วันนี้ (24 มิถุนายน 2558) เวลา 16.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบโอวาทให้แก่คณะผู้แทนประเทศไทยที่จะเดินทางไปแข่งขันคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ โดยมี พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนำคณะผู้แทนประเทศไทยที่จะเดินทางไปแข่งขันคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ประกอบด้วย คณะผู้บริหารสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และคณะผู้แทนประเทศไทยฯ จำนวน 50 คน เข้าพบและรับฟังโอวาท
สำหรับการแข่งขันคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ เป็นการแข่งขันด้านวิชาการของเยาวชนที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยจัดให้มีการแข่งขันคณิตศาสตร์เป็นวิชาแรกเมื่อปีพุทธศักราช 2502 และจัดให้มีการแข่งขันวิชา ฟิสิกส์ เคมี คอมพิวเตอร์ ชีววิทยา เป็นลำดับต่อ ๆ มาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ซึ่งในปี 2558 ประเทศไทยมีนักเรียนมัธยมศึกษาทั่วประเทศสมัครเข้าสอบคัดเลือก ณ ศูนย์สำนักงานส่งเสริมโอลิมปิกวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สอวน. ) 20 แห่ง รวม 70,521 คน มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (มูลนิธิ สอวน.) คัดเลือกนักเรียนจำนวน 208 คน ส่งให้ สสวท. เพื่อจัดอบรม 2 ครั้ง แล้วสอบคัดเลือกนักเรียน 23 คนเป็นผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขัน ณ ประเทศเจ้าภาพที่จัดการแข่งขัน
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบโอวาทให้แก่คณะผู้แทนประเทศไทยที่จะเดินทางไปแข่งขันคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศตอนหนึ่งว่า ขอให้นักเรียนตัวแทนประเทศไทยประสบความสำเร็จนำชัยชนะกลับมาฝากคนไทย เมื่อประสบความสำเร็จกลับมาขอให้อย่าลืมความตั้งใจ และอุดมการณ์ที่วางไว้ ขอให้สานต่อความฝันให้ประสบความสำเร็จทั้งด้านการงาน การเงิน มีอนาคตที่ดี มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของโลก และกลับมาเป็นบุคคลกรที่มีคุณภาพ เป็นเครื่องจักรที่สำคัญช่วยกันพัฒนาประเทศ นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ฝากให้นักเรียนตัวแทนประเทศไทยสร้างมิตรภาพที่ดีกับเพื่อนบ้าน และเป็นหุ้นส่วนที่ดีต่อกันโดยเฉพาะประเทศในอาเซียนเพื่อสร้างความเข้มแข็ง สร้างอำนาจในการต่อรองกับประเทศมหาอำนาจ โดยรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนคนเก่ง และจะผลักดันให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศ ให้มีอาชีพ มีรายได้ เป็นความภูมิใจของประเทศต่อไป
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ทุกวันนี้สังคมได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นสังคมที่เปิดกว้างในการรับรู้ข่าวสารทั้งในแง่ดีและไม่ดี ขอให้เยาวชนรับข่าวสารและแสดงออกอย่างมีสติ พร้อมกับขอให้อย่าให้เกรงกลัวในการทำความดี โดยฝากให้เยาวชนช่วยกันชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและคนในครอบครัวถึงสถานการณ์บ้านเมืองรวมไปถึงระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยในปัจจุบัน ขอให้ทุกคนเคารพกฎหมาย และอยู่ด้วยกันในสังคมอย่างมีความสุขไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th