“กระทรวงเกษตรฯ จำเป็นต้องขอความร่วมมือเกษตรกรชะลอปลูกข้าวนาปีออกไปก่อน เนื่องจากปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยาต่ำกว่าเป้าหมายมาก ขณะเดียวกันปริมาณฝนที่ตกในช่วงเดือน พ.ค.ในภาคกลางก็ต่ำกว่าปี 2557 ถึง 45% แต่กรมชลประทานยังต้องจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ไม่ให้ได้รับผลกระทบ ดังนั้น พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาซึ่งเริ่มฤดูนาปีตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. ซึ่งขณะนี้มีพื้นที่ปลูกข้าวแล้ว 3.44 ล้านไร่ กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ไม่ให้พื้นที่ที่ลงมือเพาะปลูกไปแล้วได้รับความเสียหาย ส่วนพื้นที่ที่ยังไม่เพาะปลูก ได้สั่งการให้หน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับทางจังหวัดในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับเกษตรกรถึงสถานการณ์จริงที่เป็นอยู่ รวมถึงใช้โอกาสนี้เข้าไปสำรวจความต้องการของเกษตรกรที่ต้องชะลอการปลูกข้าวนาปีไปปลูกพืชชนิดอื่นที่ใช้น้ำน้อยกว่าให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณามาตรการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปุ๋ยพืชสด การทำประมง หรือปศุสัตว์ จนถึงช่วงที่ฝนมาปกติ ส่วนพื้นที่อื่นๆ ที่ยังไม่เริ่มฤดูเพาะปลูกทางกรมชลประทานจะติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด โดยภาคตะวันนอก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะเริ่มนาปีในเดือนมิถุนายน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปลูกข้าวโดยวิธีหว่าข้าวแห้งและใช้ฝนธรรมชาติ ก็ไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก ภาคเหนือและตะวันออก เริ่มปลูกในเดือนกรกฏหาคมซึ่งก็ต้องดูสถานการณ์ฝนอีกครั้ง ส่วนภาคใต้และตะวันตกเริ่มปลูกในเดือนสิงหาคม”
อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงวันที่ 14-18 มิ.ย. (ข้อมูล ณ วันที่ 12 มิ.ย.58) มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นในช่วงวันที่ 12-18 มิ.ย. โดยทั่วประเทศจะมีฝนตกประมาณ 5 – 20 มม.ซึ่งแม้จะเป็นปริมาณฝนที่ไม่มากนัก แต่ก็จะบรรเทาความแห้งแล้งและเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศได้บางส่วน ซึ่งได้สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด โดยสภาพอากาศในทั่วทุกภาคขณะนี้ พบว่ามีความชื้นสัมพันธ์ในอากาศเพิ่มมากขึ้นมากกว่า 60 % โดยเฉพาะภาคเหนือที่มีความชื้นมากกว่า 70% ซึ่งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่มีอยู่ทั้ง 13 ฐาน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ลพบุรี กาญจนบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา ระยอง จันทบุรี อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี สงขลา และอุบลราชธานี พร้อมปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเติมน้ำในเขื่อนและสำรองน้ำให้ได้มากที่สุด
กลุ่มโฆษกและวิเคราะห์ข่าว กองเกษตรสารนิเทศ
สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
โทร 02-2810859 แฟกซ์ 02-2822871
moacnews@gmail.com
www.moac.go.th
www.facebook.com/kasetthai
ที่มา: http://www.thaigov.go.th