นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การสนับสนุนสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ ร่วมกับ พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระหว่างนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ว่า ประเทศไทย มีศักยภาพในการผลิตผลไม้และพืชผักได้หลากหลายชนิด โดยในแต่ละปีสามารถผลิตผลไม้ที่สำคัญ เช่น ลำไย ทุเรียน มังคุด มะม่วง สับปะรด ลิ้นจี่ และเงาะ สำหรับการผลิตผักที่สำคัญ เช่น ข้าวโพดฝักอ่อน ข้าวโพดหวาน หน่อไม้ฝรั่ง และพริก ซึ่งสามารถส่งออกและสร้างรายได้เข้าประเทศได้ถึงปีละกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท โดยมีมูลค่าการส่งออกผลไม้สดแช่แข็งและผลไม้แห้งประมาณปีละ 8,000 ล้านบาท และมีมูลค่าการส่งออกผักสดและผักแช่แข็งประมาณ 1,000 ล้าน แสดงถึงศักยภาพที่จะสามารถขยายตลาดต่อไปได้ในอนาคต
โดยมีสถาบันเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศประมาณ 73,000 แห่ง ที่ให้การสนับสนุนด้านผลิตภัณฑ์การเกษตรได้ตลอดทั้งปี และสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับผลิตภัณฑ์การเกษตรของไทยสู่ตลาดโลก โดยตัวอย่างผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ทุเรียนทอดกรอบ ลำไยอบแห้ง สับปะรดกระป๋อง ไอศกรีมมังคุด และมะม่วง เป็นต้น ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สนับสนุนและส่งเสริมให้สถาบันเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน หันมาแปรรูปผลไม้และพืชผักเกรดรองหรือที่ยังไม่ได้มาตรฐาน ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน มีการรับรองด้านความปลอดภัย เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลไม้และพืชผัก รวมทั้งโรงบรรจุภัณฑ์ ที่ได้มาตรฐานคุณภาพและถูกสุขลักษณะทั้งจาก GMP และมาตรฐานสินค้า Q สร้างอาชีพที่มั่นคง ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากลงนามเอ็มโอยูแล้ว จะมีการหารือร่วมกันระหว่างบริษัทการบินไทย (จำกัด) มหาชน กับสถาบันเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน โดยมีกรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าไปมีบทบาทในการผลักดันให้มีการซื้อขายผักผลไม้และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรในระยะยาวอีกด้วย
“ความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ กระทรวงคมนาคมในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่ได้ร่วมกันสนับสนุนผลิตภัณฑ์ผลไม้และพืชผักสด รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตรของไทย โดยมีบริษัทการบินไทย (จำกัด) มหาชน เป็นสื่อกลางในการนำผลไม้และพืชผักสด และผลิตภัณฑ์จากสถาบันเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนที่ผลิตได้มาตรฐานตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดไปสู่ผู้บริโภคทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาการบินไทยได้มีการสั่งสินค้าเกษตรเซิร์ฟบนเครื่องบ้างแล้ว เช่น สับปะรดภูแล หรือไอศกรีมมังคุด เป็นต้น”นายปีติพงศ์ กล่าว
กลุ่มโฆษกและวิเคราะห์ข่าว กองเกษตรสารนิเทศ
สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
โทร 02-2810859 แฟกซ์ 02-2822871
moacnews@gmail.com
www.moac.go.th
www.facebook.com/kasetthai
ที่มา: http://www.thaigov.go.th