นายวิเชียร กล่าวว่า ปัจจุบันสำนักงานธนานุเคราะห์ มีสาขาทั้งสิ้น ๓๔ แห่ง ตั้งอยู่ในเขตต่างๆ ของกรุงเทพฯ จำนวน ๒๙ แห่ง ปริมณฑล ๔ แห่ง ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ และส่วนภูมิภาคจังหวัดระยอง ๑ แห่ง โดยสาเหตุที่มีการเปิดที่ทำการโรงรับจำนำของรัฐสาขาที่ ๒๕ แห่งใหม่ นั้น เนื่องจากอาคารเดิมคับแคบ สถานที่ภายในไม่เพียงพอต่อการรองรับการให้บริการประชาชน ดังนั้นจึงย้ายสถานธนานุเคราะห์ ๒๕ ไปจัดตั้ง ณ สถานที่ทำเลแห่งใหม่ เลขที่ ๑๔๔–๑๔๕ ถนนเพชรเกษม ซอยเพชรเกษม ๗๓ แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ (ตรงข้ามห้างบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า) โดยเปิดทำการวันแรกในวันนี้ (๑๕ พ.ค.๕๘) ซึ่งมีการปรับรูปลักษณ์ใหม่หมด ทั้งภายนอกและภายใน เพื่อให้ดูทันสมัยเหมือนสถาบันการเงิน ประชาชนเข้าใช้บริการได้โดยสะดวก พร้อมพัฒนาระบบการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ และนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาสร้างนวัตกรรมใหม่ในการให้บริการ ตอบโจทย์การนำองค์กรก้าวสู่ความทันสมัย บริการที่สะดวกและรวดเร็ว และมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้บริการ
นายวิเชียร กล่าวต่อว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยสำนักงานธนานุเคราะห์ ได้ทำแผนขยายสาขาในส่วนภูมิภาค และการย้ายสาขา เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนของรัฐ โดยเฉพาะโรงรับจำนำของรัฐบาลมากขึ้น รวมทั้งเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาหนี้นอกระบบ หรือสถาบันการเงินอื่นที่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยในเกณฑ์ค่อนข้างสูง โดยสถานธนานุเคราะห์มีการคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง ประกอบกับในช่วงนี้เป็นการเปิดภาคการศึกษาใหม่ของบุตรหลาน จึงถือเป็นการช่วยลดภาระของผู้ปกครอง ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว ประชาชน จะมีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะมีแนวโน้มที่จะใช้บริการโรงรับจำนำเป็นจำนวนมาก
"นอกจากนี้ สถานธนานุเคราะห์ สาขาที่ ๒๕ แห่งใหม่ ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย สำหรับผู้มาจำนำ วันเปิดบริการวันแรก โดยฟรีดอกเบี้ย ๑ เดือน พร้อมรับของสมนาคุณ และอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเพียงร้อยละ ๒๕ สตางค์ต่อเดือน (เงินต้นไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท)ประชาชนที่สนใจสามารถใช้บริการได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ณ สถานธนา นุเคราะห์ สาขาที่ ๒๕ แห่งใหม่ ตรงข้ามห้างบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า ซอยเพชรเกษม ๗๓ กรุงเทพฯ หรือที่สถานธนานุเคราะห์ ในเขตพื้นที่ต่างๆ” นายวิเชียร กล่าวตอนท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th