เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ฯ เข้าเยี่ยมคารวะ รมว.ศธ.

ข่าวทั่วไป Tuesday June 23, 2015 16:52 —สำนักโฆษก

พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้การต้อนรับนายรูเบ็น เลฟเวอร์มอร์ (H.E. Mr. Reuben Levermore) เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เนื่องในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือความร่วมมือด้านการศึกษา เมื่อวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2558 ที่ห้องรับรองจันทรเกษม

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า นิวซีแลนด์กับไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาเป็นเวลานานในทุกระดับ ทั้งระดับผู้นำ รัฐบาล และประชาชน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ด้านการศึกษาซึ่งทั้งสองประเทศมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิด

ต้องขอขอบคุณเอกอัครราชทูตฯ และรัฐบาลนิวซีแลนด์ที่ให้ความสำคัญด้านการศึกษา รวมทั้งให้การสนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ตามความตกลงด้านการศึกษา (Arrangement between the Ministry of Education of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Education of New Zealand on Education Cooperation) ซึ่งลงนามเมื่อปี พ.ศ.2550 และกรอบความร่วมมือว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนด้านการศึกษาระหว่างรัฐบาลของประเทศนิวซีแลนด์และรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย (Framework for Cooperation on the Education partnership between the Government of New Zealand and the Government of the Kingdom of Thailand) ที่ได้ลงนามเมื่อปี พ.ศ.2556

การดำเนินงานตามความตกลงและกรอบความร่วมมือด้านการศึกษาทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว ทำให้เกิดกิจกรรมด้านการศึกษาร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ประเทศนิวซีแลนด์ส่งนักเรียนนิวซีแลนด์มาประเทศไทยเพื่อเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2556 อีกทั้งรัฐบาลนิวซีแลนด์ได้สนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาระดับปริญญาโทของไทยเพื่อไปศึกษาต่อด้านการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองที่ประเทศนิวซีแลนด์ ทำให้ครูไทยได้รับความรู้และเทคนิคใหม่ในการสอน จึงมีความประสงค์ให้รัฐบาลนิวซีแลนด์สนับสนุนทุนดังกล่าวอย่างต่อเนื่องต่อไป

จากการลงนามกรอบความตกลงข้างต้น รัฐบาลไทยและนิวซีแลนด์จึงได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านการศึกษา (Joint Working Group) ซึ่งมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการของทั้งสองประเทศเป็นหัวหน้าคณะทำงานร่วม แต่ละประเทศจะผลัดกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเพื่อติดตามความก้าวหน้าด้านการศึกษา โดยกระทรวงศึกษาธิการไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งถัดไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการจัดประชุมดังกล่าว

รมว.ศึกษาธิการ ยังได้กล่าวถึงการปฏิรูปการศึกษาของไทย ซึ่งได้มีการจัดทำแผนการปฏิรูปการศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในทุกระดับการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การอาชีวศึกษา และการอุดมศึกษา โดยมีเป้าหมายที่จะดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จภายใน 2 ปีข้างหน้า แต่การจะดำเนินงานให้สำเร็จได้จะต้องให้ความสำคัญกับการปฏิรูปที่ผู้เรียนและในห้องเรียน อีกทั้งมีความต้องการที่จะปฏิรูปการอาชีวศึกษาให้ประสบผลสำเร็จมากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าประเทศไทยจำเป็นจะต้องมีบุคลากรด้านสายอาชีพเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่สถานประกอบการ ภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตรกรรม

สำหรับการปฏิรูปในระดับอุดมศึกษา จะพยายามมุ่งเน้นการทำวิจัยให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาสถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งเน้นที่การสอนและผลิตบุคลากรมากกว่า จึงทำให้ละเลยการทำวิจัย

นอกเหนือจากการปฏิรูปการศึกษาทุกระดับแล้ว จะต้องเน้นหนักในเรื่องของทักษะด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษด้วย ซึ่งการศึกษาของไทยมีความอ่อนแอในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก กระทรวงศึกษาธิการจะพยายามปรับปรุงและดำเนินความร่วมมือกับหลายประเทศมากขึ้น

เชื่อว่านิวซีแลนด์จะเป็นประเทศหนึ่งที่สามารถสนับสนุนและให้ความร่วมมือในการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษได้ หากได้มีการหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว รวมถึงความร่วมมือในเรื่องอื่นในระหว่างการประชุมคณะทำงานร่วมฯ ได้ก็จะทำให้เห็นภาพของการทำงานร่วมกันได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ฯ กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักเรียนนักศึกษาไทยไปศึกษาต่อที่นิวซีแลนด์กว่า 3,000 คน ทั้งในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจนถึงระดับอุดมศึกษา เนื่องจากผู้ปกครองมีความเชื่อมั่นในระบบการศึกษาของนิวซีแลนด์ ขณะนี้สำนักงานมาตรฐานวุฒิการศึกษาแห่งประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand Qualifications Authority : NZQA) มีความร่วมมือด้านการศึกษากับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (Thailand Professional Qualification Institute : TPQI) เพื่อพัฒนาระบบประเมินสมรรถนะ กรอบคุณวุฒิวิชาชีพ และระบบประกันคุณภาพการจัดระดับคุณวุฒิวิชาชีพ จึงกล่าวได้ว่าความร่วมมือด้านการศึกษามีส่วนช่วยในการกระชับความสัมพันธ์ของสองประเทศได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ มีสถาบันการศึกษา ภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์หลายแห่งต้องการเข้ามาดำเนินกิจการในประเทศไทย รัฐบาลนิวซีแลนด์จึงมีความยินดีและดีใจที่จะได้เห็นความสัมพันธ์อันดีที่จะมีเพิ่มขึ้นในอนาคต

ขอขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาลไทยในการลงนามความตกลงด้านการศึกษาทั้ง 2 ฉบับ เชื่อว่าจะเป็นรากฐานของการดำรงความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างสองประเทศ สำหรับช่วงเวลาในการจัดประชุมคณะทำงานร่วมฯ ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพนั้น เอกอัครราชทูตฯ จะนำไปหารือกับผู้เกี่ยวข้องถึงช่วงเวลาในการจัดประชุมที่เหมาะสม โดยอาจเสนอให้มีการจัดประชุมในเดือนกันยายน 2558 ซึ่งรัฐบาลนิวซีแลนด์มีความยินดีที่จะหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนและความร่วมมือด้านการศึกษากับประเทศไทย การจัดตั้งคณะทำงานร่วมฯ ถือเป็นช่องทางที่ดีในการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านการศึกษาของทั้งสองประเทศ

ในนามของสถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ฯ มีความตั้งใจและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้ความร่วมมือด้านการศึกษามีความก้าวหน้า และเพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้คงอยู่สืบไป

กุณฑิกา พัชรชานนท์ – บัลลังก์ โรหิตเสถียร : สรุป/รายงาน

ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี : ถ่ายภาพ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