โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือถึงแนวทางการพัฒนาระบบนวัตกรรมไทย ตลอดจนกลไกการเชื่อมโยงโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของประเทศและตลาดภาครัฐเข้ากับการพัฒนาความเข้มแข็งของภาคการผลิตและบริการเพื่อเพิ่มผลิตภาพของผู้ประกอบการไทยให้แข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างยั่งยืน และมุ่งสู่การเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
ในการประชุมหารือดังกล่าว ได้มีข้อสรุปประเด็น ดังนี้
1.กลไกระบบตลาดทุนเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการนวัตกรรมไทย
1.1 การส่งเสริมการใช้กลไกธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Private Equity)
- ยกเว้นภาษีเงินได้จากเงินปันผลและกำไรจากการขายหุ้นให้แก่ธุรกิจ Private Equity และนักลงทุนที่ลงทุนในธุรกิจ Private Equityทุกรูปแบบ ทั้งนี้ ยกเว้นเฉพาะในส่วนที่ลงทุนในธุรกิจฐาน วทน. เท่านั้น
- เร่งรัดกรมสรรพากรให้ยกร่างและนำเสนอ พรฎ. เพื่อการยกเว้นภาษีดังกล่าว ต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร่งด่วน
1.2 การส่งเสริมการใช้กลไกตลาดหลักทรัพย์สำหรับธุรกิจเทคโนโลยี
- ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลแก่บริษัทที่ประกอบธุรกิจเทคโนโลยีที่เสนอขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เหลือร้อยละ ๑๕ เป็นเวลา ๕ ปี
- จัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพิจารณารับรองธุรกิจฐาน วทน. ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีข้างต้น
2. จัดให้มีการ(ร่าง)ข้อเสนอ การพัฒนา “เขดนวัตกรรมพิเศษ (Specialized Innovation Zone : SIZ)
- ปรับเปลี่ยนให้มีการผลิตสินค้าและบริการที่ใช้แรงงานน้อยลง เพื่อนำไปสู่การใช้ วทน. มากขึ้น
- สร้างพื้นที่เศรษฐกิจใหม่บนฐานนวัตกรรมและการวิจัยพัฒนาเพื่อผลิตสินค้าและบริการที่เป็น High Value Added (HVA)
- เป็นแหล่งสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศและพื้นที่ในภูมิภาคได้อย่างยั่งยืน
คุณลักษณะของ SIZ
พื้นที่ที่มีการอยู่รวมกันอย่างหนาแน่นของ
- เอกชนที่ทำวิจัยพัฒนานวัตกรรมอย่างเข้มข้น
- ธุรกิจและอุตสาหกรรมฐานความรู้, ODM/OBM
- สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย และหน่วยบ่มเพาะธุรกิจ
- Knowledge workers ความร่วมมือวิจัยและพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม เอกชน-รัฐ-มหาวิทยาลัย
มีการใช้พื้นที่แบบผสมผสาน ทั้งสถานที่ทำวิจัยพัฒนา โรงงานต้นแบบ โรงงานผลิต และที่พักอาศัย
มีกลไกสนับสนุนและส่งเสริมที่จำเป็นต่อระบบนิเวศน์ทางนวัตกรรม (Innovation Ecosystem)
กลไลการบริหารจัดการ
- ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเขตนวัตกรรมพิเศษ
- คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารจัดการ
- สำนักงานที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาเขตนวัตกรรมพิเศษ
ในประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการการพัฒนาเขต นวัตกรรมพิเศษและมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจัดทำรายละเอียดข้อเสนอการพัฒนาเขตนวัตกรรมพิเศษ รวมทั้งจัดทำ(ร่าง)ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเขตนวัตกรรมพิเศษเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศและคณะรัฐมนตรีต่อไป
3. การร่างข้อเสนอโครงการอุทยานนวัตกรรมอาหารอาเซียน
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้นำในการผลิตสินค้าอาหาร ทั้งในรูปของผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นอาหารและสินค้าอาหารแปรรูปเพื่อกา บริโภคในประเทศและการส่งออก อย่างไรก็ตาม ประเทศผู้ส่งออกสินค้าอาหารแปรรูปรายใหญ่ของโลกมีแนวโน้มของการลงทุนในกลุ่มประเทศ ASEAN มากขึ้น เพราะต้องการใช้ประโยชน์จากฐานวัตถุดิบและข้อตกลงการค้าเสรี ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีความเสี่ยงในการสูญเสียโอกาสในการแข่งขันและตลาดส่งออก ยิ่งไปกว่านี้ ประเทศไทยไม่สามารถใช้ข้อได้เปรียบในเรื่องของค่าแรงต่ำได้อีกต่อไป เนื่องจากกลุ่มประเทศเปิดใหม่ใน ASEAN มีข้อได้เปรียบด้านค่าแรงงานที่ต่ำกว่าในการผลิตสินค้าอาหารแปรรูประดับปฐมภูมิ
ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการด้วยงานวิจัยและนวัตกรรมกระบวนการแปรรูปอาหารเชิงพาณิชย์ โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ได้พัฒนาขึ้นให้สูงเทียบเท่าหรือดีกว่าต่างประเทศ อันจะทำให้สินค้าเกษตรมีมูลค่าสูงขึ้น เป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการ ในการทำให้สินค้าอาหารแปรรูปของไทยมีคุณภาพสูง เพิ่มคุณค่า และคงความปลอดภัยของอาหารตลอดห่วงโซ่การผลิต
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย) ได้เสนอแนวทางการพัฒนาเขตนวัตกรรมอาหารอาเซียน โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีอยู่ ร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีความพร้อมในเรื่องการให้บริการด้านเทคโนโลยี เครื่องจักรต้นแบบและบุคลากร แก่อุตสาหกรรมอาหารอย่างยาวนานเกือบ ๕๐ ปี เพื่อดำเนินการส่งเสริมการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมในภาคเอกชนให้สามารถยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารของประเทศได้โดยมี วัตถุประสงค์ 1. เพื่อนำโครงสร้างพื้นฐานและกำลังคน วทน. ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สนับสนุนนวัตกรรมและการวิจัยของบริษัทเอกชนในภาคอุตสาหกรรมอาหาร 2. เป็นเขตส่งเสริม และอำนวยความสะดวกให้บริษัทเอกชนในอุตสาหกรรมอาหารลงทุน และดำเนินการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรมที่สำคัญของอาเซียน 3. สนับสนุน SME ให้เข้าถึงบริการเทคโนโลยี (เช่น บริการทดสอบ พัฒนามาตรฐาน พัฒนานวัตกรรม และการให้คำปรึกษา ฯลฯ) ในอัตราต้นทุนที่ต่ำ ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับอาเซียนและระดับโลก
ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการของโครงการอุทยานนวัตกรรมอาหารอาเซียน และมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดทำรายละเอียดเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ และคณะรัฐมนตรีต่อไป
ข่าวโดย : นางสาวชลธิชา แสงเทียนสุวรรณ
ถ่ายภาพและวีดิโอ : นางสุนิสา ภาคเพียร นาวงษ์, นายไววิทย์ ยอดประสิทธิ์
กลุ่มงานประชาสัมพันธ์
สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3727 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834
e-mail : pr@most.go.th
Facebook : sciencethailand
ที่มา: http://www.thaigov.go.th