นายกรัฐมนตรียืนยันการบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำประแสร์ไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม

ข่าวทั่วไป Wednesday June 10, 2015 17:18 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรียืนยันการบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำประแสร์ไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม

วันนี้ (10 มิ.ย.58) เวลา 15.30 น. ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาประแสร์ ตำบลชุมแสง อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ปฏิบัติราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดระยองว่า วันนี้มาเดินทางมาเยี่ยมประชาชนทั้ง 2 จังหวัด ซึ่งมี 2 ภารกิจคือดูแลป่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเกี่ยวข้องกับเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย รวมถึงการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งวันนี้ได้นำงบประมาณค้างจ่ายประจำปี พ.ศ.2557 มาใช้ในหลายโครงการ โดยปัญหาเร่งด่วนคือการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ แหล่งกักเก็บน้ำขนาดเล็กเพราะตอนนี้ยังสร้างเขื่อนไม่ได้ และในพื้นที่แล้งซ้ำซากมีปัญหาน้ำท่วมจึงต้องเตรียมการแก้ปัญหาให้ได้ ตั้งแต่การกักเก็บน้ำ ระบายน้ำ ส่งน้ำ อุทกภัย ภัยแล้งซ้ำซาก จนถึงการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร น้ำอุตสาหกรรม น้ำประปา และน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า เกษตร รวมถึงผู้ปลูกข้าว และทำพืชไร่ล้วนใช้น้ำทั้งสิ้น ฉะนั้นวันนี้ที่มีการยกระดับอ่างเก็บน้ำประแสร์เพื่อให้มีการกักเก็บน้ำมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาในช่วงหน้าน้ำเมื่อน้ำล้นขอบทำให้น้ำไหลกลับลงสู่แม่น้ำประแสร์เช่นเดิม ทำให้ใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ วันนี้เมื่อยกระดับขอบอ่างเก็บน้ำให้สูงขึ้น ทำให้ส่งน้ำได้เพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่ปล่อยทิ้งกลับไปข้างล่าง ส่วนข้อเรียกร้องจากชาวบ้านให้มีการใช้อ่างเก็บน้ำแห่งนี้จัดการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อเกษตรกรด้วยนั้น จะส่งไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้องด้านการผลิตไฟฟ้า เพื่อพิจารณาว่าคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ ไม่ใช่ต้องการได้อะไรก็ทำให้ทั้งหมด นอกจากนี้ทางอีส วอเตอร์ จะมีการติดตั้งท่อส่งน้ำประปา 15 จุด และจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน และให้ชาวบ้านได้ใช้น้ำฟรี

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่อีสวอเตอร์ ได้เปลี่ยนตัวผู้บริหารคนใหม่จะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาเดิมได้อย่างชัดเจนหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อย่ามาบอกว่าแก้ปัญหา ทุกคนที่เข้ามานั้นทำเหมือนกับตนเอง เอาทุกเรื่องที่มีความเดือดร้อนมาแก้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติก็เข้ามาแบบนั้น เอาปัญหาที่มีมายาวนาน ปัญหาซ้ำซาก ไม่เกิดผลสัมฤทธิ์มาปรับใหม่ ปัญหาไหนก่อนหลัง ปัญหาไหนช้าเร็วจะทำอย่างไร และต้องไม่ให้เกิดผลประโยชน์รั่วไหล ไม่มีทุจริต พร้อมกล่าวยืนยันว่า การบริหารจัดการน้ำไม่ได้เน้นเฉพาะภาคอุตสาหกรรม เพราะทุกคนมีปริมาณการใช้น้ำอยู่แล้ว แต่ถ้าจะบอกว่าไม่ดูอุตสาหกรรมนั้นไม่ได้ ประเทศไทยต้องอยู่ด้วยหลายอย่าง เกษตรกรรมอย่างเดียวก็อยู่ไม่ได้ วันหน้าจะปลูกสินค้าเกษตรไปขายให้ใคร จึงต้องการให้เปลี่ยนแปลงการปลูกพืชซึ่งต้องกำหนดอุปสงค์ อุปทานให้สอดคล้องกัน และอย่าสอนให้คนคิดในทางที่ไม่ถูกตลอด เพราะโลกเปลี่ยนแปลง ประเทศก็ต้องเปลี่ยนแปลงให้ทันกับสภาวะแวดล้อม ไม่ใช่อะไรก็จะเรียกร้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงเรียกร้องจากเกษตรกรให้นำกำลังทหารมาช่วยในเรื่องการขุดคลอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทหารทำอยู่แล้ว แต่มีกว่า 200 โครงการ ทหารคงไม่สามารถทำทุกโครงการได้ มีเพียงกรมการทหารช่างเพียงกรมเดียวและมีเครื่องมือไม่เท่ากับบริษัทเอกชน ฉะนั้นโครงการไหนที่เร่งด่วน ทหารจะทำ เพราะไว้ใจได้ แต่บางอย่างที่ต้องกระจายเพื่อให้เกิดงานก็ต้องให้บริษัทเอกชนดำเนินการ

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