เอกอัครราชทูตแคนาดา กล่าวขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีต่อการเข้าร่วมการประชุม Canada-ASEAN Business Forum ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทยระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคม 2558 และการประชุมระหว่างภาคเอกชนไทย-แคนาดา ครั้งที่ 1 ในวันที่ 20 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา และมีความยินดีที่การประชุมดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศซึ่งภาคธุรกิจแคนาดาได้แสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และเห็นว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้นและสามารถเป็นศูนย์กลางของภาคเอกชนแคนาดาในอาเซียน
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยในปีนี้ ที่คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3-4 โดยการการลดลงของราคาน้ำมันส่งผลต่อราคาสินค้าในประเทศที่ทำให้มีต้นทุนต่ำลง ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของราคาน้ำมันที่ลดลง ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกและนำเข้าของทุกประเทศลดลงด้วย รัฐบาลจึงมีมาตรการเพื่อกระตุ้นการลงทุนในประเทศโดยเน้นการลงทุนจากภาครัฐ ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ การขยายโรงงาน ตลอดจน ออกมาตรการส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อลดผลกระทบเชิงลบทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับมาตรการในระยะยาวเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตได้สอบถามถึงความเป็นไปได้และโอกาสของภาคเอกชนแคนาดาที่จะเข้าร่วมโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลไทยมีแผนที่จะลงทุนในขณะนี้ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อาทิ ดาวเทียม โครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 โครงการรถไฟฟ้ารางเดียว (monorail) ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้ให้ความมั่นใจว่าจะมีการคัดเลือกภาคเอกชนอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม โดยประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญ คือ การให้ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยี เนื่องจากประเทศไทยกำลังเปลี่ยนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแบบดิจิตัลและการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาประเทศ
กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th