วันนี้ (4 มิ.ย. 58) เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมอบรางวัลให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่น ประจำปี 2558 พร้อมมอบโอวาทเนื่องในโอกาสวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2558 โดยมี นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อธิบดีกรมการข้าว ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้นำชาวนา องค์กรชาวนาที่ได้รับรางวัล เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2554 ตัวแทนชาวนารุ่นใหม่ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน
สำหรับการมอบรางวัลให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่น ประจำปี 2558 เพื่อให้ประชาชนได้รำลึกถึงความสำคัญของข้าวที่คนไทยใช้เป็นพืชอาหารหลัก รวมทั้งเพื่อเชิดชูเกียรติชาวนาที่ได้เสียสละทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ปลูกข้าวให้คนไทยได้มีอาหารบริโภคอย่างอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมุ่งหวังที่จะสร้างความภาคภูมิใจให้กับลูกหลานชาวนาไทย โดยในปีนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึงชาวนาได้ร่วมกันจัดงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติขึ้น ในวันที่ 5 – 6 มิถุนายน 2558 ณ บริเวณกรมการข้าว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ที่ได้ทรงทำนุบำรุงกิจการด้านข้าวของประเทศมาโดยตลอด รวมทั้งเพื่อเผยแพร่ผลงานด้านการพัฒนาข้าวในทุกมิติประกอบไปด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ที่ทรงงานด้านข้าว การจัดพิธีบูชาแม่โพสพ และพิธีรับขวัญชาวนา การเชิดชูเกียรติชาวนา การจัดเวทีเสวนาของชาวนา การจัดนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับ “ข้าว” การจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าว เป็นต้น
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวมอบโอวาทตอนหนึ่งว่า ต้องการให้เกษตรกร และชาวนามีความเป็นอยู่ที่ดี มีความเข้มแข็ง รวมทั้งมีความภาคภูมิใจในฐานะเป็นกระดูกสันหลังของชาติ รัฐบาลจะใช้ระยะเวลาในการบริหารประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัดแก้ไขปัญหาในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเกษตร ด้านอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเกษตรกรชาวนาต้องสานต่อแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ยั่งยืนต่อไป คือมีความรู้ มีหลักการและเหตุผล พร้อมกับเรียนรู้ที่จะปรับสภาพให้เข้ากับสภาวะดินฟ้าอากาศ รวมถึงพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงปลูกพืชชนิดอื่นแทนการปลูกข้าวอย่างเหมาะสมกับปริมาณน้ำ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับพืชผลทางการเกษตร แก้ไขปัญหาราคาตกต่ำ และผลผลิตไม่ได้คุณภาพ จึงจำเป็นต้องกำหนดพื้นที่เพาะปลูกพืชเพื่อควบคุมปริมาณพืชผลทางการเกษตร และเพื่อง่ายต่อการสนับสนุนและส่งเสริมของรัฐบาล ซึ่งสิ่งที่สำคัญประชาชนต้องช่วยเหลือตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก
ในส่วนของรัฐบาลจะเร่งสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการเกษตรแบบองค์รวม เน้นลดต้นทุนการผลิต พัฒนาคุณภาพสินค้า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ทั้งภาคเกษตรกร และผู้บริโภค พร้อมกับการมีสหกรณ์ที่เข้มแข็งเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาของพืชแต่ละชนิด เพื่อนำไปสู่เป้าหมายในการสร้างชื่อเสียงให้กับข้าวไทย และนำไปสู่การเป็นคลังอาหารของโลก
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและพร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาให้ชาวเกษตรกร ทั้งกลุ่มที่เป็นชาวนา และพืชอื่นๆ ซึ่งจากการติดตามข้อมูลสถานการณ์ตลาดข้าวองค์รวม และสถานการณ์สภาพภูมิอากาศของประเทศเพื่อนบ้าน เชื่อว่าสถานการณ์ข้าวไทยจะดีกว่าประเทศเพื่อนบ้าน จึงขอให้เกษตรกรทุกคนภูมิใจ และมีความหวัง
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบโล่รางวัลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับเขต ประจำปี 2558 จำนวน 4 สาขา ให้เกษตรกร จำนวน 26 ราย แบ่งเป็นดังนี้ เกษตรกรดีเด่น ระดับเขต สาขาอาชีพทำนา จำนวน 8 ราย ศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ข้าวชุมชนดีเด่น ระดับเขต ประเภทข้าวหอมมะลิ จำนวน 5 ราย ศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ข้าวชุมชนดีเด่น ระดับเขต ประเภทอื่นๆ จำนวน 7 ราย และกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวดีเด่น ระดับเขต จำนวน 6 ราย
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th