่าย ๆ ก่อน ไม่ใช่อะไรก็ลงท่อ ๆ ก็มันเยิ้มไปข้างล่าง แล้วอะไรอีก ถังเปรอะ ถังส้วม ไปลงทุนหน่อยสิครับ หรือรัฐต้องไปซื้อถังส้วมให้อีก ทุกอย่างท่านจะทำอะไรรัฐซื้อให้ทำดี ถ้าให้ทำเองไม่ดี ต้องรู้จักว่าพึ่งตัวเองได้อย่างไร รัฐจะมาเสริมตรงไหน คิดอย่างนี้ไปได้แน่ประเทศ แต่ถ้ารอรัฐอย่างเดียวแล้วด่าว่าไม่มี เอาเงินที่ไหน ภาษีเก็บไม่ได้อีก เอาที่ไหน ขายของก็ราคาตก มันตกเฉพาะภาคการเกษตรเท่านั้น ขายข้าวเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ในโลกเหมือนเดิม 10 กว่าล้านบาท แต่ราคาต่ำเพราะราคาข้าวต่ำทั้งโลก ไม่ใช่ขายไม่ได้ ขายได้อยู่ ข้าวใหม่นะ ข้าวเก่ากำลังหาทางอยู่
เรื่องการจัดการขยะ การบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ การมีส่วนร่วมของประชาชนรักษาป่าไม้พูดไปแล้ว บุกรุกที่ดินไม่ได้ การบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรมโซนนิ่ง วันนี้ต้องไปบังคับด้วยอะไร วันนี้ต้องไปดูเรื่อง Demand Supply ยางต้องเปลี่ยนมาเป็นปลูกปาล์มน้ำมัน แล้วปาล์มน้ำมันนี้ขายใคร ขาย ปตท. หรือใครที่ผลิตน้ำมันไบโอดีเซล จาก B5 เป็น B7 ใช้ 7 เปอร์เซ็นต์ผสม ก็จะต้องการปาล์มมากขึ้น จะได้แก้ปัญหาเรื่องปาล์ม ลดพื้นที่ปลูกยางไปอีก ต้องต่อเรื่องอย่างนี้ เหมือนบางประเทศ มาเลเซียเขาเลิกปลูกยางมาก ๆ ไปแล้วประมาณ 20 ปีมาแล้ว อินโดนีเซียเขาไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะเขาผลิตในประเทศครึ่งหนึ่ง ใช้งานในประเทศครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งส่งออก เราส่งออก 90 เปอร์เซ็นต์ ผมถามว่าจะตกไหมอย่างนี้ วันนี้เราตั้งโรงงานเยอะแยะไปหมด ทำยางทำอะไร
กรณีเรื่องวิจัยพัฒนา วันนี้ทุกอย่างเน้นเรื่องวิจัยพัฒนา สวทช. ร่วมกับภาคเอกชน มหาวิทยาลัยร่วมกันหมด ทำเอางบประมาณมาช่วยกัน รัฐทำอย่างเดียวไม่ไหว เอกชนต้องร่วมมือด้วย วันนี้เราทำทุกอย่างเดี๋ยวจะเรียนให้ทราบทุกเรื่อง เรื่องระเบียบสังคม เดี๋ยวถามท่านรองนายกฯ ผมพูดซ้ำท่านเยอะแล้ว ค้ามนุษย์เดี๋ยวถามท่าน ด้านการศึกษา พูดไปแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พูดไปแล้ว เรื่องของความร่วมมือภูมิภาค ผมไปที่ไหนไม่เห็นใครเขารังเกียจผมเลย กัมพูชาก็ตอนนี้เพื่อนรักกันเลย ไปไหนถามหาประยุทธ์ตลอดเลย ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ท่านบอกจะทำอะไรก็ทำวันนี้ เพราะว่าท่านก็เป็นมา 30 ปีแล้ว ก็อยากให้ไทยกับกัมพูชาร่วมมือกันทุกอย่าง ลาวก็ช่วยทำด้วย ลาว เวียดนาม ก็โอเค ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ก็คุยได้หมด ไม่เห็นมีปัญหาเลย
