ในการประชุมดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการจัดหาที่ดินและบริหารจัดการ ได้พิจารณาการจัดที่ดินของรัฐเพื่อใช้ประโยชน์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 1 ซึ่งจะมีการถอนสภาพที่ดินของรัฐที่กำหนดให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ 5 จังหวัด รวมเนื้อที่ประมาณ 6,070 ไร่ รวม 10 แปลง โดยกรมธนารักษ์จะจัดให้หน่วยงานของรัฐเข้าไปใช้ประโยชน์หรือจัดให้เอกชนเช่า หรือจัดให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เช่าตามอัตราค่าเช่าที่คณะกรรมการกำหนด ซึ่งขณะนี้กรมธนารักษ์ได้จัดทำร่างอัตราค่าเช่า ค่าธรรมเนียมของการให้เช่า เงื่อนไขการเช่า และหลักเกณฑ์ต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะได้นำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) เพื่อพิจารณาต่อไป
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ร่วมกับ กรมธนารักษ์ สนับสนุนการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในเรื่องของการจ่ายค่าเยียวยาสิ่งปลูกสร้าง และพืชผลทางการเกษตรให้แก่ราษฎรในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยให้มีการกำหนดระยะเวลาการดำเนินงานที่ชัดเจน จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาถึงความเหมาะสมสำหรับพื้นที่ที่จะมีการก่อสร้างด่านศุลกากรแม่สอดแห่งที่ 2 ซึ่งจะต้องใช้พื้นที่ประมาณ 500 ไร่ รวมไปถึงการติดตามการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณูปโภคประปา – ไฟฟ้า เพื่อรองรับการพัฒนาและการลงทุนในพื้นที่ทั้งในปัจจุบันและระยะต่อไป ด้านประปา โดยการประปาส่วนภูมิภาคได้จัดเตรียมโครงการเพื่อการพัฒนาน้ำประปารองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ได้แก่ แผนเร่งด่วน ปีงบประมาณ 2558 และแผนงานประจำปี 2557 – 2559
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาเสนอพื้นที่ที่มีศักยภาพและความเหมาะสมเพื่อจัดตั้งเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มเติมตามข้อเสนอของจังหวัด ไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการ กนพ. จำนวน 3 จังหวัด 7 อำเภอ 21 ตำบล และ 1 หมู่บ้าน ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร หนองคาย และสระแก้ว เ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th