พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 6 เดือน ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน นายอารักษ์ พรหมณี รองปลัดกระทรวงแรงงานและโฆษกกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมการแถลงข่าว พร้อมนำนิทรรศการในหัวข้อ การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานและการทำประมงผิดกฎหมาย มาร่วมจัดแสดง ณ โถงกลางตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลด้วย ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลทำงาน 3 ระยะ ทั้งระงับยับยั้งความขัดแย้ง การแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและบริหารราชการแผ่นดินให้สามารถดำเนินต่อไปได้ นำความสงบสุขมาสู่ประเทศ ระยะที่สอง ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว จัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อความจำเป็นในการบริหารประเทศ ส่วนระยะที่สามคือการเตรียมการส่งต่อ ซึ่งได้จัดตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ร่างรัฐธรรมนูญให้ผ่านโดยเร็ว โดยไม่ให้เกิดความขัดแย้งและสามารถจัดการเลือกตั้งได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประชาชนทั้งประเทศที่จะเข้าใจรัฐบาลและให้ความร่วมมือ มิฉะนั้นความขัดแย้งจะกลับมาเหมือนเดิมอีก
ซึ่งทั้ง 3 ระยะจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จตามห้วงเวลาที่กำหนด
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายทั้ง 11 ด้านกระตุ้นการทำงานภาครัฐ ส่งเสริมการลงทุน เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ เพื่อให้ประเทศชาติมั่นคง ค่อยๆ เดินไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน มีภูมิคุ้มกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชน โดยขับเคลื่อนนโยบายทุกด้านให้สัมฤทธิ์ผล ซึ่งได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหลายคณะ เช่น คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (กขย.) คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) คณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล (กขน.) และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.)
" สถานการณ์วันนี้ไม่ปกติ ผมต้องบังคับบัญชา ขับเคลื่อนให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย กฎหมายจะทำให้สังคมเป็นสุข รัฐธรรมนูญเป็นตัวกำหนดว่าประเทศชาติจะเดินหน้าอย่างไร วันนี้เราทำให้ทุกอย่างคลี่คลายลง ให้การบริหารประเทศเป็นปกติ" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนการแถลงผลงานของกลุ่มความมั่นคง โดยพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งประเด็นผลการดำเนินงานของกระทรวงแรงงานที่ถูกนำเสนอ อาทิ การจัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย เพื่อให้บริการจัดหางานแบบครบวงจรแก่ประชาชน โดยได้ขยายผลการให้บริการใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย ณ อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อเป็นแม่ข่ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจังหวัดนครราชสีมา และจะขยายการบริการเพื่อให้เข้าถึงประชาชนให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ที่ผ่านมามีผู้มาใช้บริการกว่า 2 แสนคน บรรจุงานแล้วกว่า 1.5 แสนคน เดินหน้าไปกว่า 80% นอกจากนี้ได้จัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศกว่า 5 หมื่นคน ส่วนการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว โดยศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ ( OSS) สามารถจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวได้มากกว่า 1.6 ล้านคน เพื่อนำไปสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติต่อไป รวมถึงการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการทำประมงผิดกฎหมายเพื่อนำไปสู่การลดระดับเทียร์ 3
" งานด้านความมั่นคงจะเกี่ยวข้องกับงานด้านสังคมและเศรษฐกิจด้วย ถ้าความมั่นคงดี ทุกอย่างก็จะดีไปด้วย รัฐบาลและ คสช.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกคนทุ่มเทกำลังเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และพยายามทำให้เกิดความปรองดอง ความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก" พลเอกประวิตร ฯ กล่าว
กลุ่มงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์/
"กระทรวงแรงงาน บริการด้วยใจ เพื่อคนไทยมีงานทำ"
ที่มา: http://www.thaigov.go.th