พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีหญิงชรา อายุ ๖๐ ปี พิการไม่สามารถเดินและพูดได้ ถูกลูกทิ้งไว้ตามลำพังไม่เหลียวแล อาศัยข้าวจากเพื่อนบ้านประทังชีวิต ที่จังหวัดศรีสะเกษ และกรณีเด็กหญิง อายุ ๒ ขวบ ป่วยเป็นโรคผิดปกติทางผิวหนัง หรือเด็กเผือก มีพัฒนาการช้า ไม่สามารถเดินและนั่งเองได้ ตาและผิว ไม่สามารถโดนแดดได้ และเป็นโรคผนังหัวใจรั่ว ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดชัยภูมิ และอีกกรณีหญิงสาว อายุ ๑๖ ปี ป่วยเป็นมะเร็งที่บริเวณแก้ม ตาข้างซ้ายบอด ร่างกายซูบผอม ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ อาศัยอยู่กับพ่อ พี่สาว และย่า ซึ่งพ่อมีอาชีพรับจ้างทำนาหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว ครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินรักษา ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ทั้ง ๓ จังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่อง การรักษาพยาบาลต่อไป
"สำหรับวันนี้ เวลา ๑๓.๐๐ น. ตนจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ ๑๔ จังหวัดตรัง เพื่อมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ และให้ขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th