พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในฐานะประธานเปิดงานประชุมเครือข่ายความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของอาเซียน ว่า การเข้าสู่อาเซียนนับเป็นประตูสู่การเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ทั้งทางด้านการเมือง วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของอาเซียน ซึ่งจะเป็นความท้าทายที่สำคัญของเครือข่ายความปลอดภัยของอาเซียนในการดำเนินงานด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยที่จะมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น นับเป็นโอกาสดีของประเทศไทยที่ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเครือข่ายมีอายุครบ 15 ปีและตรงกับปีที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ข้อมูลสารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นที่เครือข่ายต้องให้ความสนใจและให้ความร่วมมือในการดำเนินงาน เพื่อให้การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของอาเซียนดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ประเทศสมาชิกต้องให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในการให้ข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาตัวชี้วัดการดำเนินงานด้านความปลอดภัยฯ (ASEAN OSHNET Scorecard) เพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นบรรทัดฐาน และเป็นสารสนเทศในการยกระดับการดำเนินการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของอาเซียน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องสารสนเทศของเครือข่ายฯ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของประเทศไทย และความร่วมมือด้านอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาประเทศไทย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานให้ความสนับสนุนด้านความปลอดภัยฯ แก่ประเทศสมาชิกอาเซียน โดยการจัดหลักสูตรฝึกอบรมทางวิชาการให้กับเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานจากกลุ่มประเทศ CLMV หลายครั้ง ภายใต้โครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (TICA) ทั้งนี้ ในอนาคตยังมีการเตรียมการจัดสรรทุนสนับสนุนการศึกษาให้กับบุคลากรจากประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อมาศึกษาระดับปริญญาโท-เอก ในสถาบันการศึกษาในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้หลายแห่งมีการจัดหลักสูตรนานาชาติด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแล้วทั้งนี้ ประเทศไทยกำลังศึกษาความพร้อมในการให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 187 ว่าด้วยการส่งเสริมงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของประเทศต่อการดำเนินงานด้านความปลอดภัยฯ ให้สอดคล้องและเป็นไปตามมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังได้ประกาศให้ปี 2558 เป็นปีแห่งการรณรงค์สร้างจิตสำนึกความปลอดภัยในการทำงาน “เซฟตี้มายด์” อีกทั้งยังมีการศึกษาแนวทางในการผสานงานด้านความปลอดภัยในการทำงาน และงานด้านการรักษาฟื้นฟูผู้ประสบอันตรายจากการทำงานเข้าเป็นเนื้องานเดียวกัน เพื่อยกระดับโครงสร้างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นระดับกรม เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลแรงงานที่ดีขึ้น
นายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การดำเนินงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยได้มีความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศในอาเซียนมาเป็นเวลานาน ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ได้แก่ เนการาบรูไนดารุสซาลาม สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา สหภาพพม่า สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สหพันธ์รัฐมาเลเซีย สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐสิงคโปร์และประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย ทั้งนี้ การประชุมเครือข่ายความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของอาเซียนมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีในการติดตามผลการดำเนินงาน แลกเปลี่ยนข้อมูล แนวคิด องค์ความรู้ นวัตกรรม แนวปฏิบัติที่ดี รวมทั้งข้อเสนอแนะต่างๆ ด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนและหน่วยงานสนับสนุนจากประเทศนอกกลุ่มอาเซียน อีกทั้งเป็นการยกระดับเครือข่ายให้เกิดความเป็นเอกภาพของภูมิภาค รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติต่อไป
กระทรวงแรงงาน “บริการด้วยใจ เพื่อคนไทยมีงานทำ”
ที่มา: http://www.thaigov.go.th