โดยการเข้าเยี่ยมคารวะในวันนี้ เพื่อแนะนำคณะผู้บริหารของหอการค้าญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศไทย สรุปสาระสำคัญการสนทนา ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับคณะผู้บริหารหอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ และเห็นว่าหอการค้าญี่ปุ่นกรุงเทพ มีส่วนสำคัญในการพัฒนาและความร่วมมือหลายด้านในประเทศไทย ซึ่งในวันนี้ประธานหอการค้าญี่ปุ่นได้กล่าวชื่นชมต่อแผนการส่งเสริมการลงทุนฉบับใหม่ ระยะ 7 ปี (2558-2564) ของรัฐบาล ซึ่งเห็นว่าจะช่วยส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนต่อต่างชาติ และตรงกับความต้องการของนักลงทุนญี่ปุ่น
นอกจากนี้ มีการหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมการเปิดสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (International Head Quaters: IHQ) และบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (International Trade Center: ITC) ของรัฐบาล ซึ่ง ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีบริษัทยื่นความจำนงมาแล้วเป็นจำนวนมาก รวมถึงบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่ง โดยรองนายกรัฐมนตรีเห็นว่าการลงทุนในอนาคตจะต้องคำนึงถึงโอกาสทางการลงทุนในภาพรวมระดับภูมิภาค ไม่ได้มองประเทศไทยเป็นประเทศเดียว ซึ่งการส่งเสริม IHQ และ ITC จะสร้างความได้เปรียบในการประกอบธุรกิจในภูมิภาคนี้ เนื่องจากไทยมีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนระบบการทำธุรกรรมทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ และเครือข่ายการขนส่งทางถนนที่ดีเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ การจัดตั้งเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดน ยังสามารถเอื้อประโยชน์ให้กับภาคธุรกิจ ในด้านการลดต้นทุนแรงงานและวัตถุดิบราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งเป็นความร่วมมือสามฝ่ายระหว่าง ไทย-ญี่ปุ่น-เมียนมาร์ รองนายกรัฐมนตรีเห็นว่ามีความก้าวหน้าและต่อไปจะเป็นระเบียงเศรษฐกิจเส้นใหม่ (New Economic Corridor) ที่เชื่อมโยงกับท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งจะเป็นจุดศูนย์กลางในการส่งออกไปยังประเทศต่างๆที่มีความสำคัญในอนาคต
ที่มา: http://www.thaigov.go.th