จากกรณีข่าว สถานพยาบาลต่างๆ โดยเฉพาะภาคเอกชน กำลังวุ่นหาวัคซีนรวม ป้องกัน 5 โรค คือ คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ตับอักเสบบี และเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากแบคทีเรียฮิบ ไม่สามารถหาซื้อได้ เพราะผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกมีปัญหาขัดข้องทางเทคนิคทำให้ต้องหยุดผลิตโดยฉับพลัน จึงส่งวัคซีนไปยังประเทศต่างๆไม่ได้ตามแผน รวมถึงประเทศไทยด้วยนั้น
วันนี้ ( 11 เมษายน 2558 ) ศาสตราจารย์ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข เล็งเห็นความสำคัญของความมั่นคงทางด้านวัคซีนเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และองค์การเภสัชกรรมได้มีความพยายามร่วมกันที่จะพัฒนาศักยภาพของการผลิตวัคซีนภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาจากภายนอก เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนวัคซีนที่จำเป็น ดังเช่น การสนับสนุนการสร้างโรงงานวัคซีนไข้หวัดใหญ่ขององค์การเภสัชกรรม ส่วนปัญหาการขาดวัคซีนรวมป้องกัน 5 โรค นับเป็นตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นของการพัฒนาศักยภาพของการผลิตวัคซีนภายในประเทศ ทั้งนี้ หากประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนได้ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก และเป็นวัคซีนที่คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเห็นว่า ควรบรรจุเป็นวัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กไทย กระทรวงสาธารณสุขมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนการใช้วัคซีนที่ผลิตในประเทศไทย
นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วัคซีนรวม 5 โรคเป็นวัคซีนที่ใช้กันแพร่หลายในภาคเอกชน แต่ในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐเด็กจะได้รับวัคซีนรวมป้องกันโรคพื้นฐาน 4 โรค คือ คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก และตับอักเสบบี ผู้ปกครองสามารถพาบุตรหลานไปรับวัคซีนได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐใกล้บ้านทุกแห่ง นอกจากนี้ ยังมีวัคซีนขั้นพื้นฐานอื่น ๆ ที่ให้บริการกับเด็กไทยโดยไม่คิดมูลค่า ได้แก่ วัคซีนป้องกันวัณโรค วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด- คางทูม- หัดเยอรมัน วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี รวม 10 โรค ซึ่งวัคซีนเหล่านี้เป็นวัคซีนที่คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคพิจารณาแล้วเห็นว่าพอเพียงสำหรับเด็กไทย และกรมควบคุมโรคร่วมกันสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้จัดหาวัคซีนดังกล่าวให้เด็กไทยมีใช้อย่างพอเพียงไม่ขาดแคลน
ส่วนวัคซีนป้องกันเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากแบคทีเรียฮิบนั้น ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคภายใต้คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติได้ศึกษาข้อมูลทางวิชาการรอบด้านแล้ว ยังไม่แนะนำให้บรรจุไว้ในตารางการให้บริการวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ อยู่ระหว่างการรอพิจารณาความจำเป็นในการจัดบริการแก่เด็ก โดยยังมีวัคซีนที่อยู่ระหว่างรอจัดสรรงบประมาณ เพื่อนำมาใช้ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคอีกหลายชนิด เช่น วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก วัคซีนโรตาป้องกันอุจจาระร่วงในเด็ก และวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
11 เมษายน 2558
ที่มา: http://www.thaigov.go.th