วันนี้ 23 มิถุนายน 258 เวลา 16.40 น. ณ ท่าอากาศยาน (บน.6) ดอนเมือง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเนื้อหาในรายการคืนความสุขที่ระบุถึงพระครูวิบูลย์ ปัญญาคุณ วัดศรีแสงธรรม จ.อุบลราชธานี ที่ทำแผงโซล่าเซล ผลิตไฟฟ้าใช้เองในวัด และโรงเรียนศรีแสงธรรม ซึ่งขณะนี้มีความขัดแย้งระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และประชาชนที่ทำแผงโซล่าเซลใช้เอง ว่า ต้องดูว่าปัญหาเกิดจากอะไรก็ต้องแก้ที่นั่น เช่น เป็นพื้นที่ที่ต้องขายไฟฟ้าคืนหรือไม่ โดยหากขายไม่ได้ก็สามารถผลิตใช้เองได้ ไม่ได้ห้ามที่จะทำเองใช้เอง แต่จะไปพ่วงในระบบไม่ได้ ซึ่งเป็นหลักการไฟฟ้าทั้งโลก หรือจะเอาแบบอยากทำอะไรก็ทำ อยากขายอะไรก็ขาย อยากใช้ก็ใช้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมีกติกา ซึ่งต้องมาทบทวนปัญหาทั้งหมดว่า อะไรใช้ได้ ใช้ไม่ได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้าบ้านเราไปตั้งแผงโซล่าเซลขึ้นมาบนหลังคาแล้วไปพ่วงเข้าสายหลัก แล้วบอกว่าจะขายไฟฟ้าแบบนั้นไม่ได้ ต้องมีการกำกับกิจการไฟฟ้า หรือเรคกูเรเตอร์ควบคุม ว่าไฟฟ้าในระบบที่ผลิตจากโรงไฟฟ้ามีเท่าไหร่ จากพลังงานทดแทน จากแก๊ส จากโรงงานน้ำมันเท่าไหร่ ทุกอย่างมีเปอร์เซ็นอยู่ วันนี้โครงสร้างพลังงาน 70 % เป็นแก๊สกับน้ำมัน ที่เหลือเป็นพลังงานทดแทนอีก 20 % ซึ่งวันนี้ต้องลดพลังงานจาก 70% เหลือ 50%และเพิ่มจากสัดส่วนพลังงานทดแทนจาก 20% เป็น 40% ถึงจะมีการปรับแก้กฎหมาย แก้ราคาไฟฟ้า ถ้าสมมุติเราจะให้เขาผลิตเอง และขายเข้าระบบสายส่งต้องมีสายส่ง และราคาที่กำหนดไว้ จะมีถึงขนาดว่าปีก่อนนี้ได้กี่สตางค์ และปีนี้มีกฎหมายใหม่ออกมาจะได้กี่สตางค์ ทั้งหมดคือกติกา ทุกคนต้องรับกติกากัน ถ้าทุกคนจะเอาเหมือนกันหมดเป็นไปไม่ได้ ถ้าอยากจะได้ของใหม่ต้องทิ้งของเก่าเพื่อสร้างใหม่ หวังจะได้โควต้าใหม่ ได้ราคาใหม่ แต่ปัญหาคือทุกคนจะเอาเท่ากันหมด เราต้องเปลี่ยนวิธีการคิดของคนไทยใหม่
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th