สถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวล่าสุด
1. สถานการณ์นักท่องเที่ยวพฤษภาคม 2558 ในระหว่างวันที่ 1-13 พฤษภาคม 2558 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเยือนประเทศไทยจำนวน 929,433 คน ขยายตัวร้อยละ 24.3 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยว 2 อันดับแรกคือ จีน และมาเลเซีย และคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องในสัปดาห์ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวในท่าอากาศยานภูเก็ตที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2. รายได้จากการท่องเที่ยว นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 จนถึงปัจจุบัน (13 พ.ค. 58) มีรายได้จากการท่องเที่ยวแล้ว 9.05 แสนล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 18.25 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
3. สถานการณ์ท่องเที่ยวเมืองหลัก จากการสำรวจอัตราการเข้าพักแรมในสถานพักแรมต่างๆ ของเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ และสมุย พบว่าโดยภาพรวมในเดือนมีนาคม 2558 มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยร้อยละ 66 ถึง 77 โดยจังหวัดที่มีอัตราการเข้าพักขยายตัวสูงสุด 2 อันดับแรกคือ เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ
4. สถานการณ์ท่องเที่ยว 12 เมืองต้องห้าม...พลาด พฤษภาคม 2558 ซึ่งประกอบด้วย ตราด นครศรีธรรมราช เพชรบูรณ์ ตรัง ชุมพร จันทบุรี เลย น่าน บุรีรัมย์ ลำปาง ราชบุรี และสมุทรสงคราม จากการสำรวจอัตราการเข้าพักในสถานพักแรมต่าง ๆ พบว่า จังหวัดตรังและจังหวัดตราดมีอัตราการเข้าพักสูงสุด 2 อันดับแรก คือร้อยละ 67.8 และ 68.5 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาพบว่าจังหวัดส่วนใหญ่มีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้น โดยจังหวัดที่มีอัตราการเข้าพักขยายตัวมากที่สุด 2 อันดับแรก คือ สมุทรสงคราม และนครศรีธรรมราช ขยายตัวร้อยละ 23.3 และ 16.2 ตามลำดับ
ผลการประชุมคลัสเตอร์ท่องเที่ยว
ในสัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้จัดประชุมร่วมระหว่างคณะผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้แทนเขตพัฒนาการท่องเที่ยวพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกเขต เพื่อหารือเตรียมการดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวอันจะสร้างความเข้าใจให้เกิดการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเขตพัฒนาการท่องเที่ยวทั้ง 5 เขต ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เกิดการบูรณาการร่วมกัน และเชื่อมโยงกลุ่มจังหวัดในแต่ละเขตพัฒนาการท่องเที่ยวให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว และการกระจายรายได้สู่ชุมชน ซึ่งจะมีการจัดประชุมคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวแต่ละเขตตามกำหนดการดังต่อไปนี้
1. อารยธรรมล้านนา: เชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน, ลำปาง และพะเยา กำหนดจัดประชุมเขตวันที่ 28 พ.ค. 58 ณ จังหวัดเชียงใหม่
2. ฝั่งทะเลตะวันออก: ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด กำหนดจัดประชุมเขตวันที่ 20 พ.ค. 58 ณ จังหวัดชลบุรี
3. อารยธรรมอีสานใต้: นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี กำหนดจัดประชุมเขตวันที่ 18 พ.ค. 58 ณ จังหวัดนครราชสีมา
4. ฝั่งทะเลตะวันตก: เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร และระนอง กำหนดจัดประชุมเขตวันที่ 21 พ.ค. 58 ณ จังหวัดเพชรบุรี
5. อันดามัน: ภูเก็ต, กระบี่, พังงา, ตรัง และสตูล กำหนดจัดประชุมเขตวันที่ 29 พ.ค. 58 ณ จังหวัดภูเก็ต
โครงการ Thailand Academy III
ขอสนับสนุนโครงการดีๆ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อีกโครงการหนึ่งที่เป็นการเปิดมุมมองใหม่ต่อยอดการท่องเที่ยว และพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น คือโครงการ Thailand Academy ซึ่งได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และนับว่า 2 ครั้งที่ผ่านมาในปี 2556 และ 2557 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง เป็นโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มุ่งแบ่งปันประสบการณ์เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นและชุมชน พร้อมนำเสนอความเป็นไทย ที่ไม่ใช่เพียงแค่ได้พบได้เห็นเท่านั้น แต่สามารถสัมผัสและจับต้องได้ โดยเน้นการเสนอขายความหลากหลายของผ้าไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปยังเมืองรองตามโครงการ “เมืองต้องห้าม...พลาด” ของ ททท. เพื่อให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวและรายได้ทางการท่องเที่ยวที่จะเกิดจากกลุ่มตลาดคุณภาพในภูมิภาคยุโรปและตะวันออกลางอย่างยั่งยืน
