วันนี้ (22 เมษายน 2558) ที่ศูนย์บริหารกิจการอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ เขตหนองจอก กทม.ศ.นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายอรุณ บุญชม ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร ดร.วัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสุเทพ เกษมพรมณี รองอธิบดีกรมการศาสนา เปิดโครงการสร้างเสริมสุขภาพแก่ชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปแสวงบุญฮัจญ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ประจำปี 2558 ในวันนี้ได้จัดหน่วยแพทย์จากโรงพยาบาลทั้งในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และสังกัด กทม. รวม 16 ทีม เข้าร่วมตรวจสุขภาพเพื่อประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพ การอบรมให้ความรู้และข้อแนะนำการดูแลสุขภาพ และการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และโรคไข้กาฬหลังแอ่น ฟรี มีชาวไทยมุสลิมในเขต กทม.และปริมณฑลรับบริการ 1,200 คน
ศ.นายแพทย์รัชตะ กล่าวว่า ในปี 2558 นี้ มีชาวไทยมุสลิมจะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย จำนวน 10,400 คน รัฐบาลไทยให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมการจัดระบบดูแลพี่น้องชาวไทยมุสลิม รวมทั้งดูแลสุขภาพอย่างเป็นระบบ มีความปลอดภัยเทียบเท่ามาตรฐานสากล เพื่อส่งเสริมให้ประกอบศาสนกิจได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน
ศ.นายแพทย์รัชตะ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดระบบการดูแลสุขภาพตั้งแต่ก่อนไปจนถึงหลังกลับ โดยการดูแลสุขภาพก่อนการเดินทาง ได้จัดอบรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การตรวจสุขภาพให้กับผู้แสวงบุญก่อนที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ โดยผู้แสวงบุญจะได้รับสมุดสุขภาพประจำตัว (Health passport) ประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพ และเพื่อบันทึกสถานะสุขภาพ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่นและไข้หวัดใหญ่ พร้อมออกเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรค (เล่มเหลือง) การดูแลสุขภาพขณะอยู่ในประเทศซาอุดิอาระเบีย จัดส่งหน่วยแพทย์พยาบาลไทยจำนวน 3 ทีม รวมทั้งสิ้น 42 คน และการดูแลสุขภาพหลังกลับจากพิธีฮัจญ์ กรมควบคุมโรคร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาระบบการเฝ้าระวังติดตามสุขภาพผู้แสวงบุญเป็นระยะเวลา 1 เดือนนับจากเดินทางกลับจากซาอุดิอาระเบีย โดยการสร้างเครือข่าย อสม.ฮัจญ์ และทีมหมอครอบครัว ให้เป็นผู้ประสานงานระดับพื้นที่ และสร้างเครือข่ายผู้ประสานงานฮัจญ์ หรือ มิสเตอร์ฮัจญ์ ทั้งในระดับจังหวัด ระดับเขต และระดับประเทศ กระจายทั่วประเทศ 53 จังหวัด
ทั้งนี้ เริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2558 เนื่องจาก 2 โรคนี้เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ มีโอกาสเกิดขึ้นได้เมื่อมีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในแต่ละปีมีชาวมุสลิมจากหลายเชื้อชาติทุกภูมิภาคทั่วโลกไปประกอบพิธีฮัจญ์ประมาณ 2-3 ล้านคน และต้องอาศัยอยู่รวมกันเป็นเวลานานนับเดือน และจัดส่งหน่วยแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขไทย พร้อมเวชภัณฑ์ยา จำนวน 3 ทีม เดินทางไปให้บริการตรวจรักษาพยาบาลระหว่างประกอบศาสนกิจ จะเริ่มเดินทางไปวันที่ 16 สิงหาคม 2558
ทางด้าน นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับชาวไทยมุสลิมที่จะรับบริการฉีดวัคซีนก่อนเดินทาง ส่วนกลางในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล สามารถไปขอรับบริการได้ที่ 1.สถาบันบำราศนราดูร 2.ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าเรือกรุงเทพ 3.สถานเสาวภา สภากาชาดไทย 4.โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน และ 5.โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ส่วนในภูมิภาคหรือต่างจังหวัด สามารถรับบริการที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่, ที่ 11 นครศรีธรรมราช,
ที่ 12 สงขลา ขณะนี้กรมควบคุมโรคได้จัดเตรียมวัคซีนไว้ให้บริการอย่างเพียงพอแก่ผู้เดินทางไปแสวงบุญที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมการศาสนาไว้แล้ว สามารถสอบถามจุดบริการและไปรับบริการได้ตามสถานที่ดังกล่าวข้างต้น
22 เมษายน 2558
ที่มา: http://www.thaigov.go.th