เรื่องกระบวนการยุติธรรมเยอะแยะไปหมด เดี๋ยวพูดนะ กฎหมายหลายอย่าง ดูแลเรื่องหนี้นอกระบบ นาโนไฟแนนซ์ถามท่านนะว่าจะมีเมื่อไร ได้ผลเมื่อไร จะใช้อย่างไร ผมว่าเรื่องที่ท่านอยากรู้นะ เขาขาดเงินค่าใช้จ่ายตอนนี้ เขาขายของลดลง เพราะฉะนั้นเงินที่จะดำรงสภาพจนกว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นมันจะน้อย ก็เลยไปดูกันว่าลดหนี้เขาได้ไหม ไม่อย่างนั้นไปกู้สถาบันการเงินของพาณิชย์เขาไม่ให้กู้ หนี้เก่ามีเยอะ ก็ไม่กู้ ต้องหาทางออกช่วยกันอยู่ ทำเพื่อลดหนี้ไม่ใช่ไปทำเพื่อสร้างหนี้ใหม่เพิ่มเติม แล้วก็แก้ไขอะไรไม่ได้นะ แก้ไขกฎหมายเยอะแยะไปหมด แพ่ง พาณิชย์ ศูนย์ยุติธรรมชุมชน กระทรวงมหาดไทย มีกองทุนยุติธรรม สงสารไหมชาวบ้าน ป้าแก่ ๆ ถูกเขาโกง เซ็นชื่ออะไรไปก็ไม่รู้ยกที่ให้เขาไปแล้ว อย่างนี้เขาไม่รู้เรื่องเลยนะ กฎหมายต้องไปบรรจุในกระทรวงศึกษาธิการ กฎหมายพื้นฐาน กฎหมายเหล่านี้ต้องรู้นะ ไม่ใช่สำหรับทนาย สำหรับไปสู้กันข้างนอก ประชาชนต้องสู้ได้ด้วย ต้องเข้าใจกฎหมาย กฎหมายเป็นบ่อเกิดของความสงบสุขทุกอย่าง ถ้าไม่ทำ ไม่ใช้ก็ไม่ต้องมี ถ้าเราเจริญเหมือนกับหลายประเทศที่เขาเจริญไปแล้วเขาไม่ต้องมีหรอกกฎหมายอะไร จารีตประเพณีหมด เพราะเขาคุยกันรู้เรื่อง ผมยกตัวอย่างประเทศสเปนเขาประท้วงยิ่งกว่าเรา ประท้วงทุกวัน แต่ไม่เห็นเขาลากปืนลากอะไรมายิงกันเลย ไม่มี เขามาประท้วงในที่กำหนดให้ 2-3 วัน แจ้งให้รัฐบาลทราบ รัฐบาลก็รับเรื่องไปเขากลับบ้าน ไม่เห็นเขาบานปลายสักอัน ไปดูสิประเทศสเปน ปัญหาเขาเยอะกว่าเราด้วยซ้ำไป
ศูนย์ยุติธรรมชุมชน ทำ 312 ศูนย์ และจะทำให้ครบตำบลอีก 7,256 ศูนย์ ให้ประชาชนได้สามารถเข้าถึงระบบกระบวนการยุติธรรมได้ กองทุนช่วยเหลือค่าใช้จ่าย กองทุนยุติธรรมมีหมด และกฎหมายเรื่องการป้องกันปราบปรามการทุจริต อย่าไปตีอันนี้ให้มากนัก พอเวลาพูดเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมเขาทำอยู่ ไปสนใจเรื่องมาตรา 44 มาตรา 44 จับไปประหารชีวิตหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ไม่ได้ให้เขามาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม นั่นละถึงจะทำให้กระบวนการยุติธรรมได้รับความเชื่อถือเชื่อมั่นวันนี้และวันต่อไปข้างหน้า ถ้าเขาไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม ไม่เชื่อมั่นศาล อยู่ไม่ได้ ประเทศนี้อยู่ไม่ได้ กฎหมายทำให้สังคมเป็นสุข อยู่ร่วมกันได้ ไม่ใช่กฎหมายทำให้เกิดความขัดแย้ง รัฐธรรมนูญไม่ได้ทำให้เกิดความขัดแย้ง แต่รัฐธรรมนูญจะเป็นตัวกำหนดว่าประเทศชาติจะเดินหน้าไปอย่างไรในช่วงนี้ ถ้าท่านป่วย ท่านต้องกินยาไหม หรือฉีดยาหรือเปล่า หรือต้องผ่าตัด นั่นไปดูตรงโน้น ถ้าใครคิดว่าไม่ป่วยก็ไม่รู้ละ คิดคนละอย่างกันทั้งนั้น เดี๋ยวท่านสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะชี้แจง
