โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ครั้งนี้ว่า เพื่อมาประชุมคณะรัฐมนตรี โดยได้เลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดแรกของภาคเหนือ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใดก็ตามในแผ่นดินไทยทุกคนต้องสามารถไปมาหาสู่กันได้โดยไม่ยึดว่าพื้นที่ใดเป็นของใครทั้งสิ้น และการที่คณะรัฐมนตรีเดินทางมาครั้งนี้ก็ทำเพื่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ทุกคน โดยไม่ลืมที่จะนึกถึงและดูแลประชาชนในพื้นที่จังหวัดอื่นทั้ง 76 จังหวัด เช่นกัน เพราะการทำงานของรัฐบาลทำเพื่อประชาชนคนไทยทุกคนทั้ง 70 ล้านคน โดยต้องสร้างความเข้มแข็งให้ทุกคนมีความสุข รวมทั้งประชาชนผู้มีรายได้น้อย ทั้งนี้ประเทศไทยเป็นแผ่นดินของทุกคน เพราะฉะนั้นแผ่นดินนี้ต้องมีผู้นำที่เข้มแข็ง มีธรรมาภิบาล สุจริต นึกถึงประชาชนทุกหมู่เหล่า และอนาคตของประเทศไทยจะต้องถูกกำหนดโดยคนไทยทุกคนโดยไม่ต้องให้องค์กรหรือบุคคลภายนอกประเทศเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ คนไทยต้องแก้ปัญหาด้วยมือของเราให้ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีดำเนินการในวันนี้เพื่ออนาคตของประเทศในวันข้างหน้า แต่จะสำเร็จหรือไม่ก็อยู่ที่ทุกคนร่วมมือกัน จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งทรัพยากรธรรมชาติ ประชาชนมีรอยยิ้มและมิตรไมตรีที่อบอุ่นน่ารัก และมีความรักสามัคคีกัน แต่อย่างไรก็ตามวันนี้เราเป็นประเทศไทยไม่มีการแบ่งแยกว่าเป็นคนในพื้นที่ไหนหรืออยู่ทิศใด ดังนั้นอย่าให้ถูกทำลายจนทำให้ลูกหลานหรือคนรุ่นหลังอยู่ไม่ได้ รวมทั้งในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ ไม่ว่าน้ำ และป่าไม้ ฯลฯ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องร่วมกันสร้างคุณธรรม จริยธรรมในสังคมไทยขึ้นมาให้ได้ และเลือกตั้งรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลเข้ามาบริหารประเทศ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมอย่าให้ใครมาชักจูงหรือโน้มน้าวโดยไม่ฟังเหตุผลตามหลักฐานที่มี รวมทั้งขอให้ประชาชนทุกคนไว้วางใจข้าราชการ โดยปัจจุบันรัฐบาลพยายามที่ขับเคลื่อนให้ข้าราชการได้กลับมาสู่ความไว้วางใจจากประชาชน ส่วนที่มีหลายเรื่องที่ได้สั่งการไปอาจจะยังติดขัดและไม่ลงไปสู่ประชาชนในพื้นที่ รัฐบาลก็จะมาพิจารณาและดำเนินการแก้ไขต่อไป โดยยืนยันว่าต่อไปนี้จะต้องดูแลประชาชนให้ครอบคลุมทุกอาชีพ ตลอดจนประชาชนชาวเกษตรกรที่รัฐบาลให้ความสำคัญภายใต้การดำเนินการอย่างถูกต้องในการที่จะสร้างเครือข่ายของเกษตรกรให้เกิดความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน และสามารถมีอำนาจต่อรองกับพ่อค้าคนกลางได้ วันนี้ประเทศไทยต้องเดินไปข้างหน้าโดยมีการเชื่อมโยงเศรษฐกิจต่าง ๆ ทั้งในระดับชาติ และขนาดกลาง ที่จะเชื่อมต่อการค้าในอาเซียน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจภายในประเทศหรือเศรษฐกิจชุมชนเพื่อให้แต่ละชุมชนในหมู่บ้านมีความเข้มแข็งและมีตลาดค้าของตนเอง โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะดูแลในเรื่องคน ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะดูแลจัดหาสินค้าราคาถูกมาให้ประชาชนจับจ่ายซื้อหาโดยต้องไม่ส่งผลกระทบต่อพันธสัญญาหรือกฎหมายต่าง ๆ ที่มีอยู่
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการจัดเก็บภาษีว่า รัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังที่จะเก็บภาษีประชาชนที่มีรายได้น้อย แต่ต้องทำให้ประชาชนเข้มแข็งก่อนถึงจะมีการเก็บภาษี อย่างไรก็ตามหากไม่มีการเก็บภาษีเลยก็ไม่มีเงินมาพัฒนาประเทศ เพราะฉะนั้นทุกภาคส่วนทั้งธุรกิจในต่างประเทศ ธุรกิจในประเทศและชุมชน ต้องร่วมกันสร้างความเข้มแข็งให้ได้ เพราะเมื่อเศรษฐกิจดี ประชาชนดี กำนันผู้ใหญ่บ้านดี ข้าราชการดี และนักการเมืองดี เศรษฐกิจของประเทศก็จะเติบโตและส่งผลให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น รัฐก็สามารถเก็บภาษีได้ตามเป้าที่กำหนดและนำเงินมาพัฒนาประเทศให้เข้มแข็ง รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำว่า วันนี้น้ำยังมีปัญหามากซึ่งพรุ่งนี้จะได้มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ชัดเจน อย่างไรก็ตามจังหวัดเชียงใหม่ยังถือว่าเป็นจังหวัดที่ไม่ค่อยประสบปัญหาในเรื่องนี้และดีกว่าในหลายพื้นที่ซึ่งประสบปัญหาไม่มีน้ำอุปโภบริโภคและใช้ในการเพาะปลูก จึงได้มีการสั่งการให้เจาะน้ำบาดาลไว้สำหรับอุปโภคบริโภคของประชาชน โดยต้องไม่มีการนำน้ำไปใช้ในการเพาะปลูกพืชเพราะไม่เช่นนั้นก็จะทำให้ไม่มีน้ำเพียงพอในการอุปโภคบริโภค ดังนั้นขอให้ใช้น้ำให้คุ้มค่าเกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งต้องมีการเรียนรู้และเข้าใจ เพื่อผ่านวันเวลาเพื่อที่จะมีความสุขในอนาคตอีกไม่นาน ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าหากทุกคนและทุกภาคส่วนร่วมมือและเข้มแข็ง ทั้งประชาชนและข้าราชการอีกไม่นานก็จะก้าวเดินไปข้างหน้าได้ตามที่มุ่งหวัง ขอให้ทุกคนเลิกทะเลาะกันหันมาปรองดองสมานฉันท์เป็นเพื่อนกัน วันนี้ต้องแก้ปัญหาอย่าให้มีความขัดแย้ง ให้ประเทศมีเสถียรภาพ เพราะเมื่อประเทศใดที่มีเสถียรภาพ ความมั่นคง การเมือง ประเทศนั้นจะเป็นประเทศที่เจริญที่สุดในอนาคตอันใกล้นนี้ พร้อมขอบคุณประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ทุกคนที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและสนับการทำงานตามนโยบายของรัฐบาล
ที่มา: http://www.thaigov.go.th