นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า สมมุติถ้ามีการใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เลือกตั้ง จะมีอะไรรับประกันได้ว่า สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำไว้จะได้รับการสานต่อ เมื่อทุกคนต่างมุ่งหวังเพียงว่า ถ้าจะเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยได้ก็ต้องเลือกตั้ง เราจะทำอย่างไรไม่ให้ปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นมาอีก ซึ่งทุกคนต้องทำตามหน้าที่ ต้องมีธรรมาภิบาล มีคุณธรรม และจริยธรรม จะต้องไม่ทับซ้อนข้าราชการจึงจะเดินหน้าประเทศไปได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เข้าใจว่าทุกคนมีความตั้งใจดี แต่ต้องเห็นใจรัฐบาลบ้าง เพราะรัฐบาลตั้งใจทำมาถึงขนาดนี้แล้ว หรือต้องการจะให้กลับไปเหมือนเดิม ถ้าไม่ต้องการก็ต้องช่วยกันหามาตรการที่เหมาะสมในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพื่อทำอย่างไรจะไม่ให้กลับไปสู่การปฏิวัติอีก ทั้งนี้ ไม่ใช่ไปลดอำนาจใคร อำนาจอยู่ที่คนใช้ทั้งรัฐบาลและหัวหน้าส่วนราชการ
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่านายกรัฐมนตรีไม่มั่นใจใช่ไหมว่ารัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจะไม่เดินตามแผนที่วางไว้ในการ ปฎิรูป นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่มั่นใจ แต่เป็นกังวลว่ารัฐบาลใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศจะทำต่อหรือไม่ หรืออาจจะยกเลิก และแก้ไขก็ได้ จึงต้องหามาตรการว่าทำอย่างไรที่จะไม่ต้องแก้ไขหรือแค่เปลี่ยนแปลงแต่ต้องเดินตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ถ้าทุกคนมองว่าเขียนอย่างนี้หรือมีองค์กรต่างๆ ขึ้นมาดูแล แล้วจะกลายเป็นว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ขอให้กลับย้อนไปดูก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ว่าต้องการประชาธิปไตยแบบนั้นหรือไม่
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของคณะรัฐมนตรีที่เสนอไปยังกรรมาธิการมีหลายเรื่องที่ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านเท่านั้น และไม่ได้เตรียมแผนสำรองเตรียมไว้กรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th