นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับประธาน ICRC และยินดีที่การปาฐกถา “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” ประสบความสำเร็จและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับชื่นชมว่า ICRC สร้างชื่อเสียงและผลงานให้ปรากฏมาโดยตลอด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้รู้จัก ICRC เมื่อกว่า 30 ปีมาแล้วตั้งแต่สมัยเป็นนายทหาร ประจำการตามแนวชายแดน ที่ อ.ตาพระยา
ประธาน ICRC แสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยที่สนับสนุนการดำเนินงานของ ICRC มาโดยตลอด ICRC ตั้งสำนักงานในประเทศไทยเมื่อปี 2518 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นจากสงครามเวียดนามและกัมพูชาที่เข้ามาในประเทศไทย โอกาสนี้ประธาน ICRC ได้แจ้งเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ของ ICRC ในประเทศไทย เช่น กิจกรรมการฝึกอบรมและสัมมนาเพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร
นายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยพร้อมร่วมมือกับ ICRC ในทุกด้าน เห็นว่าการจัดกิจกรรมอบรมและสัมมนาให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารของ ICRC เป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์เนื่องจากจะช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเรื่องกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้ ไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานสำหรับกลุ่มผู้ต้องขัง โดยได้ผลักดันข้อมติเรื่องข้อกำหนดของสหประชาชาติสำหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำ และมาตรการที่มิใช่การคุมขังสำหรับผู้กระทำผิดหญิง ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความเห็นว่าทุกวันนี้โลกให้ความสำคัญกับบทบาทของสตรี ส่งเสริมให้มีสิทธิที่เท่าเทียม และผลักดันการทำงานของผู้หญิงในทุกวงการ
โอกาสนี้ประธาน ICRC แสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์การโยกย้ายถิ่นฐานที่เกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ โดยแสดงความสนใจและความพร้อมที่จะมีส่วนให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในภูมิภาค โดยสามารถสนับสนุนการประสานติดต่อญาติเพื่อเชื่อมโยงครอบครัวที่ต้องแยกกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงความคิดเห็นว่าการแก้ปัญหานี้ต้องแก้ที่ต้นทาง พร้อมยกปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งเสนอให้ ICRC ใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความช่วยเหลือของภูมิภาค
ประธาน ICRC เห็นพ้องกับแนวคิดของนายกรัฐมนตรี และจะนำแนวคิดนี้ไปแลกเปลี่ยนกับนานาประเทศ พร้อมกล่าวว่า ICRC หวังพัฒนาสังคมให้มีความเข้มแข็ง โดยพัฒนาทางด้านเกษตรกรรม และสร้างเสถียรภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ก่อนจบการสนทนา ประธาน ICRC ยืนยันว่า ICRC พร้อมทำงานกับไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th