ดร.ฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยว่า “ขณะนี้ กองทุนฯ ได้ร่วมกับบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ในการเพิ่มช่องทางให้บริการรับชำระหนี้ผ่านทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกสาขา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระเงินคืน เนื่องจากเห็นว่าบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด มีสาขาที่เปิดให้บริการตามห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อต่างๆ ที่ครอบคลุมเข้าถึงผู้กู้ยืมทั่วประเทศ โดยผู้กู้ยืมสามารถนำใบแจ้งหนี้ที่มีบาร์โค้ดในการยื่นชำระหนี้ทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2558 ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมยังคงสามารถจ่ายชำระหนี้ผ่านช่องทางที่มีอยู่เดิม อันได้แก่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา และไปรษณีย์ไทยทุกสาขา ซึ่งในปัจจุบัน กองทุนมีผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระเงินคืนประมาณ 2.9 ล้านราย จึงขอเชิญชวนผู้กู้ยืมจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมภายในกำหนดวันที่ 5 กรกฎาคมของทุกปี ซึ่งถือเป็นวันครบกำหนดชำระเงินคืนกองทุน เพื่อเป็นการส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้ผู้กู้ยืมรุ่นน้อง ไม่ต้องเสียเบี้ยปรับ และไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอีกด้วย โดยสอบถามรายละเอียด การชำระหนี้เพิ่มเติมโทร. 02-6104888”
นายวีรเดช อัครผลพานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด กล่าวถึงโครงการความร่วมมือกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาในการรับชำระหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ว่า “ปัจจุบัน เคาน์เตอร์เซอร์วิส เป็นผู้นำด้านธุรกิจรับชำระในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้พัฒนาระบบการรับชำระเงินค่ากู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาทั่วประเทศ ด้วยความพร้อมและความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการรับชำระที่ยาวนานกว่า 20 ปี และจุดให้บริการชำระเงินทั้งในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่เปิดให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านค้าต่างๆ รวมกว่า 10,000 จุดทั่วประเทศ ทำให้เคาน์เตอร์เซอร์วิส เป็นผู้ที่ให้บริการรับชำระเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ครอบคลุมมากที่สุดในทุกพื้นที่และทุกภูมิภาค”
ที่มา : กระทรวงการคลัง
ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th