นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “ยุทธศาสตร์กระทรวงการคลังด้านการเงินการคลังเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน” เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2558 เวลา 9.00 น. ณ ห้องเพลนนารี 2 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การสัมมนายุทธศาสตร์กระทรวงการคลังด้านการเงินการคลังเพื่อรองรับประชาคมอาเซียนครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และเพื่อให้สาธารณชนเห็นโอกาสของการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมถึงเพื่อเผยแพร่บทบาทของกระทรวงการคลังในการสร้างความมั่นใจว่าภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงการคลังตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับภาครัฐ เอกชน และประชาชนในการเป็นประชาคมอาเซียน และได้เตรียมรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยได้จัดทำยุทธศาสตร์กระทรวงการคลัง ด้านการเงินการคลังเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ซึ่งมุ่งเน้น (1) การอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจให้แก่ภาคเอกชน (2) การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของภาคการเงินการคลัง (3) การเชื่อมโยงภาคการเงินการคลังกับประเทศอื่นๆ และ (4) การให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์จากประชาคมอาเซียน โดยให้มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนที่เป็นการดำเนินการตามแผนการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community Blueprint: AEC Blueprint) และการดำเนินการภายในเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และนำไปกำหนดเป็นกลยุทธ์ มาตราการ โดยมีโครงการรองรับที่เหมาะสม กำหนดหน่วยงานผู้รับผิดชอบ และกำหนดเวลาดำเนินการที่ชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้สามารถติดตามความคืบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินการตามกรอบ AEC Blueprint เป็นที่น่ายินดีว่า ประเทศไทยได้มีการดำเนินการตาม Scorecard ของ AEC Blueprint ไปแล้วถึง 87.1 % ซึ่งสูงกว่าอาเซียนในภาพรวมที่ดำเนินการได้ 77.7 %
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้เริ่มยกร่างยุทธศาสตร์กระทรวงการคลังด้านการเงินการคลังเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ตั้งแต่ปลายปี 2554 โดยได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปรับปรุงร่างยุทธศาสตร์ฯ ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ และบรรจุโครงการ/กิจกรรมที่สนับสนุนการดำเนินการตามร่างยุทธศาสตร์ฯ พร้อมทั้งได้ดำเนินโครงการ/กิจกรรมดังกล่าวแบบคู่ขนานไปกับการปรับปรุงร่างยุทธศาสตร์ฯ ตั้งแต่ปลายปี 2555 อย่างต่อเนื่องตามกรอบระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้
ก้าวต่อไปของประเทศไทยหลังจากปี 2558 ประเทศไทยจำเป็นต้องรักษาความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งเพิ่มศักยภาพในด้านต่าง ๆ ให้ทันสมัยและดียิ่งขึ้นเพื่อให้ประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน และสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ในประชาคมอาเซียนได้ โดยหลักการสำคัญที่นำไปใช้ คือ หลัก “2 S” ซึ่งได้แก่ Sufficiency -การดูแลตัวเองให้พร้อม และ Synergy –การเกื้อกูล ผนึกกำลังในกลุ่มประเทศสมาชิกเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย
การสัมมนาดังกล่าวได้จัดการเสวนาภายใต้หัวข้อ “ยุทธศาสตร์กระทรวงการคลังด้านการเงิน การคลังเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน” และได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่าง ๆ คือ กรมศุลกากร ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มาพูดคุยให้ทราบถึงความพร้อมของประเทศไทยในด้านต่าง ๆ อาทิ การอำนวยความสะดวกในด้านการค้า ระบบ National Single Window และ ASEAN Single Window เพื่อการค้าและการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ การอำนวยความสะดวกในด้านการเงิน เป็นการเปิดเสรีทางการเงินระหว่างธนาคารของประเทศสมาชิก (Qualified ASEAN Bank) เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การอำนวยความสะดวกในด้านการลงทุน การปรับกฎเกณฑ์ให้ใกล้เคียงกันระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อความสะดวกในด้านตลาดทุน เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับบริษัทและนักลงทุนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้
โดยในมุมมองของภาคเอกชน การค้าการลงทุนที่ชายแดนมีการเติบโตอย่างสูง ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการที่ประเทศไทยจะเป็น ASEAN Sourcing เพื่อเป็นแหล่งวัตุดิบให้กับประเทศต่างๆ ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็สามารถนำเข้าวัตุดิบจากต่างประเทศด้วย เป็นต้น
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 02 273 9020
ที่มา : กระทรวงการคลัง
ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th