นายกรัฐมนตรีขอความร่วมมือทุกภาคส่วนช่วยกันแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อรวมพลังกันดูแลสังคมไทยให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น

ข่าวทั่วไป Friday June 26, 2015 14:29 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานมอบโล่ประกาศเกียรติคุณฯ เนื่องใน“วันต่อต้านยาเสพติดโลก” 26 มิถุนายน 2558

วันนี้ (26 มิ.ย. 58) เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่น ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2558 ทั้งนี้วันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันดังกล่าวเป็น “วันต่อต้านยาเสพติดโลก” โดยมี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ให้การต้อนรับ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินชมนิทรรศการ และชมวีดีทัศน์เรื่อง “พลังยิ่งใหญ่ในการแก้ปัญหายาเสพติด” ตามลำดับ

ในโอกาสนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานดังกล่าว ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรี รับมอบเงิน จำนวน 300,000 บาท เพื่อมอบให้ผู้ได้รับรางวัลระดับยอดเยี่ยม จำนวน 3 ราย รายละ 100,000 บาท จาก นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการมูลนิธิ พล.ต.อ. เภา สารสิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต่อมา นายกรัฐมนตรีได้ถวายปัจจัยและโล่ประกาศเกียรติคุณฯ แด่พระภิกษุที่มีผลงานระดับยอดเยี่ยม จำนวน 1 รูป และถวายโล่ประกาศเกียรติคุณฯ แด่พระภิกษุที่มีผลงานระดับดีเด่น จำนวน 9 รูป หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณฯ และเงินรางวัล ได้แก่ มอบโล่ประกาศเกียรติคุณฯ และเงินรางวัลแก่ บุคคลผู้มีผลงานระดับยอดเยี่ยม จำนวน 2 ราย มอบโล่ประกาศเกียรติคุณฯ ให้กับทายาทผู้เสียชีวิตในการปฏิบัติงานป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพเสพติด จำนวน 20 ราย และมอบโล่ขอบคุณศิลปินรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ปี 2558 จำนวน 6 ราย ตามลำดับ

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ สรุปความว่า ยาเสพติดมีอันตรายต่อผู้เสพและสังคม เป็นปัญหาใหญ่ที่มีความซับซ้อน โยงใยในหลายด้าน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาครอบครัว สภาพแวดล้อมในสังคม ทำให้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชน นับวันการระบาดของยาเสพติดมีความรุนแรงและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลตระหนักถึงภัยร้ายแรงจึงได้กำหนดนโยบายให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างครบวงจร เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างจริงจัง

โดยที่ปัญหายาเสพติดมีต้นเหตุใหญ่ๆ จากปัญหาสังคมโดยรวม ทั้งความแตกต่างทางเศรษฐกิจ ทางการศึกษา ฐานะทางสังคม ซึ่งก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมกัน และส่งผลให้ประชาชนบางส่วนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ทราบพิษภัยความร้ายแรงของยาเสพติด รวมถึงการดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด เพื่อเลี้ยงครอบครัว ซึ่งกลุ่มเหล่านี้มักตกเป็นเหยื่อของกระบวนการค้ายาเสพติด และผู้ผลิตยาเสพติดที่มีอิทธิพล การแก้ไขปัญหาจึงต้องดูภาพรวมทั้งหมด ตั้งแต่ต้นเหตุคือรากเหง้าปัญหาสังคมจนไปถึงปลายเหตุคือการจับกุมซึ่งเป็นส่วนสุดท้ายของกระบวนการค้ายาเสพติด โดยสถานการณ์ยาเสพติดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเกิดจากอิทธิพลของกลุ่ม นักค้ารายใหญ่ที่ได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายในกลุ่มพื้นที่ลำเลียง รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกให้เกิดการเคลื่อนไหวได้ง่าย ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ปัญหายาเสพติดไม่หมดสิ้นไปจากสังคม เจ้าหน้าที่รัฐและผู้ที่เกี่ยวข้องจึงต้องทำหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและจริงใจในการขจัดปัญหายาเสพติด คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง

นอกจากนี้ด้วยนวัตกรรมและวิธีการอันหลากหลายของผู้ค้ามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น ผู้ปฏิบัติงานต้องเรียนรู้ ศึกษาเทคโนโลยี ทั้งในส่วนการป้องกันและการรับมือในทุกรูปแบบ ตลอดจนสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างบูรณาการ การกำหนดยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อขจัดปัญหาจึงต้องเริ่มตั้งแต่ต้นทาง คือการควบคุมตัวยา สารตั้งต้น อุปกรณ์ และเคมีภัณฑ์ที่จะเข้าสู่ ประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราอย่างจริงจัง พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือจากหน่วยงานต่างประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวในทุกระดับ เพื่อสกัดกั้นการลำเลียง

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกคน ซึ่งเป็นผู้เสียสละ โดยมีส่วนสำคัญในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บและสูญเสียอวัยวะบางส่วน ตลอดจนเสียชีวิต จึงขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ช่วยดูแลเจ้าหน้าที่และครอบครัวผู้เสียสละเหล่านั้น เพื่อสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือจากภาคเอกชนและภาคประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสที่เป็นประโยชน์ให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อได้รวมพลังกันดูแลสังคมให้ปลอดจากยาเสพติด และเป็นสังคมที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้นต่อไป

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

อภินันท์ จันทรา/รายงาน

ดวงใจ กล่อมจิตต์/ตรวจ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