นายกรัฐมนตรีย้ำรัฐบาลพร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานให้ดียิ่งขึ้น

วันนี้ (1 พ.ค. 58) เวลา 11.00 น. ณ บริเวณพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติปี พ.ศ. 2558 โดยมี พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายมานิตย์ พรหมการีย์กุล ประธานคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติปี พ.ศ. 2558 ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน สภาองค์กรลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย สภาองค์กรลูกจ้างสภาแรงงานอิสระแห่งประเทศไทย รัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการจัดงานวันแรงงาน ประชาชนผู้ใช้แรงงาน ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวรายงานว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันเมย์เดย์ (May Day) หรือวันแรงงานสากล ที่มีความหมายอย่างยิ่งต่อผู้ใช้แรงงาน กระทรวงแรงงานถือเป็นกระทรวงหลักในการดูแลความเป็นอยู่และคุ้มครองการทำงานของผู้ใช้แรงงานทั้งในระบบและนอกระบบ และแรงงานที่ไปทำงานในต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นให้ผู้ใช้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความมั่นคงในการทำงานมีศักยภาพในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ ทั้งนี้ได้มีการบริหารจัดการและพัฒนาภารกิจด้านข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะของฝ่ายต่าง ๆ ทั้งของนายจ้าง ลูกจ้าง แรงงานทั่วไป ฝ่ายวิชาการทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งในปีที่ผ่านมากระทรวงแรงงานได้นำข้อเสนอและข้อเรียกร้องจากผู้ใช้แรงงานมาทบทวนและดำเนินการให้เกิดความก้าวหน้าในหลายประเด็น ที่ผ่านมากระทรวงแรงานได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะจากผู้ใช้แรงงาน ซึ่งจะนำมาปรับปรุงการดำเนินการของกระทรวงแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความยั่งยืน และความมั่นคงในการพัฒนาประเทศ          รวมถึงเสนอข้อเรียกร้องของผู้ใช้แรงงาน จำนวน 11 ข้อ ในครั้งนี้ด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แรงงานคือบุคคลที่มีความสำคัญต่อระบบการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและการเจริญเติบโตของภาคธุรกิจด้านต่างๆ อีกทั้ง ยังเป็นพลังขับเคลื่อนการทำงานในทุกกระบวนการทั้งภาคการผลิตและการบริการ เป็นฟันเฟืองที่ผลักดันให้ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมเจริญเติบโตส่งผลให้ฐานเศรษฐกิจของไทยมีความมั่นคงมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการทุกภาคส่วนในการร่วมกันทำงานเพื่อพัฒนาคุณภาพงานให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมที่จะแก้ปัญหาเรื่องแรงงานที่ยังคงเป็นปัญหาสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศ โดยจะนำปัญหาเหล่านี้มาคลี่คลายและดำเนินการในแต่ละเรื่อง เพราะบางเรื่องก็สามารถดำเนินการได้ ส่วนบางเรื่องยังต้องอาศัยระยะเวลา อีกทั้ง รัฐบาลจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ผู้ประกอบการ ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศ และแรงงานที่มีอยู่ประมาณ 30 กว่าล้านคน ภาคการเกษตร 15 ล้านคน และแรงงานอีก 16 ล้านคน และยังมีแรงงานต่างชาติอีกนับล้านคน จดทะเบียนไปแล้ว 1.6 ล้านคน ซึ่งขณะนี้ยังมีปัญหาอยู่ แต่รัฐบาลกำลังดำเนินการเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะแรงงานไทย ส่วนแรงงานต่างชาติต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลยึดหลักการบริหารจัดการด้วยความเป็นธรรม ความเสมอภาค และความสมัครสมานสามัคคี มีความมุ่งมั่นที่จะดูแลแก้ไขปัญหาแรงงานของประเทศ ตลอดจนการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ใช้แรงงานให้มีความมั่นคงในอาชีพและรายได้ พร้อมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติงาน ตั้งแต่ที่รัฐบาลเข้ามาบริหารงานประเทศ ได้มีการลงทุน BOI กว่าหมื่นโรงงาน ภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนฝีมือแรงงานที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพทั้งภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมที่จะก้าวหน้าไปสู่นวัตกรรมใหม่ๆ ในอนาคต ดังนั้นการส่งเสริมและสนับสนุนแรงงานฝีมือจึงมีความจำเป็นอย่างมาก เพราะจะเป็นการสร้างความภาคภูมิและความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองของแรงงานฝีมือ โดยเฉพาะการจัดสวัสดิการและค่าแรงงานที่มีความเป็นธรรมและเหมาะสมกับความรู้ความสามารถ เพื่อให้ทุกแรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลกับภาคเอกชนต้องร่วมมือกันในการจัดหางบประมาณเพื่อการวิจัยคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้ก้าวทันประเทศอื่น ๆ ประชาชนต้องเป็นศูนย์กลางและเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ รัฐบาลลดบทบาทจากผู้ปฏิบัติมาเป็นผู้อำนวยความสะดวกที่ทำให้ดีขึ้นแต่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันในการพัฒนาประเทศ

