ตามโรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประมาณต้นเดือนกันยายนนี้จะมีการลงมติของสภาปฏิรูปแห่งชาติเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญ ในส่วนของการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม ตลอดจนคณะทำงานด้านกฎหมายดำเนินการรวบรวมงาน โครงการ แผนงานต่าง ๆ ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่สมัย คสช. จนถึงรัฐบาลปัจจุบันเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินว่า มีเรื่องใดที่ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ผลเป็นอย่างไร ใช้งบประมาณจำนวนเท่าไร รวมถึงเรื่องใดที่มีการดำเนินการไปแล้วมีความคืบหน้าเพียงใด และมีแผนงานที่จะดำเนินการในอนาคตต่อไปอย่างไร ตลอดจนมีโครงการใดที่มีการวางรากฐานไว้เพื่อส่งต่อให้รัฐบาลชุดต่อไปมาดำเนินการ ให้มีการกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ ดังกล่าวให้ชัดเจน เพื่อนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีรับทราบต่อไป ขณะเดียวกันจะมีการเตรียมข้อมูลดังกล่าวไว้สำหรับชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อแสดงให้เห็นถึงการดำเนินงานต่าง ๆ ของ คสช. และรัฐบาลที่เป็นไปด้วยความโปร่งใส รวมทั้งติดตามตรวจสอบการดำเนินการงานและโครงการต่าง ๆ มีความคืบหน้าไปมากน้อยเพียงใด และมีการวางแผนสำหรับอนาคตอย่างไร เป็นต้น
จากกรณีที่ช่วงนี้มีอุบัติเหตุในเรื่องของจักรยานบ่อยครั้ง นายกรัฐมนตรี จึงได้กำหนดแนวทางในการปฏิบัติโดยให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นสำหรับวิธีใช้รถ ใช้ถนน ตลอดจนอุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุต่าง ๆ เช่น หมวกกันน็อคสำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยน และรถจักรยาน รวมทั้งต้องพิจารณาถึง
สาเหตุที่เกิดขึ้นประกอบด้วย อาทิ เมาแล้วขับในช่วงเวลาเช้ามืด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอาจจะมีสถานบริการที่เปิดเกินเวลาที่กำหนด เพราะฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้มงวดสถานบริการต่าง ๆ ควบคู่ไปด้วย ขณะเดียวกันต้องทำความเข้าใจเรื่องการใช้รถใช้ถนนทั้งผู้ที่ขับขี่รถยนต์ และรถจักรยาน ให้มีความเข้าใจและเห็นใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งให้กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และสมาคมที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการในเรื่องเครื่องตั้งฐานสำหรับเลนจักรยานให้มีความเหมาะสมและเกิดความปลอดภัย
สำหรับเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล โดยเฉพาะในช่วงแรกที่มีการบริจาคสิ่งของเครื่องใช้อุปโภคบริโภคนั้น ถือว่ามีความสำคัญเพราะว่าในขณะนั้นอาจจะจัดหาสิ่งของอุปโภคบริโภคลำบาก แต่เมื่อระยะเวลาผ่านมาจนถึงขณะนี้ รัฐบาลเนปาลประกาศว่า วันที่ 3 พฤษภาคม 2558 เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากการกู้ภัยและกู้ชีพมาเป็นเรื่องของการฟื้นฟู จึงขอชี้แจงประชาชนทราบว่าในช่วงเวลาต่อจากนี้รัฐบาลไม่ได้ปฏิเสธรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ประเนปาล เช่น เต้นท์ ผ้าปูรองนอน ผ้าห่ม แต่อย่างไรก็ดีหากเป็นไปได้ขอให้ประชาชนที่ประสงค์จะให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าวเปลี่ยนมาบริจาคเป็นเงินจะมีความสะดวกมากกว่า เพราะการที่จะขนส่งสิ่งของต่าง ๆ เหล่านั้นไปประเทศเนปาลมีข้อจำกัดและต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งจำนวนมาก ดังนั้นจึงขอชี้แจงประชาสัมพันธ์เพื่อให้ฝ่ายต่าง ๆ ได้รับทราบจะได้ให้ความช่วยเหลือได้สอดคล้องและตรงกับความต้องการของประเทศเนปาลอย่างแท้จริง ส่วนเงินบริจาคที่เข้ามานั้น วิธีการช่วยเหลือคือขณะนี้รัฐบาลกำลังหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้ตรงกับความต้องการของเนปาลเช่นกัน เพื่อให้เงินช่วยเหลือดังกล่าวไปถึงมือประชาชนซึ่งประสบภัยที่ประเทศเนปาลอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับกฎหมายสำคัญที่ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีไปแล้วและอยู่ในความสนใจของประชาชน รวมทั้งกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ได้สรุปความคืบหน้าเกี่ยวกับการกฎหมายที่สำคัญ ดังนี้ 1) ร่างพระราชบัญญัติชุมนุมในที่สาธารณะ ขณะนี้ผ่านการพิจารณาสภานิติบัญญัติแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งหลังจากที่ประกาศในราชกฤจานุเบกษาแล้ว 30 วัน ก็จะมีผลบังคับใช้ในทางกฎหมาย 2) ร่างพระราชบัญญัติภาษีมรดก ขณะนี้อยู่ในวันสุดท้ายของการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการของสภาฯ และนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในวาระที่ 2 และ 3 ต่อไป 3) ร่างพระราชบัญญัติสลากกินแบ่ง ขณะนี้ คสช. ได้ออกคำสั่งเพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ขณะที่ในส่วนของร่างพระราชบัญญัติฯ อยู่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาตรวจสอบในขั้นสุดท้าย คาดสัปดาห์หน้าจะสามารถนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี 4) กฎหมายเกี่ยวกับการสำรวจผลิตปิโตรเลียมที่รัฐบาลเคยมีนโยบายว่าจะต้องมีกฎหมายที่ทำให้มีการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแบบต่าง ๆ ได้ครบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัปทาน การสำรวจ ผลิตและแบ่งปันผลประโยชน์ ตลอดจนกรณีที่รัฐบาลเข้าไปร่วมลงทุน จะต้องมีการดำเนินการส่งเข้าคณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ส่งให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) พิจารณารอบสุดท้ายก่อนที่จะนำเสนอคณัฐมนตรีพิจารณาต่อไปใน 1 – 2 สัปดาห์ข้างหน้าตามที่ได้ชี้แจงให้รับทราบ และ 5) ร่างกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยแนวทางในการดำเนินการคือ คสช. อาจจะต้องออกคำสั่งเพื่อแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวไปพลางก่อน ซึ่งอาจจะมีการออกเป็นพระราชกำหนด เพื่อประหยัดเวลาในการดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ
พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการที่ประชุมฯ เกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการให้ประชาชนมีความเข้าใจในเรื่องกฎหมายพื้นฐานที่ประชาชนทั่วไปพึ่งจะต้องรับทราบ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นผู้รับผิดชอบในภาพรวม และให้กระทรวงยุติธรรมจัดทำคู่มือเกี่ยวกับข้อกฎหมายดังกล่าวสำหรับแจกจ่ายให้กับประชาชนต่อไป
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th