กรุงเทพฯ. ภายหลังจากการจัดแสดงอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยได้รับเกียรติจาก ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะทำงาน ร่วมทดสอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i3 เพื่อสัมผัสสมรรถนะยานยนต์ระบบไฟฟ้าสมบูรณ์แบบ พร้อมเข้าเยี่ยมชมประสิทธิภาพด้านยนตรกรรมการผลิตของโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ที่จังหวัดระยอง เมื่อเร็วๆ นี้ การทดสอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i3 ในครั้งนี้ เริ่มต้นจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถนนพระรามที่ 6 จนถึงพัทยาในระยะที่หนึ่งและจากพัทยาถึงโรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย จังหวัดระยอง ในระยะที่สอง รวมเป็นระยะทางทั้งสิ้น 193 กิโลเมตร จากนั้นได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ซึ่งเป็นโรงงานแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่สามารถผลิตยนตรกรรมหรูทั้ง 3 แบรนด์ ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีคณะผู้บริหารจากบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย และ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ให้การต้อนรับและร่วมประชุมหารือถึงแนวทางการพัฒนาศักยภาพในด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ด้านยานยนต์ รวมถึงนโยบายการสนับสนุนของภาครัฐต่อโครงการวิจัยและพัฒนาสำหรับผู้ประกอบการในประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันอย่างยั่งยืน
คณะผู้บริหาร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย นำโดย มร. เจฟฟรีย์ กอดิอาโน กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย (ที่ 5 จากซ้าย) พร้อมด้วย นายกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย (ที่ 2 จากซ้าย) ให้การต้อนรับ ฯพณฯ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ที่ 6 จากซ้าย) และคณะทำงาน เนื่องในโอกาสเยี่ยมชมโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย จังหวัดระยอง
บีเอ็มดับเบิลยู i3 เป็นนวัตกรรมยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบพลังงานไฟฟ้าที่มีความล้ำสมัยในด้านเทคโนโลยีที่สุดในโลก เป็นรถยนต์โดยสารคันแรกที่ผลิตจากเส้นใยพลาสติกเสริมคาร์บอน (CFRP) ซึ่งมีน้ำหนักที่เบากว่าเหล็ก 50 เปอร์เซ็นต์ และเบากว่าอะลูมิเนียมประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังคงแข็งแกร่งในระดับเดียวกันหรือดีกว่าส่งผลให้ยานยนต์ระบบไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยูมีน้ำหนักเบาเพียง 1,315 กิโลกรัม และสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 7.9 วินาที ด้วยกำลัง 170 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive สามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 150 กม./ชม.นอกจากนี้ BMW i3 ยังเป็นยานยนต์ระบบไฟฟ้าคันแรกของโลกที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 22 กิโลวัตต์ ระบบไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อนได้ไกลถึง 130-160 กิโลเมตร ในชีวิตประจำวัน และสามารถเพิ่มระยะขับเคลื่อน จากเครื่องยนต์เบนซิน 2 สูบ ขนาด 650 ซีซี ซึ่งมอบกำลัง 25 กิโลวัตต์/34 แรงม้า โดยเครื่องยนต์ดังกล่าวจะผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อเพิ่มระยะขับเคลื่อนสูงสุดได้ถึง 300 กิโลเมตร
สื่อมวลชนติดต่อ
บริษัท คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
สุธาทิพย์ บุญแสง (08-7685-1695 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 102)
เด่นวุฒิ โฮมส์ (08-1143-1892 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 224)
วิชยากร จารุบัณฑิต (08-7325-0410 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 105)
sboonsaeng@carlbyoir.com, dholmes@carlbyoir.com, wjarubundit@carlbyoir.com
เผยแพร่ข่าวโดย : นางสาวศิริลักษณ์ สิกขะบูรณะ
กลุ่มงานประชาสัมพันธ์
สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3727 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834
e-mail : pr@most.go.th
Facebook : sciencethailand
ที่มา: http://www.thaigov.go.th