สำหรับปีนี้ซึ่งเป็นปีท่องเที่ยววิถีไทย ทาง ททท.ก็ได้จัดโครงการฯ ในรูปแบบการเชิญนักออกแบบแฟชั่นระดับโลกจาก 9 ประเทศ ในภูมิภาคยุโรป และตะวันออกกลาง ได้แก่ประเทศอังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี เดนมาร์ก ฟินแลนด์ สวีเดน อิสราเอล และดูไบ มาร่วมกิจกรรม workshop ผ้าไทยทำให้คนเหล่านั้นได้สร้างความเข้าใจในประเทศไทย และBrand Thailand อย่างกว้างขวางเพื่อเปิดมุมมองความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ของชุมชนใน 3 ภูมิภาค 4 เส้นทางโดยการออกแบบผ้าไทย และนำผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบสร้างสรรค์จากผ้าท้องถิ่นมาต่อยอดแลกเปลี่ยนความรู้จากหมู่บ้านหนึ่งไปยังชุมชนอื่นๆ เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาทักษะ รวมถึงนวัตกรรมใหม่ๆ ของผ้าไทยในแต่ละภูมิภาคเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้มากยิ่งขึ้น และในวันนี้ได้นำผลงานการออกแบบของผู้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวมาจัดแสดงให้สื่อมวลชนได้ชื่นชมกันด้วย
การร่วมงาน Arabian Travel Market (ATM) 2015
เมื่อวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2558 นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.กก. ได้เดินทางไปร่วมงาน Arabian Travel Market (ATM) ครั้งที่ 22 ณ รัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยงานนี้เป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ทั้งนี้ ตลาดตะวันออกกลางเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีการใช้จ่ายสูง และมีศักยภาพในการขยายของจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่ม Niche Market รวมทั้ง ตลาดตะวันออกกลางเป็นกลุ่มที่เดินทางมาประเทศไทยในช่วง Green Season ระหว่างเดือนพฤษภาคม – กันยายน เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวตรงกับฤดูร้อนในภูมิภาคตะวันออกกลาง จึงเป็นช่วงจังหวะให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ตลอดทั้งปี
รมว. กก. ได้ย้ำความเชื่อมั่นในการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยแก่สื่อมวลชน ผู้บริหารบริษัทนำเที่ยว และตัวแทนสายการบินที่มาร่วมงาน โดยประชาสัมพันธ์ปีท่องเที่ยววิถีไทย (Discover Thainess) อย่างเป็นทางการในตลาดตะวันออกกลาง รวมทั้ง การเป็น Muslim Friendly Destination ของประเทศไทย ระหว่างเข้าร่วมงาน ATM 2015 รมว.กก. ได้นัดหมายหารือกับผู้บริหารระดับสูงของสายการบิน Etihad Airways และ Emirates Airline สายการบินยักษ์ใหญ่ของตลาดตะวันออกกลางเพื่อหารือแนวทางขยายความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มตะวันออกกลาง โดยเน้นเจาะกลุ่มตลาดความสนใจพิเศษ (Niche Market) เช่น ตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม Golf, Honeymoon, Youth Tourism (Thailand Academy project) รวมทั้งการทำ Joint Promotion และสอบถามความเป็นไปได้ในการเพิ่มเที่ยวบินหรือเปิดเส้นทางบินตรงใหม่ๆ เข้าประเทศไทย เช่น อาบูดาบี – เชียงใหม่ หรือ ดูไบ – เชียงใหม่ เป็นต้น และเพื่อเป็นการสนับสนุน การท่องเที่ยวของกลุ่มมุสลิม กรมการท่องเที่ยว ได้จัดทำมาตรฐานร้านอาหารฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว โดยมีเครือข่ายพันธมิตรในการส่งเสริมการท่องเที่ยวฮาลาล มากกว่า 2,300 แห่ง ทั่วประเทศ และในวันที่ 27-30 พ.ค. 58 นี้ จะมีการจัดงานภูเก็ตอันดามัน ฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว 2558 “Muslism Friendly Destination” ณ โรงแรมภูเก็ต เกรชแลนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา และ บริเวณหน้าภูเก็ตแฟนตาซี ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางให้ความสนใจจำนวนมาก โดยระยะเวลาที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยในปี 2556 จำนวน 630,243 คน ปี 2557 จำนวน 593,000 คน และปี 2558 (ม.ค.-มี.ค.) จำนวน 154,656 คน และคาดการณ์ว่าตลอดปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางมาเยี่ยมเยือนประเทศไทยไม่น้อยกว่า 600,000 คน
สถานการณ์ด้านการกีฬา