หลายเรื่องที่ผมพูดไปก็ซ้ำแล้วซ้ำอีก เดี๋ยวค่ำนี้ก็เจอกันอีกแล้ว อดทนหน่อยสิ ผมยังอดทนเลย อดทนพูดแล้วเหนื่อยนะนี่ บางคนบอกพูดยาว พูดนาน ผมพูดอย่างนี้ยังไม่รู้เรื่องเลย พอพูดสั้น ๆ พูดให้รู้ว่า อะไรทำแล้ว อะไรยังไม่ทำ อะไรทำ พูดหรือเปล่าผมแยกอธิบายอย่างนี้หรือเปล่า ท่านฟังแต่ตอนแรก ท่านก็เบื่อท่านก็ไป แล้วท่านก็บอกไม่ได้พูด ผมพูดตั้งแต่ต้นจนจบ พูดถึงอนาคตเลย ร้อยกว่ารอบแล้ว วันนี้อุตส่าห์ทำ นำเสนอในทีวี ในคลิปอะไรต่าง ๆ ว่าให้เห็นอนาคตประเทศไทยจะสวยงามขนาดไหน ถนนหนทางดีมีความสะอาดเรียบร้อย วัดวาอารามสวยได้รับการดูแล การท่องเที่ยวดี นั่นคืออนาคตของเรา มีทางจักรยาน มีถนน มีรถไฟฟ้าทันสมัย นี่ผมกำลังสั่งให้ปีนี้ต้องผลิตรถไฟฟ้าประเทศไทยเองให้ได้ ไม่เห็นยากเลย ไปดูแบบเขาบ้าง วันนี้รถกอล์ฟมีเยอะแยะไป ทำอย่างไรให้มอเตอร์จะใหญ่ขึ้น ทำอย่างไรแบตเตอรี่เก็บไฟได้นาน อย่างน้อยก็ส่งผู้โดยสารระยะสั้นได้ไหม ไม่รู้ วันหน้าเราอาจต้องใช้รถเมล์ไฟฟ้า อันนี้เป็นอนาคตของเรา ผมสั่งไปแล้วเอาต้นแบบมาให้ได้
หลายอย่างที่เป็นวิจัยออกมาแล้วเป็นต้นแบบตลอด ต้นแบบ ๆ ๆ ไม่มีกิ่งก้านสาขามาสักที คือโตแต่ต้น ไม่มีกิ่งก้านสาขาผลิตไม่ได้ ไม่เอา ต่อไปนี้การวิจัยและพัฒนาต้องอยู่ในกรอบที่กำหนด ใช้เงินต้องมีประโยชน์ ไม่ใช่วิจัยเพื่อจะเลื่อนวิทยฐานะตัวเอง ไม่ได้ ไม่เอา รื้อไปให้หมด ขึ้นยอดบัญชีนักวิจัยและพัฒนาในแต่ละสาขาออกมา แล้วมอบภารกิจไป แล้วให้เงินไปวิจัยพัฒนาออกมาให้สำเร็จ หลายอย่างสำเร็จแล้วแต่ไม่ได้ผลิต โอเคนะครับ
ขอบคุณนะครับ ขอบคุณในความตั้งใจของท่านที่ช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง ผมรู้ว่าคนส่วนใหญ่ 60 กว่าล้านคน ผมว่าเยอะนะที่อยากเห็นบ้านเมืองอย่างที่ผมพูด แต่ไปด้วยผมเองไม่ได้ ด้วยรัฐบาลอย่างเดียวไม่ได้ ด้วยข้าราชการอย่างเดียวไม่ได้ ต้องไปทั้งรัฐ ข้าราชการ ประชาชน พ่อค้า เอกชน ต้องช่วยกันทั้งหมด และอะไรที่ว่ามาเรา ถือว่าเป็นแรงใจให้ผม ยิ่งว่าผม ผมยิ่งทำมากขึ้นกว่าเดิม ผมบอกไว้ก็แล้วกัน เข้มงวดมากขึ้นในเรื่องของกฎหมาย ในเรื่องของอะไรที่ต้องแก้ไข ต้อง Reform ใหม่ทั้งหมด เพราะฉะนั้นยิ่งว่าผมยิ่งสู้ ยิ่งมีกำลังใจ ไม่ท้อแท้ ไม่เคยท้อแท้ พักผ่อนมา 5 วัน แล้วพร้อมสู้ทุกอย่าง โอเคนะครับ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th