พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีหญิงชรา อายุ ๖๒ ปี ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อาศัยอยู่ในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรม ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถูกทอดทิ้งให้ใช้ชีวิตอย่างลำบาก โดยมีหญิงชรา อายุ ๖๘ ปี ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตและเบาหวาน ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องคอยดูแล ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด (พมจ.ร้อยเอ็ด) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง และปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัย ให้เหมาะสม ถูกสุขลักษณะ และกรณีเด็กชาย อายุ ๑๓ ปี ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา หลังผ่าตัดก้อนเนื้อในสมองกดทับเส้นประสาท ครอบครัวมีฐานะยากจน ซึ่งแม่ต้องออกจากงานมาดูแล ลูกชาย ที่จังหวัดปทุมธานี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี (พมจ.ปทุมธานี)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลต่อไป
"กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.)ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คนพิการสามารถเลี้ยงดูพึ่งพาตนเองได้ ไม่เป็นภาระของสังคม และเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยศูนย์พัฒนาอาชีพคนพิการ จังหวัดนนทบุรี ได้ฝึกอาชีพให้คนพิการด้วยการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ขณะนี้ ได้จัดทำโครงการ "จัดตั้งแผนกน้ำดื่มบรรจุภาชนะที่ปิดมิดชิด” ซึ่งเป็นการผลิตน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ โดยจัดจำหน่ายภายใต้ชื่อ "น้ำดื่มประชาบดี” ด้วยวิธีการผลิตที่มีมาตรฐานได้รับการรับรองคุณภาพจาก อย.ทั้งนี้ หากประชาชนสนใจที่จะสนับสนุนและส่งเสริมการเพิ่มรายได้ให้คนพิการในโครงการดังกล่าว สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.๐๒-๕๘๓๘๔๑๕ หรือ www.ddc.go.th” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th