สธ.เร่งหารือ 3 หน่วยงาน ให้ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี เข้าถึงยารักษามากขึ้น

ข่าวทั่วไป Wednesday May 20, 2015 14:32 —สำนักโฆษก

กระทรวงสาธารณสุข เร่งหารือ 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา องค์การเภสัชกรรม และกระทรวงพาณิชย์ แก้ปัญหายาต้านไวรัสตับอักเสบ ชนิดซี เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษามากขึ้น และให้เกิดความเป็นธรรมและสมดุลระหว่างผู้ป่วยและบริษัทผู้คิดค้นยา

วันนี้ (20 พฤษภาคม 2558) ที่ กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับจดหมายเปิดผนึก จากเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ มูลนิธิโอโซน มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการรักษาเอดส์ และชมรมเภสัชชนบท เพื่อมอบให้ ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอให้พิจารณาหาแนวทางแก้ปัญหาราคายารักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี ที่ชื่อว่า “โซฟอสบูเวียร์ (Sofosbuvir)”

นายแพทย์สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในการพิจารณาเรื่องนี้ จะต้องดูที่ระบบยาอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากเป็นยาใหม่ โดยได้ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเร่งดำเนินการ ส่วนในเรื่องกฎหมายจะต้องให้ความเป็นธรรมและเกิดสมดุลทั้งฝ่ายประชาชนในสังคมและบริษัทผู้คิดค้นยา ซึ่งจะต้องหารือร่วมกัน 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา องค์การเภสัชกรรม และกระทรวงพาณิชย์

ทางด้านนายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นายแพทย์สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสนใจเรื่องนี้ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยารักษาได้มากขึ้นและได้ในราคาที่ยุติธรรมเหมาะสมกับสภาวะสุขภาพของคนไทย โดยจะเร่งดำเนินการและช่วยเหลือให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดภาวะคุกคามทางด้านสุขภาพทุกรูปแบบ

สำหรับโรคไวรัสตับอักเสบ ซี พบได้ทั่วโลก ในคนไทยพบได้ร้อยละ 2 โรคนี้สามารถติดต่อได้ทางเลือดและน้ำเหลือง สารคัดหลั่ง ทางเลือด ทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาจเกิดจากการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การสักตามร่างกาย แต่จะไม่ติดต่อการไอ จาม การรับประทานอาหาร การใช้ถ้วยชามร่วมกัน ที่สำคัญหลังจากป่วยเป็นตับอักเสบแล้ว ก็มีแนวโน้มจะเป็นตับอักเสบเรื้อรัง นำไปสู่การเป็นโรคตับแข็ง ใน 10-20 ปี อาจกลายเป็นมะเร็งตับได้ เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เกิดการอักเสบของตับ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแสดงใดๆ จึงไม่รู้ว่าตัวเองเป็นไวรัสตับอักเสบ ซี แต่จะมีเพียงร้อยละ 25-30 ของผู้ป่วยที่จะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง เรียกว่า ดีซ่าน ในการป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ ซี ทำได้โดยไม่ใช้เข็มฉีดยา อุปกรณ์ในการสัก รวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ เช่น แปรงสีฟัน มีดโกนหนวด ร่วมกับผู้อื่น ห้ามบริจาคเลือดกรณีเป็นตับอักเสบ ซี และใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง

20 พฤษภาคม 2558

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