ข้าวไทยในฮ่องกงยึดคืนสัดส่วนกว่า 60% ในไตรมาส 1
นางดวงกมล เจียมบุตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ ฮ่องกง ว่า กรมอุตสาหกรรมและการค้า(Trade & Industry Department : TID) นำเข้าข้าวในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2558 นี้ มีปริมาณทั้งสิ้น 80,400 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.75 โดยนำเข้าจากไทยจำนวน 49,900 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 33,500 ตัน ในช่วงเดียวกันของปีทีผ่านมา ทำให้ไทยมีสัดส่วนการส่งออกข้าวในช่วงไตรมาสแรกถึงร้อยละ 62.2 โดยนำเข้าจากเวียดนาม จำนวน 21,700 ตัน หรือสัดส่วนร้อยละ 27
ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ไทยสามารถส่งออกข้าวไปยังฮ่องกงสูงถึง 49,900 ตัน หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.9 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สัดส่วนการส่งออกของไทยเพิ่มจากร้อยละ 42 เป็นร้อยละ 62 ในขณะที่เวียดนามซึ่งเป็นคู่แข่งของไทยสามารถส่งออกได้เพียง 21,700 ตัน จากจำนวน 31,900 ตัน ของปีที่ผ่านทำให้สัดส่วนการส่งออกของเวียดนามลดลงในไตรมาสที่ 1 จากร้อยละ 40 ในปี 2557 เหลือเพียงร้อยละ 27
การนำเข้าข้าวในปี 2558 นี้ ทางฮ่องกงคาดว่าจะนำเข้าข้าวทั้งสิ้นปริมาณ 300,000 – 330,000 ตัน หรือ เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0 – 5 โดยการแข่งขันด้านคุณภาพและราคาเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับตลาด Re – export คาดว่าจะมีปริมาณประมาณ 13,000 – 15,000 ตัน โดยมีมาเก๊าเป็นตลาดหลัก ส่วนตลาดจีนหลังจากที่จีนปรับนโยบายการนำเข้าจะส่งผลให้สินค้าข้าวจากฮ่องกงเข้าจีนไม่ได้มากนักแต่จะนำเข้าจากประเทศผู้ผลิตโดยตรงเพิ่มขึ้น
นางดวงกมล กล่าวต่อว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ข้าวไทยมีการนำเข้าเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากการปรับตัวลดลงของราคาข้าวหอมมะลิไทยในช่วงเก็บเกี่ยวเมื่อปลายปีที่แล้ว บวกกับความมั่นใจของผู้นำเข้าในคุณภาพของข้าวไทยจากการเดินทางไปกระชับความสัมพันธ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในช่วงเดือนมกราคม และมอบรางวัลให้แก่ผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงในฐานะเพื่อนแท้ที่มีต่อกันมายาวนาน ซึ่งเป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้นและสามารถดึงลูกค้าเก่าแก่มานำเข้าข้าวไทยจนส่งผลให้การส่งออกข้าวไทยกลับมามีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 60 ซึ่งตรงตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งไว้
อย่างไรก็ตามไทยควรทำการประชาสัมพันธ์ข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนข้าวหอมมะลิที่บรรจุถุงจากเมืองไทยที่ได้รับเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิของกรมการค้าต่างประเทศ และที่นำมาบรรจุถุงที่ฮ่องกง (ผู้นำเข้ารายใหญ่กว่าร้อยละ 50 นำเข้ามาบรรจุถุงเอง) นอกจากนี้ ปัจจุบันฮ่องกงประสบปัญหาโกดังขนถ่ายสินค้าโดยเฉพาะโกดังควบคุมอุณหภูมิ เพราะค่าเช่าโกดังมีราคาสูงมาก ดังนั้นหากไทยสนับสนุนการจัดตั้งโกดังเก็บข้าวควบคุมอุณหภูมิที่ท่าเรือจะช่วยชะลอการส่งออกข้าวตั้งแต่การเก็บเกี่ยวเสร็จ ทำให้ชาวนาไม่ต้องรีบขายข้าวและราคาขายจะได้สูงขึ้นด้วย
สำหรับการส่งออกข้าวไทยทุกชนิดไปทั่วโลกในปี 2556 จำนวน 6.6 ล้านตัน มูลค่า 4,420 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 2557 จำนวน 10.9 ล้านตัน มูลค่า 5,349 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และไตรมาสแรก(มค-มีค.) ปี 2558 จำนวน 2.1 ล้านตัน มูลค่า 1,102 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th