พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แจ้งมาล่าสุดว่า ธุรกิจ E-commerce ในจีนได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตของชาวจีนไปอย่างมาก จาก เดิมที่ซื้อผ่านร้านค้าทั่วไป สู่การสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตที่ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปซื้อสินค้ารวมทั้งบริการอื่นๆผ่านอินเตอร์เน็ต อีกทั้งยังช่วยเพิ่มปริมาณประกอบการและนักธุรกิจ หน้าใหม่ เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม
การสำรวจล่าสุดพบว่า ประชากรจีนราว 1 ใน 4 หรือ กว่า 300 ล้านคน กลายเป็นนักช็อปปิ้งออนไลน์ไปแล้วในขณะนี้ โดยสัดส่วนของนักช็อปออนไลน์จีนคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของนักท่องอินเตอร์เน็ตทั่วเมืองจีน ส่วนใหญ่มีการจับจ่ายซื้อสินค้าผ่านอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่
สำหรับในปี 2558 ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์หลายรายในจีนยังคงเผชิญกับปัญหา เรื่องการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ เนื่องจากสินค้าจะมีราคาสูงขึ้นเมื่อบวกค่าขนส่งและภาษี อีกทั้งยังมีข้อจำกัดทางด้านภาษา และ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาสินค้าปลอมและไม่ได้มาตรฐาน ชาวจีนจำนวนไม่น้อยไม่เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในจีน ทำให้ผู้บริโภคจีนที่มีกำลังซื้อพร้อมที่จะจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะสินค้านำเข้าจากไทย
พลเอกฉัตรชัย กล่าวว่าการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการไทย อีกทั้งยังมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ต่ำกว่า สำหรับการเปิดบริการเปิดร้านออนไลน์บนเว็บไซต์ของผู้ให้บริการรายใหญ่ในจีนอย่าง Taobao.com จะช่วยให้สินค้าไทยสามารถเข้าถึงผู้บริโภคจีนได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้เจ้าของเว็บไซต์ขายทางออนไลน์ยังมีระบบการชำระเงินค่าสินค้าที่สะดวกและปลอดภัย แต่ช่องทางจำหน่ายสินค้าออนไลน์ จำเป็นต้องมีผู้ช่วยที่มีความรู้ด้านภาษาจีนเป็นอย่างดี ถึงอย่างไรก็ตามการจำหน่ายผ่านหน้าร้านค้า(Shop) หรือการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ก็ยังเป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพในการขายสินค้าและเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการไทยควรดำเนินการควบคู่กันไปด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคจีนได้ยิ่งขึ้น และถือเป็นการทดสอบตลาดที่เห็นผลเร็วที่สุด จึงขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการมาใช้บริการ website E-Commerce ของกระทรวงพาณิชย์ คือ Thaitrade.com สำหรับธุรกิจต่อธุรกิจ(B2B) และ Thaicommercestore.com สำหรับธุรกิจไปยังลูกค้าโดยตรงในประเทศ(B2C) ซึ่งมีตัวอย่างการจับคู่ธุรกิจ(B2B)ผ่าน Thaitrade.com ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เป็นตัวกลางเจรจาระหว่างบริษัท Godavari Capital ผู้ซื้อจากอินเดีย กับ บริษัท สุรศิริ จำกัดผู้ขาย โดยการสั่งซื้อกระดาษ A4 มูลค่ากว่า 13 ล้านบาท ได้สร้างความพอใจของการบริการผ่าน Thaitrade.com อย่างมาก
สำหรับมูลค่าการส่งไปจีนปี 2557 มูลค่า 25,084 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และไตรมาสแรก ปี 2558 มูลค่า 5,583 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยกระทรวงพาณิชย์มีแผนผลักดันการส่งออกไปตลาดจีน โดยเน้นเจาะตลาดสินค้าอาหารแปรรูป อาหารฮาลาล โดยใช้ Modern Trade การเข้าร่วมงาน Trade Fair สำคัญๆ รวมทั้งการขยายตลาดสู่เมืองรองด้วย
โดยโครงการล่าสุดที่จะบุกตลาดจีนผ่าน“โครงการพี่จูงน้อง”คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เน้นพา SMEs สินค้าอาหาร/อุปโภค/เครื่องใช้ โดยจำหน่ายในห้าง CP Lotus 79 สาขา ทั่วประเทศจีน และบริษัท ล็อกซ์เล่ย์ จำกัด (มหาชน) เน้นพา SMEs สินค้าอาหารวางจำหน่ายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต Vanguard ของฮ่องกง และมีจุดหมายจะขยายเข้าสู่ตลาดจีนต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th