ในการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2557 ถึง31 พฤษภาคม 2558 มีประชาชนเข้ารับบริการผ่านศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ จำนวน 1,062,069 เรื่อง สามารถดำเนินการแล้วเสร็จ 1,016,237 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 95.69 แยกตามประเภทการให้บริการ โดยเรียงลำดับจากจำนวนประชาชนที่มาขอใช้บริการ ดังนี้ 1) บริการเบ็ดเสร็จ จำนวน 750,930 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 70.71 2) บริการข้อมูลข่าวสาร จำนวน 149,886 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 14.12 3) เรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ จำนวน 62,031 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 5.84 4) บริการให้คำปรึกษา จำนวน 57,187 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 5.38 5) บริการส่งต่อ จำนวน 33,720 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 3.18 6) งานนโยบายรัฐบาล จำนวน 4,189 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 0.39 และ 7) หน่วยเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 4,126 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 0.38 ทั้งนี้ ในเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 62,031 เรื่อง จำแนกเป็นรายภาค ได้ดังนี้ ภาคกลาง มากที่สุด จำนวน 21,865 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 7,181 เรื่อง รองลงมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 21,244 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 10,124 เรื่อง ภาคเหนือ จำนวน 10,489 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 4,206 เรื่อง และภาคใต้ จำนวน 8,433 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 3,357 เรื่อง สำหรับเรื่องที่ยังไม่แล้วเสร็จ จะได้เร่งรัดดำเนินการเพื่อให้ได้ข้อยุติโดยเร็วต่อไป
สำหรับการให้บริการของศูนย์ดำรงธรรมที่ผ่านมา สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้เป็นผลสำเร็จในหลายๆ เรื่อง อาทิ การสร้างสะพานข้ามลำห้วยเพื่อการสัญจร ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเลย กรณีประชาชนใน 6 หมู่บ้านของตำบลผาขาว อำเภอผาขาว ได้รับความเดือดร้อนจากการสัญจรข้ามลำห้วยพวย ร้องทุกข์ฯ ขอให้หน่วยงานรัฐแก้ไขปัญหาให้ กรณีดังกล่าว สำนักงานจังหวัดเลย ได้เสนอโครงการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กข้ามลำห้วยพวย ตำบลผาขาว อำเภอผาขาว เพื่อขอรับสนับสนุนงบประมาณจาก รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) ที่ได้รับมอบหมายให้กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันได้รับการอนุมัติงบประมาณ และจังหวัดได้มอบอำนาจให้อำเภอผาขาวดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อหาผู้รับเหมาก่อสร้างสะพานดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนต่อไป
การช่วยเหลือผู้ไม่มีที่อยู่อาศัย ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยโสธร กรณีมีผู้ร้องทุกข์ฯ ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากไม่มีที่อยู่อาศัย ปัจจุบันอาศัยเพิงพักภายในโรงเลื่อยไม้ ประกอบกับผู้ร้องเป็นผู้พิการและอายุมากไม่สามารถทำงานได้ ศูนย์ดำรงธรรมฯ ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริงและบูรณาการให้ความช่วยเหลือ โดยมอบเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน และอนุมัติเงินกู้กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (โดยไม่คิดดอกเบี้ย) และแจ้งประสานไปยังเทศบาลเมืองยโสธรปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับผู้พิการให้แก่ผู้ร้องด้วย
การช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู กรณีกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อย อำเภอสุวรรณคูหา จำนวน 12 ราย ร้องทุกข์ว่าได้ทำสัญญาขายอ้อยให้กับนายหน้ารับซื้ออ้อยส่งขายให้กับโรงงานน้ำตาลกุมภวาปี แต่นายหน้ากลับหลบหนีไม่นำเงินมาจ่ายให้กลุ่มเกษตรกรฯ ตามสัญญา ศูนย์ดำรงธรรมฯ ได้ประสานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย ได้ข้อสรุปว่า ผู้บริหารโรงงานน้ำตาลกุมภวาปี ตกลงจะจ่ายเงินค่าอ้อยให้กับกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั้ง 12 ราย และได้มอบเงินดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นสักขีพยาน
นอกจากนี้ ศูนย์ดำรงธรรมได้จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วในการปฏิบัติงาน เพื่อให้การบริการมีความสะดวก รวดเร็ว และสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที เช่น กรณีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีที่มีประชาชนแจ้งเบาะแสว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ตำบลดู่ อำเภอกันทรารมย์ สามารถเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และได้ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการให้บริการของศูนย์ดำรงธรรมสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้ระดับหนึ่ง ทำให้ประชาชนที่มาใช้บริการได้รับความสะดวก รวดเร็ว และมีความพึงพอใจ ทั้งนี้ ศูนย์ดำรงธรรมพร้อมที่จะเป็นที่พึ่งพิงของพี่น้องประชาชนที่มาใช้บริการ ทั้งเรื่องการให้ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และอำนวยความเป็นธรรมให้แก่พี่น้องประชาชน การให้คำปรึกษา และให้บริการประชาชนตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ทั้งนี้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบแนวทางในการดำเนินงาน โดยเน้นเป้าหมายสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้เป็นผลสำเร็จ โดยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนงานของศูนย์ดำรงธรรมในเชิงรุก ซึ่งขณะนี้ กระทรวงมหาดไทยได้เร่งพัฒนาระบบฐานข้อมูลการให้บริการ เพื่อเชื่อมโยงบูรณาการข้อมูลร่วมกับศูนย์บริการอื่นๆ เช่น ศูนย์ให้บริการด้านเกษตร ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC พร้อมรองรับการปฏิบัติในการจัดตั้งศูนย์บริการร่วม (One Stop Service : OSS) ในระดับพื้นที่ โดยได้นำระบบ Application Spond และเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยพัฒนางานบริการให้เข้าถึงประชาชนได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มคุณภาพ/ประสิทธิภาพการให้บริการของศูนย์ดำรงธรรมเชิงรุก รวมทั้งพัฒนาบุคลากร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนของศูนย์ดำรงธรรมให้ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน เพื่อให้การบริการและการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนบรรลุเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th