ภายหลังการหารือ พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบกับเอกอัครราชทูตเม็กซิโกในวันนี้และยินดีที่เอกอัครราชทูตเม็กซิโกที่จะใช้ชีวิตบั้นปลายหลังจากการเกษียณอายุราชการในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยและเม็กซิโก ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวแสดงความขอบคุณเอกอัครราชทูตเม็กซิโก สำหรับการมีส่วนในการสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเม็กซิโกให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นายกรัฐมนตรีหวังว่ารัฐบาลเม็กซิโกจะแต่งตั้งเอกอัครราชทูตเม็กซิโกประจำประเทศไทยคนใหม่เพื่อสานต่อความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทย-เม็กซิโกต่อไป
ทั้งสองฝ่ายหารือถึงความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยยินดีที่ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับเม็กซิโกครบรอบ 40 ปี ในปี 2558 นี้ ซึ่งขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเม็กซิโก และสถานเอกอัครราชทูตเม็กซิโกอยู่ระหว่างการวางแผนกิจกรรมสำหรับเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างกัน อาทิ การจัดทำตราไปรษณียากรที่ระลึกร่วมกันและการจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ โดยที่ผ่านมาเม็กซิโกมีความเข้าใจอันดีต่อสถานการณ์ในประเทศไทยและสนับสนุนซึ่งกันและกัน สะท้อนถึงความเป็นเพื่อนและความเข้าใจอันดีระหว่างไทยและเม็กซิโก
ในส่วนของความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุน นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ประเทศเม็กซิโกมองไทยเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เม็กซิโกก็เป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทยในภูมิภาคลาตินอเมริกาเช่นกัน โดยมูลค่าการค้าระหว่างไทย-เม็กซิโกได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวแสดงความขอบคุณเอกอัครราชทูตเม็กซิโกที่ช่วยผลักดันให้มีการจัดตั้งสภาหอการค้าไทย - เม็กซิโก โดยมีพิธีเปิดสภาหอการค้าไทย – เม็กซิโกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2558 ส่วนเรื่องการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์เม็กซิโกในไทย นายกรัฐมนตรียินดีที่เม็กซิโกแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์เม็กซิโกประจำกรุงเทพฯ และอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์เม็กซิโกประจำเชียงใหม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตเม็กซิโกต่างหวังว่ากงสุลกิตติมศักดิ์เม็กซิโกที่แต่งตั้งนี้จะเป็นอีกกลไกสำคัญในการผลักดันและส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับเม็กซิโกให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น
เอกอัครราชทูตเม็กซิโกกล่าวว่า ไทยและเม็กซิโกควรประสานความร่วมมือระหว่างกันโดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวและการลงทุน เพราะนอกจากจะทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันแล้ว ยังจะเป็นการเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างกันให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย เอกอัครราชทูตเม็กซิโกหวังว่า การที่นักลงทุนและบริษัทของเม็กซิโกซึ่งจะเดินทางมาเยือนไทยในช่วงปลายปีนี้ จะช่วยทำให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศเพิ่มพูนยิ่งขึ้น
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ทราบว่ากรรมการการเลือกตั้งของไทยได้ไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่เม็กซิโกระหว่างวันที่ 4-7 มิ.ย. 2558 ตามคำเชิญของเอกอัครราชทูตเม็กซิโก ซึ่งข้อมูลจากการไปสังเกตการณ์ดังกล่าว น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเลือกตั้งของไทย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th