ศาสตราจารย์พิเศษชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า เนื่องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของงานตรวจสอบภายในที่จะเป็นผู้สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริหารถึงความมีประสิทธิภาพประสิทธิผลของการปฏิบัติงานขององค์กร ส่งเสริมให้การปฏิบัติงานบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ดูแลให้มีการใช้จ่ายทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่า และมีส่วนผลักดันให้เกิดการกำกับดูแลที่ดีตามหลักธรรมภิบาล ซึ่งการปฏิบัติภารกิจของตรวจสอบภายใน ไม่แตกต่างจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เพียงแต่งานตรวจสอบภายในเป็นผู้ตรวจสอบของหน่วยงาน ในขณะที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้ตรวจสอบจากภายนอก คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินจึงได้มีนโยบายในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับงานตรวจสอบภายในของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้การปฏิบัติงานของตรวจสอบภายในบรรลุเป้าหมายตามภารกิจ ซึ่งจะส่งเสริมให้มีการใช้จ่ายเงินแผ่นดินอย่างมีประสิทธิภาพ
ลดความผิดพลาด ป้องกันการทุจริตที่จะทำให้เกิดความเสียหายกับเงินแผ่นดินและทรัพย์สินของชาติได้ ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ เป็นการเริ่มต้นของความร่วมมือในการสร้างความเข้มแข็งให้กับงานตรวจสอบภายในของหน่วยงานภาครัฐซึ่งจะพัฒนาไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายของการมีเจตนารมณ์ร่วมกันของ ๒ หน่วยงาน
นายมนัส แจ่มเวหา เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ว่า กรมบัญชีกลางมีภารกิจในการควบคุมการจ่ายเงินและควบคุมการใช้จ่ายเงินของส่วนราชการให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จึงได้ตระหนักถึงการสร้างระบบการตรวจสอบภายในของหน่วยงานภาครัฐให้สามารถเป็นเครื่องมือสำคัญของผู้บริหารในการส่งสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าเกี่ยวกับความเสี่ยง
ในการดำเนินงานและช่วยติดตามประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงาน รวมทั้งเป็นกลไกของรัฐที่จะช่วยให้การบริหารงบประมาณและการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานภาครัฐมุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์ของแผนงาน/โครงการตามนโยบายของรัฐบาล และป้องกันหรือลดโอกาสการทุจริตประพฤติมิชอบของทางราชการตลอดจนส่งเสริม
ให้เกิดการบริหารจัดการภาครัฐที่มีความโปร่งใส เป็นธรรม และสามารถตรวจสอบได้
ความร่วมมือระหว่างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินและกรมบัญชีกลางในครั้งนี้เป็นการบูรณาการการตรวจสอบภายในและการตรวจสอบภายนอก เพื่อเสริมสร้างความเข็มแข็งให้กับการตรวจสอบภายในภาครัฐ โดยมีขอบเขตความร่วมมือใน ๒ ด้าน ดังนี้
๑. ด้านการตรวจสอบภายใน โดยร่วมมือกันกำหนดเรื่องและประเด็นการตรวจสอบที่สำคัญในแผนการตรวจสอบประจำปีของหน่วยงานตรวจสอบภายใน และติดตามกระบวนการวางแผนการตรวจสอบและการรายงานผลการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบภายใน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าหน่วยงานภาครัฐได้มี
การปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับและมติคณะรัฐมนตรี ปราศจากความเสียหายหรือการทุจริต และรายงานทางการเงินมีความน่าเชื่อถือ ถูกต้อง และครบถ้วน ซึ่งสามารถสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่ดีของผู้บริหาร
๒. ด้านการควบคุมภายใน โดยร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้และกำหนดหลักสูตรเกี่ยวกับการควบคุมภายในให้กับหน่วยงานภาครัฐ และสนับสนุนให้ผู้ตรวจสอบภายในมีการประเมินผลระบบการควบคุมภายในของหน่วยงานอย่างครบถ้วนและเคร่งครัด เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐมีระบบการควบคุมภายในที่เหมาะสม
และมีประสิทธิภาพ อันจะช่วยให้หน่วยงานภาครัฐบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดประโยชน์ที่จะได้รับจากความร่วมมือในครั้งนี้ ก่อให้เกิดประโยชน์ในทุกภาคส่วน ดังนี้
๑. รัฐบาลมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นว่า การบริหารราชการแผ่นดินจะบรรลุผลสัมฤทธิ์และลดโอกาสการเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นในภาครัฐ
๒. หน่วยงานภาครัฐมีเครื่องมือด้านการควบคุมภายในในส่วนการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้ได้รับการตรวจสอบและข้อเสนอแนะที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในการบริหารราชการได้
๓. กรมบัญชีกลางและสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินสามารถสนับสนุนให้รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐบรรลุผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานและป้องกันการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ในโอกาสต่อไป สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินและกรมบัญชีกลางจะร่วมกันพัฒนาผู้ตรวจสอบภายในเพื่อให้การปฏิบัติงานของผู้ตรวจสอบภายในส่งผลให้แผนงาน/โครงการของหน่วยงานภาครัฐประสบผลสัมฤทธิ์ และมีการบริหารจัดการที่โปร่งใสและเป็นธรรม
ร่วมส่งเสริมธรรมาภิบาลภาครัฐ
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และ กรมบัญชีกลาง
ที่มา : กระทรวงการคลัง
ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th