          สำหรับการพัฒนาฝีมือแรงงานนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นักลงทุนชาวต่างชาติต่างชื่นชมฝีมือแรงงานไทยมากแต่ในเรื่องภาษายังไม่พัฒนา ทำให้รัฐไม่สามารถยกระดับและขึ้นค่าแรงงานให้สูงได้ ดังนั้น ภาคเอกชนจึงต้องช่วยกันแก้ปัญหาเหล่านี้ร่วมกับรัฐ เพื่อการพัฒนาแรงงานไทยให้มีฝีมือ มีมาตรการที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดความชัดเจนในระบบการทำงานด้วยการอบรมในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานที่ปฏิบัติอยู่หรือเรื่องที่ผู้ใช้แรงงานมีความสนใจและมีประโยชน์ต่อการทำงาน สร้างระบบการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ตลอดเวลา และสนับสนุนการศึกษาต่อเพื่อพัฒนาตนเองให้สามารถก้าวไปอีกลำดับขั้นตามระดับสายงาน          อีกทั้ง รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมของประเทศเพื่อร่วมผลักดันให้เกิดการสร้างประชาคมอาเซียนภายในปี 2558 ที่เน้นการเชื่อมโยงไปสู่ภูมิภาคอาเซียนไม่ว่าจะการลงทุนต่าง ๆ ด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมผลักดันนโยบายการทำงานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้คนทำงานและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีระบบสวัสดิการที่ดีให้กับคนไทยทุกคน อีกทั้ง เศรษฐกิจในปัจจุบันไม่ใช่อยู่ประเทศไทยที่เดียว ซึ่งรายได้ของประเทศประมาณ 3 แสนกว่าล้านได้มาจากส่งออกทั้งหมด 70% ของรายได้ประเทศ ไม่ว่าจะขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก มีการร่วมทุนต่างๆ ด้วย อีกทั้ง ยังมีธุรกิจ SME ขนาดกลาง ขนาดเล็ก ประมาณ 90% อีก 2 ล้าน 6 แสนกว่าบริษัทหรือห้างเล็ก ๆ ที่ทำจดทะเบียนกับรัฐบาลเพียงแค่ 6 แสนกว่าบริษัท อีก 2 ล้านไม่ได้จดทะเบียน ดังนั้น ทุกส่วนนี้อยู่ในการประกอบการทั้งสิ้น เขาเรียกว่า อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของประเทศไทย ซึ่งวันนี้รัฐบาลต้องดูทั้งหมดไม่ว่าเศรษฐกิจระหว่างประเทศด้วย อีกทั้ง ทำอย่างไรจะลดรายจ่ายให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือผู้ประกอบแต่ละบริษัททำสินค้าที่ถูกลง ไม่ต้องมีสีสันมากและขอให้ใช้งานได้ ขณะนี้กำลังดูเรื่องข้อกฎหมายอยู่ แต่ห้ามนำไปขายต่อด้วย

ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณผู้ใช้แรงงานทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด และให้ความร่วมมือในการดำเนินการต่างๆ ซึ่งรัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของผู้ใช้แรงงานทุกคนที่เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานให้เศรษฐกิจของประเทศมีกลไกทางการตลาดและการแข่งขันที่ทัดเทียมนานาประเทศ พร้อมทั้งจะดำเนินการแก้ไขปัญหาพัฒนาฝีมือและศักยภาพแรงงาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานให้ดียิ่งขึ้น

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ชมพูนุท / รายงาน

ที่มา: http://www.thaigov.go.th