พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลคืนความสุขให้ประชาชน โรงรับจำนำในสังกัดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวนทั้งสิ้น ๓๔ แห่งทั่วประเทศ พร้อมจะแบ่งเบาภาระให้กับผู้ปกครองช่วงก่อนเปิดเทอมการศึกษา ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายของบุตรหลาน โดยการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมไปจนถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ คือ เงินต้น ต่ำกว่า ๕,๐๐๐ บาท คิดอัตราดอกเบี้ย ๒๕ สตางค์ต่อเดือน เงินต้น ๕,๐๐๐ – ๑๐,๐๐๐ บาท คิดอัตราดอกเบี้ย ๗๕ สตางค์ต่อเดือน เงินต้น ๑๐,๐๐๑ – ๒๐,๐๐๐ บาท คิดอัตราดอกเบี้ย ๑ บาทต่อเดือน และเงินต้น ๒๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป คิดอัตราดอกเบี้ย ๑.๒๕ บาทต่อเดือน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวต่ำกว่าดอกเบี้ยรับจำนำที่กำหนดไว้ตาม พ.ร.บ. โรงรับจำนำ พ.ศ. ๒๕๐๕
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อว่า จากกรณีเด็ก นักเรียนชั้น ม.๖ อายุ ๑๙ ปี ใน จังหวัดพิจิตร อาศัยอยู่กับย่าตั้งแต่เด็ก เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน โดยเป็นเด็กเรียนเก่ง ครูเตรียมให้สอบโควตาคณะเภสัชศาสตร์ แต่ป่วยเป็นโรคไม่ทราบสาเหตุ ขาซ้ายลีบ ขาขวาบวมโตเหมือนโรคเท้าช้าง ตัวแข็ง หลังแข็ง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร (พมจ.พิจิตร) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
"เนื่องจากในระยะนี้เกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ของประเทศ เช่น จังหวัดเพชรบูรณ์ พบบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายกว่า ๔๐ หลังคาเรือน จังหวัดนครพนม บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายกว่า ๑๔๓ หลังคาเรือน และจังหวัดสุรินทร์ บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายกว่า ๑๐๐ หลังคาเรือน ขอให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทุกจังหวัด ลงพื้นที่เร่งสำรวจกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่ได้รับผลกระทบ และช่วยเหลือตามภารกิจอย่างต่อเนื่อง” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th