“ที่กลุ่มสหกรณ์หลายกลุ่มมากันในวันนี้(25) ก็เพื่อขอบคุณที่ได้รับมอบใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน จากกระทรวงอุตสาหกรรม เนื่องจากที่ผ่านมาผลผลิตที่ออกมาไม่ได้มีการรับประกันว่าจะมีผู้ซื้อหรือไม่ แต่การที่มีโรงงานแปรรูปที่นอกจากเป็นการเพิ่มมูลค่าของน้ำยางดิบแล้ว ยังสามารถต่อยอดไปทำผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น การทำผลิตภัณฑ์ยางล้อรถยนต์/รถจักรยานยนต์ได้อีกด้วย
เท่าที่ทราบคือ ตอนนี้มีผู้ประกอบการบริษัท อุตสาหกรรมยางเฮิงเฟิงหยวนฮ่องกง จำกัด ของจังหวัดซานตง ประเทศจีน ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยางล้อรถยนต์ ได้ลงนามในสัญญากับสหกรณ์สวนยางบ้านแก่ง ในการรับซื้อผลิตภัณฑ์ยางคอมพาวด์ทั้งหมดที่ผลิตได้ ทำให้สมาชิกสหกรณ์มีความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ยางที่ผลิตได้ จะมีผู้รับซื้อ และมีตลาดรองรับ ซึ่งจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรดีขึ้น ขณะเดียวกันการตั้งโรงงานในพื้นที่ยังทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่ได้อีกด้วย” นายจักรมณฑ์ กล่าว
ด้านนายเดชา กุชาติ เลขานุการคณะกรรมการ สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านแก่ง จำกัด กล่าวว่า การที่สมาชิกสหกรณ์ฯ มาขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในวันนี้(25) ก็เพื่อขอบคุณกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ให้โอกาสเกษตรกรและสนับสนุนสหกรณ์ฯและสมาชิกสหกรณ์ฯ ให้ตั้งโรงงานแปรรูปยางพารา ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีทางออกและมีชีวิตที่ดีขึ้น มีกำลังใจและมั่นใจในการประกอบอาชีพต่อไป
ทั้งนี้ โรงงานแปรรูปยางพาราของสหกรณ์บ้านแก่ง จำกัด จัดอยู่ในประเภทโรงงานลำดับที่ 52(3) เป็นโรงงานขั้นกลาง ซึ่งผลิตยางแผ่นรมควัน การทำยางเครป ยางแท่ง ยางน้ำ หรือการทำยางให้เป็นรูปแบบอื่นใดที่คล้ายคลึงกันจากยางธรรมชาติ โดยโรงงานในประเภทนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 923 ราย โดยเป็นสหกรณ์ 447 ราย
โรงงานแปรรูปยางพาราขั้นต้นที่ได้รับการอนุญาตประกอบกิจการ มีจำนวน 156 ราย และโรงงานแปรรูปยางพาราขั้นปลายที่ทำผลิตภัณฑ์ยางจากธรรมชาติ หรือยางสังเคราะห์ มีจำนวน 699 ราย ส่วนโรงงานผลิตยางล้อรถยนต์/รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 553 ราย ซึ่งถือว่ายังมีจำนวนน้อย เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นผู้ผลิตยางดิบอันดับหนึ่งของโลก การตั้งโรงงานจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการใช้วัตถุดิบในอุตสาหกรรมยางพาราเพิ่มขึ้นอีก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th