สำหรับอัตราการเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือนที่ชะลอลงในขณะนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนได้มีการใช้หนี้คืนบางส่วนแล้ว เนื่องจากมีรายได้เพียงพอจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับการที่รัฐบาลมีการให้ใบอนุญาตจัดตั้งนาโนไฟแนนซ์กับผู้ประกอบการแล้ว 6 ราย วงเงินจดทะเบียนกว่า 2,000 ล้านบาท อีกทั้งจะเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการอีกหลายรายในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะมีส่วนทำให้หนี้ครัวเรือนที่เป็นหนี้นอกระบบซึ่งมีภาระดอกเบี้ยสูง ได้เข้ามาสู่ระบบนาโนไฟแนนซ์ซึ่งภาระดอกเบี้ยน้อยกว่า รวมถึงกระทรวงการคลังได้ให้ธนาคารรัฐดูแลลูกหนี้ครัวเรือนที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันด้วยการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ให้น้อยลงรัฐบาลยืนยันว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนกำลังส่งสัญญาณคลี่คลายและไม่น่ากังวล และปัญหาหนี้เสียหรือ NPLในขณะนี้ถือว่ายังไม่เพิ่มสูงมาก โดยเชื่อมั่นว่าสถานการณ์หนี้ครัวเรือนจะค่อย ๆ คลี่คลายลงเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยเฉพาะในปีนี้ที่คาดว่า เศรษฐกิจของประเทศจะมีอัตราการขยายตัวราว 3.7% ซึ่งเพิ่มขึ้นชัดเจนจากปีที่แล้วที่มีการขยายตัวเพียง 0.7%
อย่างไรก็ตาม ปัญหาหนี้ครัวเรือนถือเป็นปัญหาสะสม ก่อนที่รัฐบาลปัจจุบันจะเข้ามาบริหารประเทศ โดยมีสาเหตุหลักมาจากช่วงสถานการณ์น้ำท่วมและโครงการรถยนต์คันแรก ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสนง.คกก.พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะติดตามสถานการณ์หนี้ครัวเรือนอย่างใกล้ชิดและเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ จะส่งผลให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนค่อย ๆ ลดลงต่อไป
สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th