นางจิราภรณ์ จันทรศิริ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่าโดยสำนักกฎหมาย ได้ดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ เพื่อยกร่างและพัฒนากฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมเจ้าท่า โดยเฉพาะในส่วนของพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 พบว่ามีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน อาทิ การกำกับดูแลเรือที่เข้า - ออกจากราชอาณาจักร การเดินเรือภายในราชอาณาจักร และการกำกับดูแลบุคลากรที่ทำการในเรือหรือผู้รับจ้างทำงานในเรือ เป็นต้น การจัดทำร่างพระราชบัญญัติฯ ซึ่งครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
แก้ไขชื่อหมวดที่ 2 ในภาค 1 โดยเพิ่มหน้าที่นายเรือเมื่อเวลาเรือเข้ามา หรือออกจากน่านน้ำไทย หรือเมื่อเดินเรือในน่านน้ำไทย
มาตรา 23/1 เพิ่มบทบัญญัติ ให้เรือกำปั่นตามประเภทและขนาดที่เจ้าท่ากำหนด เมื่อจะเดินเรือในน่านน้ำไทยนายเรือต้องแจ้งหรือรายงานต่อเจ้าท่า ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่เจ้าท่าประกาศกำหนด
มาตรา 24/1 เพิ่มเติมบทบัญญัติลงโทษกรณีมีผู้ฝ่าฝืนประกาศกำหนดให้เรือกำปั่นตามประเภทและขนาดที่กำหนด เมื่อจะเดินเรือในน่านน้ำไทยนายเรือต้องแจ้งหรือรายงานต่อเจ้าท่า
มาตรา 118 แก้ไขเพิ่มเติมบทลงโทษกรณีมีผู้ฝ่าฝืนปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต
มาตรา 163/1 เพิ่มบทบัญญัติให้อำนาจเจ้าท่าอนุญาตให้สถาบันจัดชั้นเรือ ดำเนินการตรวจเรือและออกใบสำคัญรับรองตามข้อกำหนดของอนุสัญญาระหว่างประเทศ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและอัตราค่าธรรมเนียมที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 285/1 เพิ่มบทบัญญัติให้อำนาจเจ้าท่าในการออกหนังสือสำคัญประจำตัวคนทำการในเรือ หรือผู้รับจ้างทำงานในเรือ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ รูปแบบ และอัตราค่าธรรมเนียมที่กำหนดในกฎกระทรวง
ทั้งนี้ การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 เป็นการพัฒนากฎหมาย เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเพิ่มประสิทธิผลในการบังคับใช้กฎหมาย ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมเจ้าท่า สำนักกฎหมาย โทร. 0 2233 1311 - 8 ต่อ 292 381
ที่มา : กรมเจ้าท่า
ผู้เสนอ : กองสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
ที่มา: http://www.thaigov.go.th