1. ผลการประชุมคณะกรรมการ สกสค.
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความเป็นมาของการร่วมทุนในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชนของ สกสค. กับบริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด เนื่องจากคณะกรรมการส่วนใหญ่ไม่ทราบรายละเอียด จากนั้นจึงได้มอบหมายนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการ สกสค. ดำเนินการตรวจสอบในรายละเอียดเกี่ยวกับความมั่นคงและความน่าเชื่อถือของโครงการดังกล่าว รวมถึงความเสี่ยงและความคุ้มค่าในการลงทุนด้วย แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีเครื่องบ่งชี้ว่าโครงการดังกล่าวจะส่อไปในทางทุจริต แต่ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีการตรวจสอบในรายละเอียดมากนัก จึงได้มอบหมายให้ สกสค.แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการตรวจสอบก่อนนำข้อมูลที่ได้มาพิจารณาว่าควรจะลงทุนต่อหรือถอนทุนคืน
สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับทราบว่าพื้นที่ที่จะดำเนินการก่อสร้างอาคารดังกล่าวเป็นที่ดินของราชพัสดุ โดยเสียค่าเช่าปีละประมาณ 1.4 ล้านบาท แต่ขณะนี้มิได้มีการดำเนินการใดๆ เนื่องจากติดปัญหาตามที่ทราบกันดี และได้มีการหารือกันว่าจะคืนพื้นที่ดังกล่าวเพื่อมิให้เป็นการเสียค่าเช่าโดยเปล่าประโยชน์ จึงมอบหมายให้ สกสค.หารือกับกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ในการยกเลิกสัญญาเช่า และขอให้กระทรวงศึกษาธิการโดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากที่ดินส่วนนั้นแทนจะได้หรือไม่ ส่วนการสร้างโรงแรมครูดังกล่าว ยืนยันว่าไม่มีแผนงานที่จะดำเนินการ ส่วนในอนาคตต้องดูความจำเป็นต่อไป
นอกจากนี้ ได้มีการรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการทวงเงินคืนจากบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด ที่นำเช็คเงินสดจำนวนกว่า 2,000 ล้านบาทมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันและถูกตรวจสอบได้ว่าเป็นเอกสารปลอม ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้ทำหนังสือถึงผู้บริหารของบริษัทฯ ไปแล้ว 2 ฉบับ เพื่อแจ้งการครบกำหนดเวลาชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยและค่าปรับ จำนวนเงิน 2,500 ล้านบาท และจะดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัทฯ ต่อไป
ที่ประชุมยังได้เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) ชุดใหม่ ซึ่งมีนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการ สกสค.เป็นประธาน
2. ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค.
ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับกรณีที่มีข่าวว่าหนังสือเรียนขององค์การค้าฯ หายไปจากคลังสินค้า โดยนายสุเทพ ชิตยวงษ์ ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.องค์การค้าฯ รายงานให้ที่ประชุมรับทราบว่าการจัดพิมพ์หนังสือเรียนที่เป็นข่าว เป็นการดำเนินการกับบริษัท ศิริวัฒนา อินเตอร์พรินท์ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปี 2556-2557 และพบว่ามีหนังสือเรียนที่ไม่ได้โอนเข้าคลังสินค้ากว่า 5 แสนเล่ม แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าหนังสือเรียนหายจริงหรือไม่ เนื่องจากมีการจัดพิมพ์หนังสือเรียนจำนวนมากและอาจถูกนำไปวางกระจายกันไปหรือปะปนกับหนังสืออื่น ทั้งนี้ ผอ.องค์การค้าฯ แจ้งว่าได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบจำนวนหนังสือเรียนทั้งหมดแล้วและขอเวลาตรวจสอบ 2 สัปดาห์ หากพบว่าหนังสือเรียนหายจริงก็จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ในส่วนของการเลิกจ้างนายสมมาตร มีศิลป์ ผอ.องค์การค้าฯ กรณีที่มีการบริหารงานผิดพลาดและรายงานข้อมูลผลกำไรที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงนั้น ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าจะต้องรอผลการตรวจสอบที่ชัดเจนก่อน หากพบว่ามีการบริหารงานที่บกพร่องจริง ก็อาจเป็นเหตุผลในการพิจารณาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงความจำเป็นที่จะต้องมีองค์การค้าฯ ว่าเป็นอีกเรื่องที่ได้มีการหารือกันในที่ประชุม แต่ไม่ต้องการให้พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ขององค์การค้าฯ เสียขวัญหรือตกใจ เนื่องจากคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ที่ได้เข้ามาตรวจสอบการดำเนินงานขององค์การค้าฯ ตามที่ได้รับคำสั่งการมาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ข้อเสนอแนะว่า ในอนาคตจะมีความจำเป็นที่ต้องมีองค์การค้าฯ มากน้อยเพียงใด ในเบื้องต้นจึงได้สั่งการให้พิจารณาเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างขององค์การค้าฯ ว่าควรจะเป็นอย่างไรเพื่อให้มีความเหมาะสมมากขึ้น
กุณฑิกา พัชรชานนท์
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
25/6/2558
ที่มา: http://www.thaigov.go.th