นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเดินทางไปร่วมประชุมครั้งนี้จะมีการหารือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจในลักษณะการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งไม่ใช่การแข่งขันกันแต่จะเป็นหุ้นส่วนพันธมิตรทางยุทธศาสตร์โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรที่มีปัญหาต่อเกษตรกร โดยรัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือ แต่เกษตรกรและประชาชนต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือตัวเอง วันนี้เศรษฐกิจตกต่ำ รายได้มีปัญหา หากปล่อยไว้นานความเสียหายจะมากกว่านี้ ทั้งนี้ เราสามารถทำให้ปัญหาเหล่านี้หยุดชะงัก หรือเดินหน้าต่อไปได้โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนและจัดทำงบประมาณซึ่งทุกอย่างไม่ได้แก้ได้ภายในวันนี้ทันที
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "วันนี้ ผมได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐหารือกัน เพราะห่วงผู้มีรายได้น้อยซึ่งมีหลายระดับที่ต้องการเงินลงทุนตั้งแต่หนึ่งแสนบาท โดยไม่มีการค้ำประกัน ซึ่งรัฐบาลอาจจะพอช่วยได้ แต่ธนาคารพาณิชย์ต้องเข้ามาร่วมด้วย แต่ธนาคารพาณิชย์มีหลักเกณฑ์ หลายอย่างในเรื่องการปล่อยสินเชื่อเงินลงทุนเพื่อป้องกันหนี้เสีย แต่จะมีการหารือว่าจะทำอย่างไรในเรื่องของดอกเบี้ย การผ่อนชำระ วงเงินกู้ และการค้ำประกัน ซึ่งหลายคนต้องการกู้เงินตั้งแต่หนึ่งแสนบาท โดยเฉพาะกลุ่มแม่ค้าทั้งหลาย เพื่อที่จะนำเงินไปลงทุนประกอบอาชีพ แต่ในส่วนของพ่อค้า แม่ค้าระดับกลางที่พอจะมีทุนหมุนเวียนต้องการเงินกู้ในวงเงินประมาณห้าแสนบาท ถึงสิบล้านบาท ตรงนี้รัฐบาลต้องหาแหล่งเงินกู้ให้ แต่จะทำอย่างไรถึงจะทั่วถึง จึงให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะทำอย่างไรและจะมีมาตรการอะไรเสริม ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันต้องบอกความจริงกันแต่ถ้าทุกคนจะเอาทั้งหมดโดยไม่มีอะไรเป็นหลักเกณฑ์และถ้าเป็นหนี้ศูนย์ ทางธนาคารก็จะลำบาก ตรงนี้ต้องเห็นใจกัน มีทรัพย์สินอะไรก็เอามา จะเอารถ เอาบ้านมาจำนองหรือค้ำประกันจะสามารถให้เงินกู้ได้เท่าไหร่"
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า เรื่องการเงินการคลัง จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 หรือสั่งให้ทำทุกอย่างคงไม่ได้ เพราะระบบการเงินยึดโยงกันทั้งประเทศและทั้งโลก แต่ทำอย่างไรเราจะช่วยกัน จึงขอร้องผู้บริหารธนาคารให้มีการผ่อนผันได้หรือไม่สำหรับคนที่มีหนี้สินมาก แต่ถ้าผู้ที่จะกู้เงินมีทรัพย์สินมาค้ำประกันก็ให้เงินกู้มากหน่อย ข้อสำคัญต้องให้ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันมากหรือน้อยก็ต้องให้ทุกพื้นที่ ทุกกลุ่ม ไม่ใช่ให้แต่กลุ่มตัวเองตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ วันนี้บ้านเมืองเดินหน้าไปไม่ได้ ความขัดแย้งก็ยังมี โรคภัยไข้เจ็บก็มาก สาธารณะสุขพื้นฐาน การศึกษา การเมืองก็มีปัญหา แต่ถือว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาปากท้องของประชาชนที่สุด
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th