ผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.)

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานแจ้งที่ประชุมรับทราบโดยกล่าวขอบคุณคณะกรรมการทุกคนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันดำเนินงานให้การแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาล รอบ 6 เดือน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ซึ่งเอกสารต่าง ๆ ที่ทุกคนได้ช่วยกันจัดทำถือว่าเป็นข้อมูลที่ประโยชน์กับนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี สำหรับประกอบการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาล รวมทั้งรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงที่จะต้องแถลงในรายละเอียดเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของรัฐบาลยังสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวประกอบการแถลงผลงานฯ ได้อีกด้วย

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ฯ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ได้มีการพิจารณาหารือเกี่ยวกับผลการดำเนินงานในช่วงเดือนที่ 6 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2558 โดยได้ติดตามประเด็นการขับเคลื่อนเรื่องนโยบายสำคัญ เช่น เรื่องการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปัญหาที่ดินทำกิน การบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเรื่องการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อง ตลอดจนกระทรวงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบว่าการดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยแล้งนั้น ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องยืนยันสามารถดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดและรับมือกับสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ได้มีการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทั้งการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน การขุดเจาะบาดาล รวมถึงการปรับปรุงเส้นทางน้ำไหลและคูคลองต่าง ๆ เป็นต้น พร้อมทั้งกระทรวงเกษตรฯ ได้มีการดำเนินโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยขณะนี้โครงการต่าง ๆ ได้ผ่านการพิจาณาและส่งมาครบถ้วนแล้ว ซึ่งปัจจุบันได้อนุมัติเงินไปแล้ว จำนวน 2,000 กว่าล้านบาท และคาดว่าจะสามารถจัดสรรงบประมาณให้แล้วเสร็จได้ทั้งหมดภายในสิ้นเดือนเมษายน 2558 ระยะเวลาในการพิจารณาจ่ายเงินเมื่อได้รับอนุมัติโครงการจะถึงมือเกษตรกรภายในไม่เกิน 7 วัน

ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ขณะนี้กระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยงข้องได้ดำเนินการตั้งแต่ต้นทาง คือ กระทรงทรัพยากรฯ ได้จัดหาที่ดิน กลางทาง คือกระทรวงมหาดไทย ได้จัดสรรเจ้าหน้าที่และบุคคลลงไปในพื้นที่ที่กระทรวงทรัพยากรฯ จัดหาไว้ และปลายทาง กระทรวงเกษตรฯ ได้จัดฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยได้มีการดำเนินการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เมื่อการดำเนินงานของรัฐบาล ครบ 9 เดือน คาดว่าน่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งในภาพรวมของเรื่องนโยบายสำคัญก็สามารถติดตามขับเคลื่อนไปได้ตามที่กำหนด

นอกจากนี้ที่ประชุม ได้มีการหารือและติดตามการเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบาย 11 ด้าน รวมทั้งการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ และการปฏิรูปประเทศ โดยเจ้าภาพหลักในแต่ละนโยบายแต่ละข้อได้นำเสนอต่อที่ประชุม กขร.ในเด็นต่าง ๆ ทั้งปัญหาและอุปสรรค ประเด็นความต้องการในการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการขับเคลื่อนเร่งรัดการดำเนินการ/แผนการดำเนินการในระยะต่อไป ตลอดจนการใช้จ่ายงบประมาณ เป็นต้น ซึ่งการใช้จ่ายงบประมาณในบางข้ออาจจะยังดำเนินการได้ไปเป็นไปตามที่กำหนดเท่าที่ควร อย่างไรก็ตามสำนักงบประมาณ ได้ประเมินว่าในไตรสามที่สามการเบิกจ่ายงบประมาณจะดำเนินการได้ดีขึ้น ขณะที่ในส่วนซึ่งได้มีการทำสัญญาผูกพันไว้แล้วคาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ในไตรมาสที่สามได้มากขึ้น

สำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ของประชาชนผ่านศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย รายงานที่ประชุม กขร.ว่าสามารถดำเนินการแก้ไขผ่านศูนย์ดำรงธรรมไปได้แล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปัญหาที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามา ได้แก่ ที่ดินทำกิน หนี้นอกระบบ ปัญหาเรื่องความปลอดภัย ความเดือดร้อนประจำวัน น้ำ ไฟฟ้า ประปา เป็นต้น

ส่วนกรณีที่คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปให้ใบเหลืองประเทศไทยเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาประมง (IUU Fishing) นั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมได้มีการหารือกันในเรื่องดังกล่าวเล็กน้อย เพราะการดำเนินการในเรื่องนี้จะมีคณะกรรมการขับเคลื่อนเรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว อย่างไรก็ตามรัฐบาลภายใต้การบริหารราชการของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงเรื่องดังกล่าวโดยได้สั่งการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่องโดยลำดับ ซึ่งวันนี้ได้รับการยืนยันจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงแรงงาน ว่าทุกหน่วยงานได้พยายามดำเนินการแก้ไขเป็นไปตามลำดับ แต่เนื่องจากของคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปมีหลายเรื่องและหลายมิติ เช่น มิติทางด้านกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปเห็นว่าโทษน้อยไป เพราะฉะนั้นกฎหมายใหม่ พ.ร.บ.เรื่องการประมงก็ได้ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)แล้ว รวมทั้งมิติในเรื่องของการรายงานถึงแหล่งที่มาของการจับปลา ซึ่งตรงนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ที่รับผิดชอบจะต้องพิจารณาแก้ไขในเรื่องเหล่านี้ต่อไป ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าน่าจะสามารถปรับและดำเนินการได้ดีขึ้นตามระยะเวลา 6 เดือน ที่คณะกรรมธิการสหภาพยุโรปกำหนด โดยอาจจะมีการติดตามเป็นรายเดือน ซึ่งทาง กขร.ก็จะช่วยดำเนินการติดตามเรื่องนี้อีกทางหนึ่ง

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th