สำหรับทางด้านการกีฬา ได้นำคณะนักกีฬาดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2557 เข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ณ วังศุโขทัย เพื่อรับพระราชทานถ้วยรางวัล จำนวน 8 ราย ได้แก่ จ่าอากาศโทวุฒิชัย มาสุข (มวยสากล), นางสาวแทมมารีน ธนสุกาญจน์ (เทนนิส), เด็กชายทัศพงศ์ แสงอุทัย (เจ็ตสกี), นางสาว สุกัญญา ศรีสุราช (ยกน้ำหนัก), นายธงชัย ใจดี (กอล์ฟ), สิบโทปชัญญะ หลงชิน (ซูปเปอร์แบงค์ ม.รัตนบัณฑิต), นายเรวัตร์ ต๋านะ (กรีฑาวีลแชร์เรสซิ่ง), นางสาวสาคร ขันทะสิทธิ์ (วีลแชร์เทนนิส)
ธัญญปุระ Sports Hub of Asia
เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา President & CEO Mr. Philipp Graf Von hardenberg และคณะผู้บริหารจาก FINA (สหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ) ได้มาเข้าพบและนำเสนอทุน FINA Olympic ของธัญญปุระ โดยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังและพิจารณาเรื่องที่ทาง FINA ลงนามตกลงร่วม ธัญญปุระ(สถานที่ฝึกซ้อมกีฬาครบวงจรเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวสวยงามในภูเก็ต บนพื้นที่ 170 ไร่) เป็นสถานที่ฝึกซ้อมและเก็บตัว นักกีฬาว่ายน้ำ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงเห็นเป็นโอกาสในการส่งเสริมให้ไทยเป็น Sport Hub ยกระดับกีฬาไทยสู่ระดับนานาชาติ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อทั้งด้านการกีฬาและท่องเที่ยว โดยจะมีการหารือในรายละเอียดกันต่อไป
ความพร้อมและความหวัง 120 เหรียญทอง “ซีเกมส์@สิงคโปร์”
สำหรับการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ ประเทศสิงคโปร์ ระหว่าง วันที่ 5-16 มิถุนายน 2558 ขณะนี้นักกีฬามีความพร้อมเกือบ 100 เปอร์เซนต์แล้ว ทุกสมาคมกีฬาที่มีแข่งขันได้เก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬาตามแผนงานที่ส่งมายังคณะกรรมการเตรียมนักกีฬา ซึ่งได้มีการติดตามการฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิด สภาพความฟิตของนักกีฬาอยู่ในเกณฑ์ดี เชื่อว่าเมื่อถึงช่วงแข่งขันจริงทุกคนจะสมบูรณ์เต็มร้อย นอกจากนี้การที่ได้รับอนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) วงเงิน 308 ล้านบาท น่าจะส่งผลดีต่อสภาพจิตใจของทัพนักกีฬาไทยโดยภาพรวม สามารถบรรลุเป้าหมายที่ทุกสมาคมกีฬาร่วมกันกำหนดไว้คือ 120 เหรียญทอง และการรักษาแชมป์กีฬาสากลที่ไทยเคยครองแชมป์มาก่อนและสามารถสร้างความสุขให้กับคนทั้งชาติ คือ ฟุตบอล วอลเล่ย์บอล และแบดมินตัน เชื่อมั่นว่านักกีฬาไทยจะสามารถป้องกันตำแหน่ง “เจ้าเหรียญทอง” ได้อีกสมัยอย่างแน่นอนและจะคว้าได้ 100-110 เหรียญทอง ส่วนคู่แข่งเจ้าเหรียญทองในครั้งนี้มีเวียดนาม กับอินโดนีเซีย
ความคืบหน้าการพัฒนาเส้นทางจักรยาน
“สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทอดพระเนตรเห็นข่าวผู้ใช้จักรยานประสบอุบัติเหตุหลายรายในช่วงนี้ ทรงห่วงใยต่อสวัสดิภาพของทุกคน เนื่องด้วยพระองค์ก็ทรงจักรยานเพื่อการออกพระพลานามัยเป็นประจำ จึงมีกระแสพระราชดำรัสผ่านท่านนายกรัฐมนตรีขอให้ดูแลการสัญจรบนท้องถนนอย่างทั่วถึง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคน โดยทรงให้สติและทรงพระราชทานคำแนะนำว่า การเคารพกฎจราจรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยลดอุบัติเหตุได้” กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาน้อมรับสนองพระราชดำรัส และได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลกำกับการทำงานให้รัดกุมและเตรียมพร้อมในการจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์การปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพอย่างปลอดภัย
การพัฒนาพื้นที่เส้นทางจักรยาน (Bike Lane) โดยภาพรวมในขณะนี้งบประมาณส่วนใหญ่ได้รับการจัดสรรและอยู่ระหว่างการดำเนินการ เช่น บริเวณสถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link มักกะสัน กทม. และในส่วนของภูมิภาค เริ่มต้นที่ 9 จังหวัด แรกคือ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ ปราจีนบุรี และสระแก้ว ซึ่งในเรื่องนี้ภายหลังการจัดสรรงบประมาณไปแล้วได้ขอให้หอการค้าแต่ละจังหวัดช่วยติดตามการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างจากท้องถิ่น เนื่องจากต้องการให้มีการกระจายรายได้ โปร่งใส และใช้งบเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ที่สำคัญให้เร่งรัดการใช้งบประมาณด้วย โดยกรมพลศึกษาแจ้งว่าไม่เกินวันที่ 6 มิถุนายนนี้ งบประมาณจะลงไปถึงพื้นที่อย่างแน่นอน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th