สำหรับมาตรการที่ไทยดำเนินการแก้ปัญหาประมงไอยูยูไปแล้วได้แก่การแก้ไขพ.ร.บ.ประมงใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้อีก 2 เดือนต่อจากนี้ และมีการออกกม.ลูกและกฏกระทรวงอุดช่องว่างในกม.ดังกล่าวเพิ่มเติม, การติดตั้งอุปกรณ์ติดตามเรือหรือ VMS ในเรือประมงขนาด 60 ตันกรอสขึ้นไปและการตั้งศูนย์แจ้งการเข้าออกของเรือประมง หรือ port in port out ซึ่งนำร่องไปแล้วใน 4 จังหวัด และจะดำเนินการให้ครบ 22 จังหวัดชายฝั่งทะเล ตั้งแต่ 6 พ.ค. นี้
ทั้งนี้ นายปิติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ชี้แจงว่า จะเสนอ "แผนชาติ" ซึ่งเป็นกรอบเป้าหมายในการต่อสู้กับการทำประมงผิดกฏหมายในประเทศไทยเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเร็ว ๆ นี้ โดยจะนำความเห็นของคณะทำงานอียู ซึ่งจะเข้ามาติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาในประเทศไทยในสัปดาห์หน้ารวมไว้ด้วยเพื่อแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของประเทศไทยต่ออียูและนานาชาติในการแก้ปัญหาดังกล่าว ส่วนแผนปฏิบัติการที่จะต้องแสดงต่ออียูเพิ่มเติมนั้นจะครอบคลุมวิธีปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายแผนชาติดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ อาทิ การตั้งศูนย์ควบคุมการเข้าออกของเรือประมง และการติดอุปกรณ์ติดตามเรือ หรือ VMS นอกจากนี้จะต้องเร่งออกกม.ลูกเพื่ออุดช่องโหว่ของพ.ร.บ.ประมงฉบับใหม่ เพื่อให้ทันกำหนด 2 เดือน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th